วิธีคิดดอกเบี้ย บัตรกดเงินสด ต้องระวังอะไรบ้าง
บัตรกดเงินสด หนึ่งในไอเทมตัวช่วยทางการเงินของใครหลายคนในยามขัดสน ขาดสภาพคล่อง เพราะช่วยให้เราเข้าถึงแหล่งเงินสดได้ทันใจ และส่วนใหญ่จะไม่มีค่าธรรมเนียมในการกด สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดก็คือ ดอกเบี้ย หากไม่ทำความเข้าใจให้ดี ก็อาจทำให้เป็นหนี้บานปลายได้ง่าย ๆ ในวันนี้เราจะพาไปดู วิธีคิดดอกเบี้ย บัตรกดเงินสด ต้องระวังอะไรบ้าง
วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด
- คิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน
โดยปกติแล้วดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดจะถูกคิดตั้งแต่วันที่กดเงินออกมา และคิดเป็นรายวัน (Daily Interest) ไม่เหมือนบัตรเครดิตที่มีระยะปลอดดอกเบี้ย 45-55 วัน ดอกเบี้ยรายวันจึงทำให้ยิ่งกดเร็ว และยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไร ยอดดอกเบี้ยก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
- อัตราดอกเบี้ยสูง
ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราดอกเบี้ยการใช้บัตรกดเงินสดอยู่ที่ไม่เกิน 25 – 28% ต่อปี ซึ่งค่อนข้างสูงกว่าบัตรเครดิต และสินเชื่อประเภทต่าง ๆ อยู่พอสมควร
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด
ดอกเบี้ย = (จำนวนเงินที่เบิกถอน x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันที่เบิกถอน) / จำนวนวันใน 1 ปี
-
- กดเงินสด 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี แล้วชำระคืนใน 30 วัน
- จะได้เป็น 10,000 x 0.25 x 30 / 365
- ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 205.48
ดังนั้นหากยิ่งปล่อยไว้นานไม่รีบชำระคืน ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
- ไม่ควรการจ่ายขั้นต่ำ
อย่างที่แจ้งไว้ข้างต้นว่า บัตรกดเงินสดมีการคิดดอกเบี้ยแบบรายวันหลังจากกดเงินสดออกมาใช้ แม้จะมีตัวเลือกให้ชำระคืนแบบขั้นต่ำที่ 3 – 5% ได้ เพื่อลดภาระค่าใช้ตจ่ายในแต่ละเดือน แต่ดอกเบี้ยจะยังถูกคิดต่อเนื่อง และอาจทำให้ยอดหนี้ทั้งหมดไม่ลดลงเท่าที่ควร และกลายเป็นภาระในระยะยาว
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
บางบัตรอาจมีค่าธรรมเนียมในการกดเงิน เช่น 3% ต่อครั้ง หรือขั้นต่ำ 100 บาท ทำให้ต้นทุนในการกดเงินสดสูงขึ้นไปอีก ควรศึกษาโปรโมชั่น และเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร/สถาบันทางการเงินให้ดีก่อนสมัครใช้งาน
ข้อควรระวังในการใช้บัตรกดเงินสด
- ไม่ควรกดเงินบ่อย เพราะทุกครั้งที่กดจะเริ่มนับดอกเบี้ยใหม่ทันที
- วางแผนการจ่ายคืน พยายามจ่ายเต็มจำนวน หรือมากกว่าขั้นต่ำ เพื่อให้หนี้หมดเร็วขึ้น
- เปรียบเทียบเงื่อนไขก่อนสมัคร เช่น ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และโปรโมชั่น เพื่อเลือกบัตรที่เหมาะสมที่สุด
- ใช้เฉพาะกรณีจำเป็นจริง ๆ ไม่ควรใช้เป็นช่องทางหมุนเงินระยะยาว เพราะจะทำให้ภาระหนี้สะสมสูง
บัตรกดเงินสดอาจเป็นตัวช่วยที่ดีในยามฉุกเฉิน แต่การไม่เข้าใจวิธีคิดดอกเบี้ยอาจทำให้เจอภาระหนี้ก้อนโตโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นก่อนใช้ทุกครั้งควรวางแผนการเงินให้รอบคอบ จ่ายคืนตรงเวลา และหลีกเลี่ยงการกดเกินความจำเป็น เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระหนี้กองโตในอนาคต