หนี้บัตรเครดิต หลายใบ แก้แบบไหนดี สินเชื่อปิดบัตร vs จ่ายตามกำหนดเรื่อย ๆ
หนี้สินก้อนแรกของใครหลายคนก็มักจะเป็นหนี้บัตรเครดิต เพราะบัตรเครดิต ถือเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สมัครง่าย มีพร้อมกันได้หลายใบ ช่วยให้เราสามารถใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม แต่บางครั้งรูดเพลินไป หรือกำลังประสบปัญหาทางการเงิน มันก็มีโอกาสที่จะพัฒนากลายเป็นหนี้พอกตามมาได้ และอย่างที่ทุกคนรู้ว่าหนี้บัตรเครดิตคิดอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง การรีบจัดการเคลียร์หนี้ดังกล่าวถือเป็นเรื่องด่วน แล้วเราควรทำยังไงดีให้ปิดหนี้ได้เร็วที่สุด วันนี้เราจะพามาดูกันว่า หนี้บัตรเครดิต หลายใบ แก้แบบไหนดีกว่า สินเชื่อปิดบัตร vs จ่ายตามกำหนดเรื่อย ๆ
หนี้บัตรเครดิต หลายใบ แก้แบบไหนดี ระหว่างสินเชื่อปิดบัตร vs จ่ายตามกำหนดเรื่อย ๆ
หากใครมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ อยากปิดหนี้ แต่ยังชั่งใจอยู่ว่าจะมีวิธีไหนที่เหมาะกับการปิดหนี้มากที่สุด จะเลือกจ่ายดอกเบี้ยตามกำหนดไปเรื่อย ๆ หรือกู้สินเชื่อเพื่อปิดหนี้เลยดีกว่า เรามีคำตอบมาฝาก
สินเชื่อปิดบัตร หรือสินเชื่อรวมหนี้บัตร
เป็นการที่เรานำเอาหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูง อย่างเช่นหนี้บัตรเครดิต หนี้บ้าน หรือแม้กระทั่งหนี้สินประเภทสินเชื่อรายย่อยอย่างอื่นก็ได้ ซึ่งเป็นหนี้สินของเจ้าหนี้หลายรายนำเอามารวมเอาไว้ในที่เดียว
โดยทั่วไปเมื่อเราเปิดขอสินเชื่อใหม่ จะได้รับดอกเบี้ยที่ต่ำมาก วิธีนี้จึงช่วยให้เรานั้นจ่ายดอกเบี้ยต่อเดือนลดลง ระยะเวลาการผ่อนชำระก็สามารถยืดหยุ่นได้มากขึ้น บางสินเชื่อให้ระยะเวลาผ่อนชำระกว่า 5 ปี แถมวงเงินสูงสุดยังมากถึง 5 เท่าของรายได้ ช่วยให้เราสามารถจัดการได้ง่ายเพราะเป็นหนี้สินก้อนเดียวกับของเจ้าหนี้ผู้เดียว แถมยังเพิ่มสภาพคล่องให้กับเราได้ในระยะสั้น โดยเราก็นำเงินที่กู้กับสินเชื่อรูปแบบนี้ไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตทุกใบให้หมด
แนะนำ 5 สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต
-
สินเชื่อส่วนบุคคลซิตี้
สมัครสินเชื่อรวมหนี้กับทางซิตี้ รับสิทธิ์ผ่อนเบา ๆ ที่หมื่นละ 213 บาท/เดือน นานสูงสุด 60 เดือน โดยไม่ต้องค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 9.99% กับวงเงินสูงสุด 2 ล้านบาท
-
สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย
กำหนดระยะเวลาผ่อนชำระได้ตามความต้องการ เริ่มต้นตั้งแต่ 12 – 60 เดือน หากปิดหนี้ก่อน 2 ปีหรือก่อนหมดสัญญาจะมีค่าปรับ 1% จากวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ ส่วนดอกเบี้ยนั้นอยู่ที่ 17% ต่อปีขึ้นไป สูงสุดไม่เกิน 26% ต่อปี
