ปรับโครงสร้างหนี้ดีไหม ควรทำตอนไหน?
การปรับโครงสร้างหนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกแรก ๆ ของผู้มีปัญหาหนี้สะสม จนไม่สามารถชำระตามที่ตกลงกันไว้ได้ และต้องการลดภาระการจ่ายในแต่ละงวด อยากวางแผนการเงินได้ดีขึ้น ซึ่งคำถามยอดฮิตก็คงไม่พ้น ปรับโครงสร้างหนี้ดีไหม และควรทำเมื่อไหร่? บทความนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ปรับโครงสร้างหนี้ คืออะไร?
การปรับโครงสร้างหนี้คือ การที่ผู้กู้ต้องการเจรจากับสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้กู้สามารถบริหารจัดการหนี้ได้ดีขึ้น และลดโอกาสในการผิดนัดชำระ
- ขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้ยาวขึ้น
- ลดอัตราดอกเบี้ย
- ปรับลดค่างวดรายเดือน
- รวมยอดหนี้หลายก้อนเป็นก้อนเดียว
ควรปรับโครงสร้างหนี้ตอนไหน?
การปรับโครงสร้างหนี้ควรทำเมื่อคุณเริ่มมีสัญญาณว่าอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด หรือเมื่อมีปัญหาทางการเงินที่ส่งผลต่อความสามารถในการผ่อนชำระ เช่น
- เริ่มมีปัญหาในการจ่ายค่างวด
เมื่อรู้สึกว่าการจ่ายหนี้แต่ละเดือนเริ่มตึงมือ ต้องใช้เงินเก็บ หรือกู้เพิ่มเพื่อนำมาจ่าย แสดงว่าถึงเวลาต้องพิจารณาการปรับโครงสร้างหนี้
- สัญญาณหนี้เสีย
เมื่อเริ่มค้างชำระหนี้เข้าหลายเดือนติดต่อกัน และใกล้จะถูกธนาคารขึ้นสถานะเป็นหนี้เสีย (NPL) ควรรีบติดต่อธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ก่อนที่สถานะเครดิตจะเสียหาย
- ภาระหนี้สูงเมื่อเทียบกับรายได้
หากต้องชำระหนี้ในแต่ละเดือนในสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับรายได้ เช่น มากกว่า 40-50% และส่งผลให้ไม่มีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็นด้านอื่น ก็ควรพิจารณาการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อลดภาระค่างวด
- รายได้ลดลงอย่างกะทันหัน
ไม่ว่าจะ ตกงาน รายได้ลดลง หรือมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาจถึงเวลาที่ต้องเจรจากับธนาคารเพื่อปรับเงื่อนไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ข้อดีการปรับโครงสร้างหนี้
- ลดภาระค่างวดต่อเดือน ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น
- ลดความเสี่ยงในการเป็นหนี้เสีย
- ป้องกันการถูกฟ้องร้อง หรือถูกยึดทรัพย์
ข้อควรพิจารณา
- อาจต้องขยายระยะเวลาผ่อน ทำให้จ่ายดอกเบี้ยรวมมากขึ้น
- อาจส่งผลต่อคะแนนเครดิต ทำให้กู้เงินในอนาคตได้ยากขึ้น
- ไม่สามารถกู้เพิ่มได้ในระยะเวลาที่กำหนด (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร)
การปรับโครงสร้างหนี้เป็นทางเลือกที่ช่วยให้สามารถจัดการหนี้ได้ดีขึ้น แต่ควรทำในเวลาที่เหมาะสม และต้องเข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากใครที่เริ่มมีสัญญาณของปัญหาด้านการเงิน และคิดว่าอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดในเร็ว ๆ นี้ ก็ควรรีบไปปรึกษาสถาบันการเงินเพื่อหาทางออกก่อนที่สถานะหนี้จะกลายเป็นหนี้เสีย