บัตรเครดิตวงเงิน ได้กี่เท่าของเงินเดือน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ?
บัตรเครดิตแต่ละประเภท ล้วนมีการกำหนดวงเงินในบัตรที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่ต้องการการใช้งานแบบพื้นฐาน เช่นช้อปปิ้ง ผ่อนสินค้า ก็อาจได้รับวงเงินก้อนหนึ่ง แต่รู้หรือไม่? ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะกำหนดวงเงินที่แตกต่างกันตามฐานเงินเดือนของคุณ เพื่อให้คุณสามารถใช้จ่าย และชำระบัตรเครดิตได้อย่างตรงเวลา แล้ว บัตรเครดิตวงเงิน ได้กี่เท่าของเงินเดือน? เราจะมาไขคำตอบในบทความนี้กัน เพื่อให้คุณสามารถสมัครบัตรเครดิตที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
วงเงินในบัตรเครดิต คืออะไร?
ก่อนสมัครบัตรเครดิต เรามารู้จักกับวงเงินในบัตรเครดิตกันก่อนว่าคืออะไร โดยวงเงินในบัตรเครดิต คือจำนวนเงินสูงสุดที่ผู้ถือบัตรสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ ช่วยให้เรารู้ว่ามีวงเงินเท่าไหร่ที่เพียงพอต่อการใช้จ่ายและบริหารในการใช้บัตรเครดิตแต่ละครั้ง ซึ่งโดยปกติแล้ววงเงินนี้จะถูกกำหนดโดยธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ออกบัตรเครดิตนั้น ๆ อีกทั้งในปัจจุบันยังมีหลากหลายธนาคาร ที่มี Mobilee Banking ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบวงเงินในบัตรได้อย่างง่ายดาย
ทำบัตรเครดิต 1 ใบ ต้องมีเงินเดือนเท่าไร?
สำหรับผู้ที่สนใจอยากสมัครบัตรเครดิต เพื่อใช้ในการอำนวยความสะดวกด้านการช็อปปิ้ง ผู้สมัครควรมีรายได้ขั้นต่ำประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้มีโอกาสได้รับการอนุมัติวงเงินบัตรเครดิตนอกจากนี้ ผู้สมัครควรเตรียมเอกสารประกอบการสมัครให้ครบถ้วน เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองการทำงาน และสำเนาบัตรประชาชน เพื่อให้การอนุมัติบัตรเครดิตเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งนี้เราควรพิจารณาเงื่อนไขและวงเงินบัตรเครดิตแต่ละใบ จะช่วยให้คุณเลือกบัตรได้เหมาะสมที่สุด
บัตรเครดิตวงเงิน ได้กี่เท่าของเงินเดือน?
หลังจากที่รู้จักกับวงเงินในบัตรเครดิตแล้ว เราก็มาดูเรื่องเกี่ยวกับวงเงินในบัตรเครดิตกันบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว วงเงินบัตรเครดิตที่ธนาคารหรือสถาบันทางการเงินจะอนุมัติให้ผู้สมัคร จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ถึง 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฐานรายได้ของผู้สมัคร ตัวอย่างเช่น
- ฐานรายได้ 15,000 – 30,000 บาท: วงเงินไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้
- ฐานรายได้ 30,000 – 50,000 บาท: วงเงินไม่เกิน 3 เท่าของรายได้
- ฐานรายได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป: วงเงินไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
เกณฑ์พิจารณาวงเงินบัตรเครดิต
ธนาคารพิจารณาวงเงินในบัตรเครดิตจากอะไร? โดยส่วนใหญ่ ธนาคารและสถาบันทางการเงินมักมมีกระบวนการที่ใช้เพื่อกำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่ผู้ถือบัตรสามารถใช้จ่ายได้ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานบัตรเครดิตมีวงเงินที่เหมาะสม โดยมีกฎเกณฑ์และปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อการตัดสินใจนี้
- รายได้ของผู้สมัคร
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ธนาคารใช้ในการพิจารณาวงเงินบัตรเครดิตคือรายได้ของผู้สมัคร โดยทั่วไปแล้ว วงเงินบัตรเครดิตจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ถึง 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับความมั่นคงและแหล่งที่มาของรายได้ หากผู้สมัครมีรายได้สูงและมีการทำงานที่มั่นคง ธนาคารมักจะอนุมัติวงเงินที่สูงกว่า
- ประวัติการชำระเงิน
ประวัติการชำระเงินของผู้สมัครก็มีความสำคัญ ธนาคารจะตรวจสอบว่าผู้สมัครมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีหรือไม่ หากผู้สมัครมีการชำระหนี้ตรงเวลาและไม่เคยมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารจะมีแนวโน้มที่จะอนุมัติวงเงินที่สูงขึ้น
- หนี้สินที่มีอยู่
ธนาคารจะพิจารณาหนี้สินที่ผู้สมัครมีอยู่ในปัจจุบัน เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อบ้าน หากผู้สมัครมีหนี้สินมาก ธนาคารอาจลดวงเงินบัตรเครดิตที่อนุมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สมัครมีภาระหนี้สินเกินความสามารถในการชำระ
- คุณสมบัติส่วนบุคคล
สำหรับคุณสมบัติส่วนบุคคล จะมีทั้งข้อมูลด้าน อายุ อาชีพ และสถานะการสมรสก็มีผลต่อการพิจารณาวงเงินบัตรเครดิตเช่นกัน ผู้ที่มีอาชีพที่มั่นคงและมีรายได้ประจำจะมีโอกาสได้รับวงเงินสูงกว่าในขณะที่ผู้ที่มีอาชีพที่ไม่มั่นคงอาจได้รับวงเงินต่ำกว่า
- ประเภทของบัตรเครดิต
ประเภทของบัตรเครดิตที่ผู้สมัครขอสมัครก็มีผลต่อวงเงินที่ได้รับ เช่น บัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์มากมายหรือบัตรเครดิตที่มีค่าธรรมเนียมรายปีสูง มักจะมีวงเงินสูงกว่าบัตรเครดิตทั่วไป
- การขอเพิ่มวงเงิน
หากผู้ถือบัตรมีการใช้จ่ายที่ดีและมีการชำระหนี้ตรงเวลา ธนาคารอาจอนุญาตให้ผู้ถือบัตรขอเพิ่มวงเงินได้ โดยสามารถขอเพิ่มวงเงินแบบถาวรหรือชั่วคราว ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ของผู้ถือบัตร เราจึงควรพิจารณาขั้นตอนในการขอเพิ่มวงเงินกับทางธนาคารก่อน
สรุปแล้ว การทำบัตรเครดิต และการกำหนดวงเงินที่ได้รับนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ขึ้นอยู่รายได้ และสถานะทางการเงินของผู้สมัคร ซึ่งส่งผลต่อวงเงินที่คุณจะได้รับโดยตรง หากคุณมีรายได้ที่สูง และมีประวัติการชำระเงินที่ดี คุณก็มีโอกาสได้รับวงเงินบัตรเครดิตที่สูงขึ้น แต่ถ้ามีรายได้น้อย วงเงินในบัตรเครดิตก็จะลดลงตามไปด้วย เราจึงควรเตรียมตัว และการเข้าใจเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คุณสามารถสมัครบัตรเครดิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีวงเงินที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ได้