เพียงมีรายได้ขั้นต่ำตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไปต่อเดือนก็สามารถกู้ได้ วงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 1,500,000 บาท
-
สินเชื่อเอนกประสงค์ 5 PLUS ธนาคารกรุงไทย
สามารถรวมหนี้ได้ทั้งหนี้สินทั่วไปและบัตรเครดิต อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ MRR +7% ต่อปี อยู่ที่ประมาณ 13.87% เท่านั้น เทียบแล้วถือว่าถูกกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต สามารถผ่อนชำระได้ยาวนานสูงสุดถึง 5 ปี
-
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
3 เดือนแรก ดอกเบี้ยพิเศษเพียง 9.99% เท่านั้น ผ่อนชำระได้ยาวนานสูงสุดถึง 5 ปี สมัครง่าย ไม่เสียค่าธรรมเนียมทั้งการอนุมัติและค่าอากรแสตมป์ ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน
จ่ายหนี้บัตรเครดิตตามกำหนด
จ่ายหนี้บัตรเครดิตตามกำหนด ก็คือจ่ายขั้นต่ำพร้อมดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ โดยดอกเบี้ยได้เป็น 2 ส่วน ประกอบไปด้วยดอกเบี้ยเงินต้นในวันที่มีการบันทึกรายการก่อนถึงวันชำระ 1 วัน และดอกเบี้ยค้างชำระซึ่งเป็นดอกเบี้ยที่คำนวณจากวันที่ชำระขั้นต่ำไปจนถึงวันที่สรุปยอดบัญชีครั้งต่อไป โดยมีสูตรคำนวณดอกเบี้ยแต่ละประเภท ดังนี้
- ดอกเบี้ยเงินต้น = ค่าใช้จ่าย x อัตราดอกเบี้ย (โดยทั่วไป 16%) x จำนวนวัน โดยนับจากวันบันทึกรายการจนถึงวันก่อนชำระ / จำนวนวันใน 1 ปี (กรณีที่เรามีค่าใช้จ่ายหลายรายการ แยกคำนวณทีละรายการ)
- ดอกเบี้ยค้างชำระ = ค่าคงค้าง x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันตั้งแต่ชำระขั้นต่ำไปจนถึงวันสรุปยอดบัญชีครั้งต่อไป / จำนวนวันใน 1 ปี (กรณีที่เรามีค่าใช้จ่ายหลายรายการ แยกคำนวณทีละรายการ)
จากคำถาม หนี้บัตรเครดิต หลายใบ แก้แบบไหนดีกว่า สินเชื่อปิดบัตร vs จ่ายตามกำหนดเรื่อย ๆ จะเห็นว่า การจ่ายหนี้บัตรเครดิตตามกำหนด มีดอกเบี้ยสูงมากถึง 16-20% แล้วแต่ธนาคาร และยังคิดแยกคำนวณแต่ละรายการอีกด้วย ซึ่งนี่เองที่จะทำให้หนี้ของเราทวีคูณไปเรื่อยๆ ยิ่งนานไปยิ่งยากที่จะผ่อนหมด ในทางตรงกันข้ามหากกู้สินเชื่อปิดบัตร แม้จะเป็นหนี้ก้อนใหญ่ แต่ก็ม ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า แถมยังมีระยะเวลาชำระยาวนานกว่า แนะนำว่าให้กู้สินเชื่อปิดบัตรมาปลดหนี้บัตรเครดิตให้หมดแล้วไปผ่อนชำระสินเชื่อปิดบัตรแทน ก็จะช่วยให้เราเสียดอกเบี้ยถูกลง มีสภาพคล่องมากขึ้น มีโอกาสปิดหนี้ได้มากขึ้นนั่นเอง