หนี้บัตรเครดิต ห้ามเกินกี่เปอร์เซ็นต์รายได้ ใช้ยังไงให้พ้นหนี้
บัตรเครดิต ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์มาก แต่หากใช้ไม่ถูกวิธีก็อาจกลายเป็นปัญหาได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหลายคนประสบปัญหาจากการเป็นหนี้บัตรเครดิตที่พอกพูนจนเกินความควบคุม ความสามารถในการจ่ายหนี้ลดลง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ หนี้บัตรเครดิต ห้ามเกินกี่เปอร์เซ็นต์รายได้ พร้อมแนะนำวิธีใช้บัตรอย่างฉลาดเพื่อไม่ให้เป็นหนี้เกินตัว
หนี้บัตรเครดิต ห้ามเกินกี่เปอร์เซ็นต์รายได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินส่วนใหญ่แนะนำว่า หนี้บัตรเครดิตไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน นั่นหมายความว่า หากคุณมีรายได้เดือนละ 30,000 บาท ยอดหนี้บัตรเครดิตของคุณไม่ควรเกิน 9,000 บาท/เดือน
อย่างไรก็ตาม หลายคนเห็นว่าแม้แต่ 30% ก็ยังสูงเกินไป และแนะนำให้พยายามรักษาระดับหนี้บัตรเครดิตให้ต่ำกว่า 10% ของรายได้ ยิ่งต่ำยิ่งดี เพราะจะช่วยให้คุณมีเงินเหลือเพื่อเก็บออม และใช้จ่ายในด้านอื่น ๆ ได้มากขึ้น
วิธีใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด ไม่ก่อหนี้เกินตัว
- จ่ายยอดเต็มทุกเดือน วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงหนี้บัตรเครดิตคือการจ่ายยอดเต็มทุกเดือน นี่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียดอกเบี้ย และป้องกันไม่ให้หนี้พอกพูน
- ใช้บัตรเฉพาะสิ่งจำเป็น พยายามใช้บัตรเครดิตเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น หลีกเลี่ยงการใช้บัตรซื้อของฟุ่มเฟือยหรือสิ่งที่ไม่จำเป็น
- ตั้งงบประมาณการใช้ กำหนดงบประมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในแต่ละเดือน และพยายามไม่ใช้เกินงบที่ตั้งไว้
- ติดตามการใช้จ่าย ตรวจสอบยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ อาจใช้แอปพลิเคชันของธนาคารหรือแอปบริหารการเงินส่วนบุคคลเพื่อช่วยในการติดตาม
- ไม่ควรกดเงินสด การกดเงินสดจากบัตรเครดิตมักมีดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูง ควรหลีกเลี่ยงเว้นแต่จะจำเป็นจริงๆ
- เลือกบัตรที่เหมาะสม เลือกบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณ เช่น คะแนนสะสม เงินคืน หรือไมล์เดินทาง แต่อย่าใช้จ่ายเพิ่มเพียงเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์เหล่านี้
- รู้จักวงเงินของตัวเอง ทำความเข้าใจวงเงินบัตรเครดิตของคุณ และพยายามใช้ไม่เกิน 30% ของวงเงินที่ได้รับ
- ชำระหนี้ให้เร็วที่สุด หากมีหนี้ค้างชำระ พยายามจ่ายให้หมดโดยเร็วที่สุด อาจพิจารณาการโอนยอดไปยังบัตรที่มีดอกเบี้ย 0% เพื่อประหยัดค่าดอกเบี้ย
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นหนี้บัตรเครดิตเกินตัว
- สร้างนิสัยการใช้จ่ายอย่างมีวินัย ฝึกใช้จ่ายอย่างมีสติ คิดก่อนซื้อว่าสิ่งนั้นจำเป็นจริงๆ หรือไม่
- มีเงินสำรองฉุกเฉิน พยายามเก็บเงินสำรองฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
- วางแผนการเงินระยะยาว กำหนดเป้าหมายทางการเงินระยะสั้นและระยะยาว และวางแผนการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับเป้าหมายเหล่านั้น
- เรียนรู้เรื่องการเงิน ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการบริหารการเงินส่วนบุคคล เพื่อให้สามารถจัดการเงินของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- หารายได้เพิ่ม พิจารณาหาวิธีเพิ่มรายได้ เช่น ทำงานพิเศษ หรือเริ่มธุรกิจเสริม เพื่อให้มีเงินมากขึ้นสำหรับการใช้จ่ายและการออม
- ใช้เงินสด หรือบัตรเดบิตก่อน สำหรับค่าใช้จ่ายประจำวัน พยายามใช้เงินสดหรือบัตรเดบิตแทนบัตรเครดิต เพื่อควบคุมการใช้จ่ายได้ดีขึ้น
- ตั้งเตือนวันครบกำหนดชำระ ตั้งเตือนวันครบกำหนดชำระบัตรเครดิตในปฏิทินหรือแอปพลิเคชัน เพื่อไม่ให้ลืมจ่ายและเสียค่าปรับ
- ระวังการซื้อของแบบไม่ได้วางแผน โดยเฉพาะในช่วงลดราคาหรือเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์
จำไว้ว่า บัตรเครดิตเป็นเพียงเครื่องมือทางการเงิน การใช้อย่างมีวินัยและรับผิดชอบจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดโดยไม่ตกเป็นทาสของหนี้ ฝึกนิสัยการใช้จ่ายที่ดี วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ และอย่าลังเลที่จะขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หากรู้สึกว่ากำลังมีปัญหาทางการเงิน
การใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาดเป็นทักษะสำคัญในการบริหารการเงินส่วนบุคคล ควรทราบว่าหนี้บัตรเครดิต ห้ามเกินกี่เปอร์เซ็นต์รายได้ การรักษาระดับหนี้บัตรเครดิตให้ต่ำกว่า 30% ของรายได้ (หรือต่ำกว่า 10% หากเป็นไปได้) จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินในระยะยาว