ลงทุน กองทุนรวม ต้องรู้อะไรบ้าง เริ่มลงทุนยังไง?
ไม่ว่าจะหุ้น ทอง หรือกองทุนที่ตลาดบอกได้เลยว่าปีที่แล้ว เป็นปีที่ค่อนข้างผันผวนทั้งการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่กำลังพุ่งทะยาน ซึ่งไม่ได้แค่ในไทยแต่กระทบทั่วโลกที่เหล่านักลงทุนต่างวิเคราะห์ถึงความกังวลของเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม หนึ่งรูปแบบการลงทุนที่ยังมีแนวโน้มที่ดีนั่นคือ กองทุนรวม สำหรับมือใหม่ เราจะพาไปดูกันว่า ลงทุน กองทุนรวม ต้องรู้อะไรบ้าง เริ่มลงทุนยังไงดี?
กองทุนรวม คืออะไร เริ่มลงทุนยังไง?
“กองทุนรวม” ถือเป็นการระดมเงินทุนที่มาจากนักลงทุนหลาย ๆ รายจนรวมมาเป็นเงินทุนก้อนใหญ่ซึ่งดำเนินการโดยโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โดยมีหน้าที่ระดมทุนเพื่อนำกองทุนไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลและนำเงินกองทุนนั้นไปลงทุนตามนโยบายที่ระบุในหนังสือชี้ชวน โดยนักลงทุนแต่ละรายจะได้รับจัดสรร “หน่วยลงทุน” เพื่อแสดงสถานะความเป็นเจ้าของเงินที่ลงทุนไป หรือที่เรียกว่า “ผู้ถือหน่วยลงทุน”
ประเภทของกองทุนรวม
- กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund)
- กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund)
- กองทุนรวมผสม (Mixed Fund), กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) หรือ กองทุนรวมหุ้น
- กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund: FIF)
- กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF)
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF)
- กองทุนรวมที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก (Alternative Investment)
ความน่าสนใจของการลงทุนในกองทุนรวม
- มีนโยบายสำหรับการลงทุนที่หลากหลาย โดยสามารถใช้เครื่องมือในการลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงและเป้าหมายทางการเงิน
- มีมืออาชีพที่มีองค์ความรู้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่คอยบริหารจัดการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน
- กระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าการลงทุนหุ้นและยังใช้เงินลงทุนจำนวนไม่มาก
- เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุนที่สามารถติดตามการลงทุนผ่านข้อมูลและการรายงานสถานการณ์การลงทุนที่บลจ.จัดให้สม่ำเสมอ
- กองทุนบางประเภทช่วยให้คุณรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่เป็นไปตามเงื่อนไขของสรรพากร
ลงทุน กองทุนรวม ต้องรู้อะไรบ้าง?
ทิ้งท้ายด้วยข้อควรรู้ลงทุน กองทุนรวม ต้องรู้อะไร กับ 5 สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนเลือกซื้อกองทุนที่จะช่วยให้คุณได้ประเมินตนเองเบื้องต้นจนนำไปสู่การตัดสินใจเพื่อเลือกซื้อกองทุนได้ด้วยตนเอง
-
สำรวจตนเองก่อน
มาเริ่มต้นสำรวจตนเองกันก่อนว่าเราเหมาะกับกองทุนประเภทไหน โดยจะต้องเข้าใจในลักษณะของสินทรัพย์ที่ควรนำมาหยิบมาเปรียบเทียบว่าเราเหมาะกับเทรนด์การลงทุนแบบไหนที่สามารถเริ่มต้นศึกษาเรื่องกองทุนได้ที่ SET e-Learning
-
รู้จักกับ Fund Fact Sheet
เมื่อพอเข้าใจเบื้องต้นแล้วว่ากองทุนคืออะไรและสำรวจตัวเองแล้วพบว่าอยากซื้อกองทุน เช่น กองทุนเกี่ยวกับเทคเพราะมองเห็นแนวโน้มจากการเติบโตของเทคโนโลยีที่แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนในยุคปัจจุบันและมองเห็นโอกาสที่เติบโตได้อีกซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมจาก Fund Fact Sheet ซึ่งเป็นหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของกองทุนรวมเอาไว้ที่จะบอกเราว่าเราลงทุนไปกับอะไร ขนาดกองทุน จ่ายปันผล รวมถึงเงินลงทุนขั้นต่ำซื้อได้ครั้งละเท่าไร รวมถึงพวกค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่จะทำให้เรากองทุนที่เราจะซื้อได้มากขึ้น แต่อาจจะใช้ระยะเวลาในช่วงแรกสักหน่อย
-
เลือกกองที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
โดยอาศัยการดูผลตอบแทนย้อนหลังซึ่งเป็นข้อมูลที่ดูได้จาก Fund Fact Sheet ที่จะช่วยบอกได้ว่าที่ผ่านเข้าราคาการซื้อขายมีแนวโน้มเป็นอย่างไรซึ่งควรดูย้อนหลังสัก 3 – 5 ปี เพราะบางกองทุนที่ให้ผลตอบแทนดีมากอาจจะอยู่ได้แค่ 1 ปีจึงอาจจะสรุปไม่ได้ทันทีว่าดีจริงหรือไม่
-
ทุกกองทุนมีความเสี่ยง
เป็นที่รู้กันดีว่าทุกกองทุนมีความเสี่ยงซึ่งเราสามารถวัดค่าความเสี่ยงได้จากค่า S.D. หรือ Standard Deviation ซึ่งถ้าหากค่ายิ่งสูงยิ่งแปลว่ายิ่งเสี่ยง และสามารถเทียบดูความเสี่ยงได้จาก Sharpe Ratio ที่ยิ่งสูงยิ่งดี โดยหากคุณมีกองทุนตัวเดียวกันที่ชอบมากกว่าหนึ่งสามารถนำมาเปรียบเทียบเพื่อเลือกตัวที่ดีจากค่า Sharpe Ratio สูงกว่า
-
ต้องตรวจสอบและติดตามอย่างต่อเนื่อง
อย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน หรือ 1 ปีควรทำการตรวจสอบและมีการติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่ากองทุนที่เราเลือกลงทุนนั้นมีภาพรวมที่ดีและยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจจะอิงจากการมาตรฐานการดำเนินงาน (Benchmark)” และกองทุนคู่แข่งอยู่เสมอ และหากกองทุนมีแนวโน้มลดลงก็อย่าขายทิ้งเลยให้ไปดูการวิเคราะห์เชิงลึกก่อนว่าเกิดอะไรขึ่นซึ่งอาจจะมาจากปัจจัยระยะสั้น เช่น การเมือง ที่อาจจะกลับมาฟื้นตัวเพื่อเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง แต่ถ้าหากแนวโน้มไม่ดีก็แนะนำให้ขายทิ้งแล้วหากองทุนตัวใหม่
กองทุนรวมคืออะไรลงทุน กองทุนรวม ต้องรู้อะไร ตอนนี้คงจะได้คำตอบกันแล้ว แต่สิ่งที่ขอเน้นย้ำทุก ๆ การลงทุนมีความเสี่ยงและทุก ๆ ความเสี่ยงสามารถสร้างโอกาสทางการเงินได้ แต่เราจะต้องไม่ตั้งอยู่บนสนามของอารมณ์เป็นที่ตั้ง แต่ควรดำเนินการลงทุนโดยอาศัยการศึกษา ประสบการณ์และการพยายามทำความเข้าใจ ส่วนการผิดพลาดในการลงทุนอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ แต่เป็นสิ่งที่ควรจะเรียนรู้เพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดซ้ำ