คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายท่าน อาจจะกำลังหาวิธีการเลี้ยงลูกอย่างไรให้เก่ง ฉลาด และดีกันอยู่ แต่ที่เราคุ้นเคยและมักจะเห็นในตำราหรือตามอินเตอร์เน็ตกันอยู่ คือวิธีการสร้างนิสัยรักการอ่านให้ลูกๆที่เรารัก
แต่การสร้างนิสัยรักการออมนั้น พ่อแม่มือใหม่หลายท่านอาจจะยังไม่คุ้นเคยหรืออาจจะคิดไม่ถึงและไม่เข้าใจว่าทำไมต้องปลูกฝังนิสัยรักการออมให้ลูก เมื่อพูดถึงการออม ลองมองย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เรายังเด็ก เราเริ่มรู้จักการออมเงินตั้งแต่อายุเท่าไหร่กัน
แน่นอนว่า ตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียนใช่หรือไม่ ท่านผู้อ่านจำได้หรือไม่ว่า สมัยเด็กได้ค่าขนมไปโรงเรียนวันละเท่าไหร่ ?
หลายท่านอาจจะคิดว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ค่าครองชีพสูงขึ้น ค่าขนมก็ควรเพิ่มขึ้นตามที่ลูกของท่านร้องขอ ซึ่งการให้เงินลูกทุกครั้งที่ลูกขอ จะสร้างนิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยให้ลูกได้ จะดีกว่าหรือไม่ หากท่านสร้างนิสัยรัก การออม ให้ลูกตั้งแต่เนิ่นๆ ให้เห็นคุณค่าของเงิน เมื่อลูกโตขึ้นนิสัยนี้จะติดตัวเค้าไป และทำให้เค้าใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่า
คำถามต่อมาก็คือ …. แล้วจะต้องทำยังไงล่ะ ?
ทำอย่างไรให้ลูกๆของท่านเห็นคุณค่าของเงินและรักใน การออมเงิน เป็นคำถามที่ตอบง่ายแต่ทำยากซะเหลือเกิน
การที่จะทำให้ลูกๆของท่านรักใน การออม และเห็นคุณค่าของเงินตั้งแต่อายุยังน้อยนั้น จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากในการบอกกล่าว แต่เชื่อว่าอาจจะทำยากเสียหน่อยแต่ก็ไม่เกินกำลังของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่แน่นอน
การเริ่มต้นของชิวิตวัยเด็กและ การออม…..
เมื่อลูกๆที่รักของท่าน เริ่มเติบโตขึ้นและก้าวเข้าสู่วัยของการไปโรงเรียน แน่นอนว่า ลูกๆของท่านก็จะได้เรียนรู้วิธีการบริหาร จากการใช้จ่ายเงินค่าขนมทั้งซื้อข้าว ซื้อขนม และเก็บเงินที่เหลือไว้เพื่อซื้อของที่อยากได้ เช่น ของเล่น อุปกรณ์กีฬา เป็นต้น
การให้เงินกับลูกๆท่านไปโรงเรียนนั้น ท่านอาจจะมานั่งกำหนดว่าจะได้ไปเท่าไหร่ แน่นอนว่าช่วงวัยเด็กที่เริ่มรู้จักการซื้อของด้วยตัวเองนั้นไม่สามารถพกเงินสดไปเป็นจำนวนมากๆ หรือให้ค่าขนมเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือนแบบเด็กโตได้ โดยค่าขนมที่ให้ลูกไปโรงเรียนในแต่ละวันกำหนดจากนิสัยการกินของลูกท่านเป็นหลัก ว่าโรงเรียนมีอาหารกลางวันให้รับประทานหรือไม่ มีรถรับส่งหรือต้องเดินทางเอง
พ่อแม่หลายท่านอาจจะมองว่าให้เงินเผื่อไว้เยอะๆก็ดี แต่นั่นอาจเป็นสิ่งที่ผิด เพราะจะทำให้ลูกของท่านเคยตัวว่า นอกจากข้าวเที่ยงที่ต้องทานแล้ว ยังต้องกินน้ำหวาน กินขนม การสร้างพฤติกรรมแบบนี้ให้เด็ก จะส่งผลให้ลูกติดนิสัยใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นได้
….. แล้วทำอย่างไรล่ะ ?
ก่อนอื่น ท่านจะต้องกำหนดและคุยกับลูกของท่านเสียก่อนว่า ลูกของท่านอยากจะซื้ออะไรบ้างที่โรงเรียน เช่น ข้าวเที่ยง ขนมหรือน้ำ ตอนกลางวัน หรือหลังเลิกเรียนในระหว่างรอพ่อแม่มารับ
อะไรที่จำเป็นและไม่จำเป็น อันนี้ เราสามารถคุยกับลูกๆของเราเองได้
เช่น ข้าวเที่ยงแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น
ส่วนน้ำดื่มนั้น ในโรงเรียนส่วนใหญ่มีให้ดื่มฟรีอยู่แล้ว จะดีกว่าไหม ถ้าลงทุนซื้อกระบอกน้ำเล็กๆให้ลูกพกมาที่โรงเรียนแทนการเสียเงิน 10-20 บาทซื้อน้ำดื่มทุกวัน สอนลูกว่า เงินที่ประหยัดได้จากค่าน้ำดื่มสามารถเอามาหยอดกระปุกเก็บสะสมไว้ซื้อของที่อยากได้ตอนสิ้นเดือน
และหลังเลิกเรียนหากท่านคิดว่า ท่านมารับลูกตรงเวลา โดยไม่ต้องหิ้วท้องรอ แน่นอนว่า ค่าขนมที่จะเผื่อไว้สำหรับซื้ออาหารรองท้องหลังเลิกเรียนนั้นก็ตัดไปได้ ทำความเข้าใจกับลูกว่า การซื้อขนมหลังเลิกเรียนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะคุณมารับลูกกลับบ้านทันที และการกินขนมในตอนเย็นจะทำให้อิ่ม และกินข้าวเย็นได้น้อยลง
หัวใจสำคัญของการสร้างนิสัยรัก การออม ให้กับลูกนั้น ไม่ใช่การให้เงินเยอะๆ หรือตัดค่าขนมจนลูกไม่เหลือเงินเก็บ แต่เป็นการสอนให้เค้าได้รู้สึกภาคภูมิใจที่จะมีเงินเหลือกลับบ้านจากเงินค่าใช้จ่ายที่พ่อแม่ให้ไว้ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกภูมิใจในตัวเอง และมีแรงบันดาลใจที่จะออม ที่สำคัญลูกจะได้เห็นคุณค่าของเงินตั้งแต่ยังเด็กอีกด้วย