กองทุน ลดหย่อนภาษี 2567 คืออะไร มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
เมื่อเข้าสู่ปลายปี เรียกได้ว่าโค้งสุดท้ายกันแล้ว หลายคนอาจต้องการวิธีลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในปีถัดไป กองทุนลดหย่อนภาษี ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะนอกจากช่วยลดภาระภาษีแล้ว ยังเป็นการออมเงิน และสร้างโอกาสในการลงทุนเพื่ออนาคตอีกด้วย บทความนี้จะพาคุณไปดูว่า กองทุน ลดหย่อนภาษี 2567 คืออะไร มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
กองทุน ลดหย่อนภาษี 2567 คืออะไร?
คือกองทุนรวมที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการออมระยะยาว โดยผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด โดยประเภทของกองทุนลดหย่อนภาษีในปัจจุบันมีดังนี้
กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF)
กองทุนเน้นส่งเสริมการออมในระยะยาว ในสินทรัพย์หลายประเภท เช่น หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, ตราสารหนี้, กองทุนทองคำ, กองทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
จุดเด่น:
- ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี (แต่ไม่เกิน 200,000 บาท)
- ไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี
- ต้องถือครองหน่วยลงทุนอย่างน้อย 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
เหมาะกับใคร:
- ผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวมระยะยาวเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษี
- ผู้ที่มีรายได้ และต้องการวางแผนภาษีอย่างยืดหยุ่น
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF)
เป็นกองทุนที่เน้นการออมในระยะยาว สนับสนุนให้ออมเงินเพื่อการเกษียณ
จุดเด่น:
- ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี (รวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันชีวิตบำนาญ และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สูงสุด 500,000 บาท)
- ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี (ยกเว้นกรณีไม่มีรายได้)
- ต้องถือครองหน่วยลงทุนจนถึงอายุ 55 ปี
เหมาะกับใคร:
- ผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ
- ผู้ที่มีรายได้ประจำ และสามารถลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund: Thai ESG)
เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมเงินในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยเน้นลงทุนที่ หุ้น หรือตราสารหนี้ ที่มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน ESG (Environment, Social และ Governance) รวมถึงได้รับการรับรอง SET ESG Ratings ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่น้อยกว่า 80% ของทรัพย์สินสุทธิ(NAV)
จุดเด่น:
- ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท (รวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันชีวิตบำนาญ และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สูงสุด 500,000 บาท)
- ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำต่อปี
- ต้องถือครอง 8 ปีขึ้นไป นับจากวันที่ลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่อง
เหมาะกับใคร:
- นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนทางการเงินพร้อมกับสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
- ผู้ที่มองหาการลงทุนระยะยาว และเน้นความยั่งยืน
- ผู้ที่ต้องการสนับสนุนบริษัทไทย
ข้อควรรู้ในการเลือกกองทุนลดหย่อนภาษี
- ตรวจสอบนโยบายการลงทุน: กองทุนแต่ละกองมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกัน เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์ทางเลือก เลือกกองทุนที่สอดคล้องกับความเสี่ยงที่คุณรับได้
- เปรียบเทียบค่าธรรมเนียม: ค่าธรรมเนียมกองทุนอาจมีผลต่อผลตอบแทนในระยะยาว ตรวจสอบและเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ
- เลือกกองทุนจากผู้จัดการกองทุนที่มีผลงานดี: ดูผลตอบแทนย้อนหลังและความน่าเชื่อถือของบริษัทจัดการกองทุน
การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระภาษี แต่ยังช่วยสร้างวินัยในการออม และวางแผนการเงินระยะยาวให้กับตัวเอง ซึ่งการเลือกกองทุนควรคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ตนเอง เป้าหมาย และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สำหรับใครที่กำลังมองหากองทุนเพื่อช่วยลดหย่อนภาษีก็ควรวางแผน และดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนหมดปี 2567 นี้