แนะนำ 6 วิธี แบ่งหนี้ยังไง ให้เป็นระบบ
หากทุกวันนี้ คุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงิน มีเงินใช้เดือนชนเดือน ไม่สามารถออมเงิน หรือนำเงินมาซื้อความสุขให้ตัวเอง เพราะต้องนำมาผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิต หนี้บ้าน หนี้รถยนต์ อาจกำลังกลุ้มใจเพราะไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงอยู่ สำหรับใครที่มองหาเทคนิคในการจัดการหนี้สิน และอยากปิดหนี้ให้หมดไว ๆ วันนี้เราจึงมาแนะนำ 6 วิธี แบ่งหนี้ยังไง ให้เป็นระบบ มาฝากทุกคนที่อยากปลดหนี้กัน เพื่อให้คุณสามารถแก้ปัญหาทางการเงิน ช่วยให้จัดการกับหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้ ซึ่งจะมีวิธีไหนที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
เราควรมีหนี้ไม่เกินเท่าไหร่?
เป็นหนี้เยอะมาก ทําไงดี? ตามปกติแล้ว เราควรมีหนี้สินที่ไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีรายได้ต่อเดือน 100,000 บาท หนี้สินของคุณไม่ควรเกิน 30,000 บาท เพราะถ้าหากเรามีหนี้สินเยอะกว่านี้ จะถือว่ามีภาระหนี้สินมากเกินไป อาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ และอาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ในอนาคตได้
แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้เป็นเพียงแนวทางคร่าว ๆ เท่านั้น จำนวนหนี้สินที่เหมาะสมกับรายได้ อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น รายได้เสริม ค่าใช้จ่าย ความสามารถในการชำระหนี้ และเป้าหมายทางการเงินของแต่ละบุคคล แต่สำหรับใครที่เป็นหนี้เยอะมาก ควรรีบดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้หนี้สินลุกลามไปมากกว่านี้ โดยเราสามารถทำตาม 6 วิธี แบ่งหนี้ยังไง ให้เป็นระบบ ช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการหนี้สินได้ดียิ่งขึ้น
แนะนำ 6 วิธี แบ่งหนี้ยังไง ให้เป็นระบบ
การมีหนี้สินเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ หนี้สินสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราในทุกด้าน ทั้งด้านการเงิน จิตใจ และความสัมพันธ์ หากเราไม่สามารถจัดการกับหนี้สินได้ อาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ เช่น ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เครียด วิตกกังวล และอาจถึงขั้นต้องล้มละลาย ดังนั้น การแก้ไขปัญหาหนี้สินจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อช่วยให้เรากลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข
1.ตรวจสอบ และรวบรวมข้อมูลหนี้สินทั้งหมด
ขั้นตอนแรกในการแก้ไขปัญหาหนี้สินคือ การรวบรวมข้อมูลหนี้สินทั้งหมดของเรา ข้อมูลหนี้สินที่ควรรวบรวม ได้แก่ ชื่อเจ้าหนี้ ประเภทของหนี้ จำนวนเงินต้น ดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ เราสามารถรวบรวมข้อมูลหนี้สินได้จากใบแจ้งหนี้หรือเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
2.วิเคราะห์ข้อมูลหนี้สิน
หลังจากรวบรวมข้อมูลหนี้สินแล้ว เราต้องวิเคราะห์ข้อมูลหนี้สินเพื่อหาข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น หนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูง หนี้สินที่มีระยะเวลาผ่อนชำระนาน หนี้สินที่มีความเสี่ยงสูง การวิเคราะห์ข้อมูลหนี้สินจะช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์หนี้สินของเรา และกำหนดเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินได้
3.ตั้งเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน
วางแผนทางการเงิน ด้วยการตั้งเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน รวมถึงทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะต้องลดค่าใช้จ่ายในส่วนไหน เพื่อทำให้ปลดหนี้ได้เร็วขึ้น โดบเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินควรกำหนดให้สอดคล้องกับหนี้สินของเรา เช่น
-
- เป้าหมายระยะสั้น เช่น ชำระหนี้ให้หมดภายใน 1 ปี
- เป้าหมายระยะกลาง เช่น ชำระหนี้ให้เหลือครึ่งหนึ่งภายใน 2 ปี
- เป้าหมายระยะยาว เช่น ชำระหนี้ให้หมดภายใน 5 ปี
4.จัดลำดับความสำคัญของหนี้สิน
หลังจากตั้งเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินแล้ว เราควรจัดลำดับความสำคัญของหนี้สิน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ ความเสี่ยง หนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูง ควรจัดลำดับความสำคัญเป็นอันดับแรก เนื่องจากดอกเบี้ยจะยิ่งเพิ่มภาระหนี้สินของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ
5.กำหนดแผนการชำระเงิน
ภายหลังจากที่เราได้มีการจัดลำดับความสำคัญของหนี้สินแล้ว เราต้องกำหนดแผนการชำระเงิน โดยกำหนดจำนวนเงินที่จะชำระในแต่ละเดือน แผนการชำระเงินควรมีความสม่ำเสมอและเป็นไปได้จริง ซึ่งเราสามารถกำหนดแผนการชำระเงิน โดยใช้สูตรต่อไปนี้
จำนวนเงินที่ต้องชำระ = (จำนวนเงินต้น + ดอกเบี้ย) / ระยะเวลาผ่อนชำระ
6.ปฏิบัติตามแผนการชำระเงิน
ขั้นตอนสุดท้ายคือ ปฏิบัติตามแผนการชำระเงินอย่างเคร่งครัด สิ่งสำคัญคือต้องชำระหนี้ให้ตรงเวลาและครบจำนวน หากเราไม่สามารถปฏิบัติตามแผนการชำระเงินได้ อาจต้องปรับเปลี่ยนแผนการชำระเงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของเรา นอกจากวิธีแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้ง 6 ข้อข้างต้นแล้ว ยังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาหนี้สินดังนี้
-
- หารายได้เสริมเพื่อเพิ่มเงินในการชำระหนี้
- เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอลดดอกเบี้ยหรือยืดระยะเวลาผ่อนชำระ
- ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
- ยื่นขอสินเชื่อการเงิน เพื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียวกัน
- ลงทะเบียนเข้าร่วมกับ โครงการคลินิกแก้หนี้ เพื่อขอความช่วยด้านการเงิน
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อขอคำแนะนำในการจัดการหนี้สินทั้งหมด
จากทั้ง 6 วิธีที่เราแนะนำในการแบ่งหนี้ยังไง ให้เป็นระบบ จะเห็นได้ว่าการแก้ไขปัญหาหนี้สินไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเราปฏิบัติตามวิธีต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้เรากลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขได้ อย่าลืมนำคำแนะนำเหล่านี้ ไปปรับใช้กับการจัดหนี้สินทั้งในปัจจุบัน หรือในอนาคต