Negative Income Tax คืออะไร? คนไทยจะได้รับผลกระทบอย่างไรเมื่อใช้จริงในปี 2570
สำหรับใครที่หมั่นติดตามข่าวสารบนโลกโซเชียลอยู่เป็นประจำก็น่าจะได้เห็นข่าวที่ว่า รัฐบาลไทยเตรียมปฏิรูประบบภาษีใหม่ไปเป็น Negative Income Tax โดยคนไทยทุกคนต้อง ยื่นภาษี ปี 2570 แม้รายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี เพื่อรับสวัสดิการรัฐ ในวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่า Negative Income Tax คืออะไร? คนไทยจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างเมื่อใช้จริงในปี 2570
ทำความรู้จัก Negative Income Tax
Negative Income Tax (NIT) หรือ ภาษีเงินได้ติดลบ เป็นระบบภาษีที่แตกต่างจากปกติอย่างชัดเจน โดยหลักการคือ ผู้ที่มีรายได้น้อยกว่ากำหนดจะได้รับเงินจากรัฐแทนที่จะต้องจ่ายภาษี ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่ากำหนดยังคงเสียภาษีตามปกติ ซึ่งแนวคิดนี้เกิดขึ้นจากนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง Milton Friedman ในช่วงทศวรรษ 1960 โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยลดความเหลี่ยมล้ำ และปรับระบบสวัสดิการให้ตรงจุด มีประสิทธิภาพมากขี้น
ระบบนี้มีการทดลองใช้ในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหราชอาณาจักร โดยผลลัพธ์พบว่า สามารถช่วยประชาชนรายได้น้อยได้จริง และยังสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้าระบบภาษีมากขึ้น ซึ่งต่อมาได้พัฒนามาเป็นระบบ Earned Income Tax Credit (EITC) ที่ใช้ในหลายประเทศ
แผนการนำ Negative Income Tax มาใช้ในไทยปี 2570
ล่าสุดนี้ทางปลัดกระทรวงการคลังได้เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังเตรียมระบบ NIT เพื่อปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษี และสวัสดิการให้ทันสมัยมากขึ้น โดยตั้งเป้าจะใช้จริงในปี 2570 ซึ่งมีจุดสำคัญคือ:
- รวบรวมข้อมูลรายได้ประชาชน และธุรกิจทุกประเภทในฐานข้อมูลกลาง (Data Lake)
- ผู้มีรายได้ต่ำกว่ากำหนดจะได้รับเงินช่วยเหลือโดยตรงจากรัฐ
- ทุกคนต้องยื่นภาษีเพื่อให้รัฐสามารถคำนวณสิทธิ์ช่วยเหลือได้แม่นยำ
- จะช่วยเปลี่ยนวิธีการช่วยเหลือแบบเดิม ๆ ที่ซับซ้อนหลายโครงการ ให้กลายเป็นเงินช่วยเหลือตรงกลุ่ม และโปร่งใส
ผลกระทบต่อคนไทย
กลุ่มประชากร | ผลกระทบ / ประโยชน์ |
คนรายได้น้อย | ได้เงินช่วยเหลือจากรัฐ ลดภาระความยากจน และเข้าถึงสวัสดิการง่ายขึ้น |
คนรายได้ปานกลาง-สูง | ต้องยื่นภาษีตามปกติ แต่จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ |
ประชาชนทั่วไป | ถูกดึงเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น ทำให้รัฐมีข้อมูลครบถ้วนเพื่อออกนโยบายที่แม่นยำ |
รัฐบาล | สามารถจัดสวัสดิการได้ตรงจุด ลดโครงการซ้ำซ้อน แต่ต้องแบกรับงบประมาณสูง |
ข้อดีของระบบ Negative Income Tax
- ลดความเหลื่อมล้ำ – เงินช่วยเหลือไปถึงผู้ที่จำเป็นจริง
- สวัสดิการตรงกลุ่ม – ลดความซ้ำซ้อนของโครงการหลายชั้น
- เพิ่มฐานข้อมูลภาษี – ดึงคนที่ไม่เคยยื่นภาษีเข้าสู่ระบบ
- โปร่งใส และตรวจสอบง่าย – ทุกคนต้องยื่นภาษี ทำให้รัฐคำนวณเงินช่วยเหลือได้แม่นยำ
ความท้าทาย และข้อควรระวัง
- งบประมาณสูง – การจ่ายเงินให้คนจำนวนมากต้องวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ
- ต้องใช้ระบบข้อมูลที่แม่นยำ – หากข้อมูลไม่ครบ อาจเกิดความผิดพลาดในการจ่ายเงินช่วยเหลือ
- แรงจูงใจทำงาน – หากจัดการไม่ดี อาจมีผู้พึ่งพาเงินช่วยเหลือโดยไม่ทำงาน
- ความเข้าใจประชาชน – ต้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจว่าการยื่นภาษีไม่จำเป็นต้องเสียเงิน
Negative Income Tax คือหนึ่งในก้าวสำคัญของไทยสู่ระบบภาษี และสวัสดิการที่ทันสมัย และตรงกลุ่มมากขึ้น ซึ่งหากมีการนำมาใช้จริงในปี 2570 แปลว่าทุกคนที่มีายได้ในประเทศไทยจะต้อง “ยื่นภาษี” (ไม่ใช่การบังคับจ่ายภาษี) และผู้ที่มีรายได้น้อยจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐ ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วระบบนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มความโปร่งใส และทำให้การจัดสวัสดิการมีประสิทธิภาพ แต่เรื่องที่ต้องกังวลก็คืองบประมาณในการดำเนินงานสูง รวมถึงการสร้างแรงจูงใจให้คนไทยมีรายได้เข้าสู่ระบบภาษี