การมีรถยนต์ไว้ใช้เพื่อความสะดวกในการดำรงชีวิต หรือ ไว้ใช้ในการทำกิจการต่างๆ เป็นเรื่องที่ต้องมีการวางแผน เพราะการซื้อรถยนต์สักคันนั้นเป็นการเช่าซื้อในระยะยาว อย่างน้อยก็ผ่อนกันมากกว่า 2 ปีขึ้นไป ซึ่งควรมีการวางแผนการเงินกันให้ดีๆ
แม้ว่าปัจจุบันจะมีการลดภาษีรถยนต์อีโคคาร์ออกมาแล้วก็ตามแต่อย่าลืมว่าระยะการผ่อนชำระมันยาว และในระหว่างการผ่อนชำระนั้นเราไม่รู้ว่าจะมีความต้องการใช้จ่ายเงินหรือไม่ หากเราขาดการผ่อนชำระ แน่นอนว่าเราก็จะเสียเครดิตและอาจลุกลามจนถึงการถูกยึดรถคืนได้ ดังนั้น ถ้าเรา อยากมีรถ ซักคัน เราควรทำแบบนี้
ก่อนการเช่าซื้อรถยนต์ควรมีเงินดาวน์ ซึ่งเงินส่วนนี้ไม่แนะนำให้กู้เงินมาวางดาวน์ หรือ ใช้เงินจากการกดบัตรเงินสด หรือ บัตรเครดิต เพราะมันจะเป็นการเพิ่มหนี้ ซึ่งมีบางคนที่ใช้เงินจากการกู้ทั้งในระบบและนอกระบบมาเป็นเงินดาวน์
เงินดาวน์รถยนต์นั้นควรเป็นเงินที่เก็บสะสมไว้ เป็นเงินที่ไม่ควรมีภาระดอกเบี้ย หรือ ภาระการผ่อนชำระ โดยการวางเงินดาวน์นั้นปัจจุบันทางไฟแนนซ์จะมีให้เลือกตั้งแต่ 10% ของราคารถยนต์รุ่นนั้นๆ หากเป็นรถยนต์ใหม่ป้ายแดง แต่สำหรับมือสองก็แล้วแต่ว่าไฟแนนซ์แนะนำให้วางเงินดาวน์เท่าไหร่ ส่วนระยะเวลาการผ่อนจะยาวถึง 84 งวดหรือ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย จะขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์ที่เลือกโดยจะมีตั้งแต่ต่ำสุด 0% จนถึงสูงสุดไม่เกิน 5% โดยส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับการขายของแต่ละศูนย์รถยนต์ว่าแต่ละรุ่นมีโปรโมชั่นแบบไหน
ลองคำนวณคร่าวๆ เช่น ราคารถยนต์ ยาริส 469,000 บาท วางเงินดาวน์ 10% คือ 46,900 บาท เลือกระยะเวลาการผ่อนชำระ ที่ 5 ปี หรือ 60 งวด จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ 4.15 ยอดผ่อนต่อเดือนคือ 8,994.76 จากตัวอย่างคร่าวๆจะแสดงให้เห็นเลยว่า หากคุณต้องการมีรถยนต์สักคัน รายรับในแต่ละเดือนของคุณควรมากกว่า 20,000 บาท เพราะยอดเงินผ่อนรถนั้นสูง หรือ บางคนหันไปเลือกรุ่นที่ถูกกว่านี้ หรือ ระยะเวลาการผ่อนยาวกว่านี้ บางคนอาจเลือกโปรโมชั่นผ่อนน้อยดอกเบี้ยต่ำ แต่บอกเลยว่า หากเงินเดือนหรือรายรับไม่ถึง 20,000 บาท และไม่มีเงินเก็บหรือเงินออมมาดาวน์รถหรือมีไว้สำรองยามฉุกเฉินไม่แนะนำให้ซื้อรถ เพราะ ไหนจะค่าครองชีพแต่ละวัน รายจ่ายอื่นๆเช่น ค่าน้ำมัน ค่าดูแลรักษารถ และอื่นๆอีกจิปาถะ ทั้งค่าประกันรถยนต์ต่อปี ค่าต่อทะเบียนรถต่อปี ทุกอย่างจะเป็นภาระเหมือนเงาตามตัว
หากคุณ อยากมีรถ และอยากวางแผนการเงินไม่ให้มีปัญหาทั้งการใช้จ่ายและการผ่อนรถ คุณควรคำนวณรายรับของคุณก่อนว่า แต่ละเดือนมีรายรับเท่าไหร่ จากรายได้หลัก รายได้เสริม และได้เท่านี้ตลอดหรือประมาณการว่าขึ้นลงเท่าไหร่ในแต่ละเดือน รายจ่ายแต่ละเดือนทั้งหมดเท่าไหร่ เช่น ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าซื้อของ ค่าเดินทางไปทำงาน และอื่นๆที่เป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทุกๆอย่างต้องนำมาคิดให้หมดเพื่อให้เหลือยอดสุทธิจริงๆว่าแต่ละเดือนมีเงินเหลือเท่าไหร่ นั่นจะบอกได้ทันทีเลยว่าคุณสมควรจะซื้อรถตอนนี้หรือไม่
บางคนมีหนี้บัตรเครดิต บางคนมีหนี้ผ่อนบ้าน บางคนมีหนี้อื่นๆแต่อยากซื้อรถ กู้เงินมาวางดาวน์ หรือ เอาเงินเก็บมาวางดาวน์ พอได้รถมาก็มีหนี้เพิ่ม ผ่อนทุกอย่างแต่ละเดือนรายได้แทบไม่เหลือ รีไฟแนนซ์แล้วรีไฟแนนซ์อีก หนี้ก็ไม่หมด แบบนี้อย่าผ่อนรถเลยจะดีกว่า
ดังนั้นหาก อยากมีรถ คิดจะซื้อรถยนต์สักคันเพื่อความสะดวกสบายหรือใช้ตามความจำเป็นก็วางแผนการเงินให้ดีๆ เพราะหากพลาดอาจมีปัญหาที่จะทำให้คุณต้องติดแบล็คลิสต์ได้ หรือ แทนที่จะมีรถใช้สบายๆ กลับกลายเป็นการเพิ่มภาระโดยไม่จำเป็น รอบคอบและคิดให้ดีๆ หากจะให้ดี ควรวางเงินดาวน์ 50% และเลือกผ่อนในระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะสามารถผ่อนได้เพราะไม่งั้นจะเหนื่อยและท้อในการผ่อนค่างวด