หยุดจ่ายบัตรเครดิต ไม่ใช่ทางรอด แต่ยิ่งบานปลาย
หลายคนที่เผชิญกับปัญหาหนี้บัตรเครดิตหลายใบอาจคิดว่า หยุดจ่ายบัตรเครดิต คือทางออกในวันที่ขนาดสภาพคล่อง ซึ่งในความจริงแล้วการหยุดจ่ายไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม เพราะนอกจากหนี้จะไม่หายไปไหนแล้ว ยังพอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยดอกเบี้ย ค่าปรับ และความเสี่ยงถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย
หยุดจ่ายบัตรเครดิตกี่เดือนโดนฟ้อง
โดยทั่วไป หากหยุดจ่ายบัตรเครดิตเกิน 3 เดือน หรือ 90 วันติดต่อกัน ธนาคารหรือสถาบันการเงินมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการต่อ ไม่ว่าจะ แจ้งสถานะบัญชีให้เครดิตบูโร (ทำให้เครดิตเสีย), ส่งเรื่องให้บริษัทติดตามหนี้ และเริ่มดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อฟ้องเรียกหนี้คืน ซึ่งหากเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้อง และศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ ก็อาจถูกอายัดเงินเดือน หรือยึดทรัพย์สินได้ในอนาคต
ทำไมหยุดจ่ายบัตรเครดิต ถึงยิ่งบานปลาย
- ดอกเบี้ย และค่าปรับสะสมเพิ่มขึ้นทุกเดือน
- ถูกตัดสิทธิ์สมัครบัตรใหม่ หรือการขอสินเชื่อในอนาคต
- เสียเครดิตกับสถาบันการเงิน
- ยิ่งปล่อยไว้นาน หนี้จะยิ่งทบต้นจนกลายเป็นยอดที่สูงเกินกว่าจะจัดการได้ไหว
ทางออกที่ดีกว่า หยุดจ่าย คืออะไร?
- หารายได้เสริม เพิ่มสภาพคล่อง และความสามารถในการชำระหนี้
- ปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร เช่น ขอลดดอกเบี้ย ขยายเวลาผ่อน
- รวมหนี้เป็นก้อนเดียว เพื่อให้ผ่อนจ่ายง่ายขึ้นและลดดอกเบี้ย
- เปลี่ยนหนี้บัตรเป็นสินเชื่อแบบอื่นที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อใช้หลักทรัพย์ (สินเชื่อบ้าน/รถ แลกเงิน)
- ติดต่อคลินิกแก้หนี้ (สำหรับผู้มีหนี้หลายสถาบัน) เพื่อขอความช่วยเหลือ
สรุปไม่ว่าจะเผชิญกับหนี้บัตรเครดิตก้อนใหญ่แค่ไหน ก็อย่าทิ้งปัญหาด้วยการหยุดจ่าย เพราะแม้จะดูเหมือนหยุดปัญหาอยู่กับที่ แต่จริง ๆ แล้ว เป็นการสร้างปัญหาใหม่ที่หนักกว่าเดิมมาก แนะนำว่าหากมีหนี้เยอะ แล้วเริ่มจ่ายไม่ไหว ควรหาทางจัดการตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับแผนการเงิน ขอผ่อนปรนกับธนาคาร หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านหนี้ เพื่อไม่ให้เสียเครดิตที่จะส่งผลต่อการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคตไปอีกหลายปี