วางแผนเกษียณยังไง ให้มีเงินใช้สบาย ๆ สำหรับมนุษย์เงินเดือน
เริ่มปีใหม่ อีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนตั้งเป้าไว้ก็คงไม่พ้น การวางแผนวัยเกษียณ ที่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนควรให้ความสนใจ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะมีเงินใช้ในช่วงเวลาที่ไม่ทำงานแล้ว ช่วยให้เรามีเงินใช้เพียงพอแม้จะไม่ได้ทำงานแล้ว โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากรัฐ หรือลูกหลานเพียงอย่างเดียว วันนี้เราจะพูดถึงวิธีการ วางแผนเกษียณยังไง ให้มีเงินใช้สบาย ๆ พร้อมเคล็ดลับ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนทุกคน
ทำไมควรวางแผนสำหรับวัยเกษียณ
การวางแผนเกษียณสำหรับอนาคตเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเมื่อไหร่ที่เราจะต้องหยุดทำงาน หรือจะมีค่าใช้จ่ายอะไรเกิดขึ้นในอนาคต การวางแผนเกษียณจะช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงินในช่วงเวลาที่เราไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป การวางแผนเกษียณยังช่วยให้เรามีชีวิตที่มีคุณภาพในช่วงวัยเกษียณ โดยสามารถใช้ชีวิตตามที่ต้องการ เช่น การเดินทางท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมที่ชอบ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเงิน
ข้อดีของการวางแผนเกษียณ
ข้อดีของการวางแผนเกษียณนั้นมีมากมาย เริ่มจากการสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต การเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้เรามีเงินออม และการลงทุนที่เพียงพอเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในช่วงเกษียณ ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตตามที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเงิน นอกจากนี้ การวางแผนเกษียณยังช่วยลดความเครียดเกี่ยวกับอนาคต เพราะเมื่อเรามีแผนการที่ชัดเจน เราจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่าตนเองจะมีเงินใช้ในยามที่ไม่ทำงานแล้ว การมีแผนการที่ดีจะทำให้เราสามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ค่าอาหาร ค่าที่พัก และค่ารักษาพยาบาล
อีกหนึ่งข้อดีที่สำคัญคือ การวางแผนเกษียณช่วยให้เรามีโอกาสในการลงทุน และสร้างรายได้เพิ่มเติม หากเราเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ เราจะสามารถใช้เวลานั้นในการศึกษา และทดลองลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากเงินออมของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วางแผนเกษียณ ยังไง
การวางแผนเกษียณเป็นกระบวนการที่สำคัญ และซับซ้อน ต้องใช้การคำนวณอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะมีเงินเพียงพอในช่วงเวลาที่ไม่ทำงานอีกต่อไป ซึ่งการคำนวณค่าใช้จ่ายหลังเกษียณนั้นเริ่มต้นจากการประเมินค่าใช้จ่ายปัจจุบันของคุณ โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณมักจะลดลงประมาณ 70-80% ของค่าใช้จ่ายก่อนเกษียณ สามาารถมีรายได้มาจาก 3 ช่องทาง เช่น
- เงินเก็บที่เราสะสมมาตอนทำงานประจำ
- เงินชราภาพประกันสังคม ประมาณ 20% ของรายได้เฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
- เงินเบี้ยคนชรา (Elderly allowance)
-
- อายุ 60-69 ปี 600 บาท ต่อเดือน
- อายุ 70-79 ปี 700 บาท ต่อเดือน
- อายุ 80-89 ปี 800 บาท ต่อเดือน
- อายุ 90 ปี ขึ้นไป 1,000 บาท ต่อเดือน
ตัวอย่างการคำนวนวางแผนเกษียณ
- เริ่มต้นจากการเก็บเงินเดือนละ 5,000 บาท หากเราลงทุนในบัญชี e-Savings ที่ให้ผลตอบแทน 1.5% ต่อปี เมื่อถึงวัยเกษียณ เราจะมีเงินใช้ประมาณ 12,412.61 บาทต่อเดือน นี่คือผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนที่ปลอดภัย แต่ผลตอบแทนก็ยังไม่สูงมากนัก
- หากเราตัดสินใจที่จะลงทุนในหุ้นกู้ ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 3% ต่อปี โดยยังคงเก็บเงินเดือนละ 5,000 บาท ผลลัพธ์ที่ได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 14,100.39 บาทต่อเดือน ซึ่งมากกว่ากรณีแรกเกือบ 2,000 บาท ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มผลตอบแทน
- ถ้าเราต้องการเพิ่มผลตอบแทนอีกขั้นหนึ่ง โดยการลงทุนในกองทุนรวมผสมที่มีหุ้นทั่วโลก ตราสารหนี้ทั่วโลก หรือทองคำ และยังคงเก็บเงินเดือนละ 5,000 บาท ผลลัพธ์จะเพิ่มขึ้นไปถึง 17,356.98 บาทต่อเดือน ซึ่งมากกว่ากรณีแรกเกือบ 5,000 บาท นี่คือข้อดีของการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าได้อย่างชัดเจน
- สมมุติว่า ค่าใช้จ่ายปัจจุบันของคุณอยู่ที่ 50,000 บาทต่อเดือน การคำนวณค่าใช้จ่ายหลังเกษียณจะทำได้โดยการนำค่าใช้จ่ายปัจจุบันมาคูณด้วย 0.70 ดังนั้น ค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลังเกษียณจะเท่ากับ 50,000 x 0.70 ซึ่งจะได้เป็น 35,000 บาท
- สามารถคำนวณจำนวนเงินที่คุณควรมี ณ วันเกษียณ โดยการนำค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลังเกษียณมาคูณกับ 12 (จำนวนเดือนในหนึ่งปี) และจำนวนปีที่คุณคาดว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณ หากคุณคาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณประมาณ 20 ปี การคำนวณจะเป็นดังนี้: 35,000 x 12 x 20 ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เป็น 8,400,000 บาท
โดยรวมแล้ว การวางแผนเกษียณจึงไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการออมเงิน แต่ยังรวมถึงการเลือกสินทรัพย์ในการลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะมีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอเมื่อถึงวัยเกษียณ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยง และผลตอบแทนจากการลงทุนจะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นในการวางแผนอนาคตทางการเงินของเรา