เชื่อว่าหลายๆคนคงจะคุ้นหูกันดีกับคำว่าเครดิตบูโร แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับเจ้าเครดิตบูโรกันมากพอ ซึ่งอาจจะทำให้เข้าใจผิดต่างๆนาๆเกี่ยวกับเครดิตบูโร ในขณะที่หลายๆคนเกิดความกลัวไปก่อนเมื่อเอ่ยถึง เครดิตบูโร จริงๆแล้วเจ้าเครดิตบูโรไม่ได้น่ากลัวมากมายอย่างที่ใครหลายๆคนคิด ดังนั้นเรามาทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเจ้าเครดิตบูโรนี้เพิ่มเติมกันดีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัยและความกังวลล่วงหน้ามากจนเกินไป
เครดิตบูโร นั้นหรือธุรกิจข้อมูลเครดิต นั้นมีหน้าที่รวบรวมข้อมูล ประวัติการ ชำระสินเชื่อและการชำระบัตรเครดิตของบุคคล จากบรรดาสถาบันการเงินหลายๆแห่ง เช่น ธนาคารพาณิชย์ หรือผู้ให้บริการสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิต ซึ่งเมื่อลูกค้าให้ความยินยอมให้สถาบันการเงินตรวจสอบข้อมูลการชำระสินเชื่อหรือการชำระบัตรเครดิตของลูกค้า ในขณะที่ยื่นขอสินเชื่อแล้วสถาบันการเงินต่างๆ ก็สามารถที่จะเรียกดูข้อมูลดังกล่าวของลูกค้าจาก Credit Bureau ได้ เพื่อเป็นการใช้ประกอบกับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าต่อไป
โดยการให้สินเชื่อต่างๆของสถาบันการเงินส่วนใหญ่นั้น ในกรณีที่ผู้ขอสินเชื่อไม่เคยมีประวัติสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ทำให้โอกาสที่ลูกค้าจะได้รับสินเชื่อย่อมมีน้อยลง ดังนั้นการเปิดเผยข้อมูลเครดิตของลูกค้า จะช่วยทำให้สถาบันการเงินนั้นทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเงินต่างๆของผู้ขอสินเชื่อได้ จากรายงานข้อมูลของเครดิตบูโร ดังนั้นหากผู้ขอสินเชื่อมีประวัติในการชำระที่ดีมา การเปิดเผยข้อมูลเครดิตจากเครดิตบูโรนี้ ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสให้กับลูกค้าในการได้รับอนุมัติสินเชื่อได้ด้วย อย่างไรก็ดีการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินยังมีองค์ประกอบอื่นที่นำมาพิจารณาร่วมด้วย เพราะจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้สถาบันการเงินพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ และอาจจะทำให้ได้รับการอนุมัติที่รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาข้อมูลอื่นๆตามแต่ที่สถาบันการเงินนั้นจะนำมาพิจารณาประกอบด้วย เช่น รายได้ หลักประกัน และ ผู้ค้ำประกัน เป็นต้น
ส่วนในกรณีที่ติดแบล็กลิสต์หรือบัญชีดำนั้น ก็ขอให้ผู้ขอสินเชื่ออย่าเพิ่งเป็นกังวลจนมากเกินไป เพราะในส่วนนี้สถาบันการเงินต่างก็มีวิธีในการพิจารณาแตกต่างกันออกไป เพราะเมื่อผู้ขอสินเชื่อสามารถปิดบ/ชต่างๆที่ติดบูโรได้ ก็อดทนรอเวลาเพียง 3 ปีก็จะถูกลบชื่อออกจากเครดิตบูโรทันที และสามารถนำชื่อไปใช้ทำธุรกรรมต่างๆทางการเงินได้ เพียงแต่จะต้องมีวินัยในการจ่ายชำระค่างวดต่างๆ ไม่ทำให้ตัวเองต้องกลับมาติดเครดิตบูโรได้อีก และอาจจะใช้เวลามากกว่าผู้ขอสินเชื่อคนอื่นๆสักหน่อย เพราะอย่างไรก็ตามทางสถาบันการเงินอาจจะมองว่า อย่างน้อยคุณก็เคยมีประวัติการจ่ายชำระในอดีตที่ไม่ดีนัก การที่จะยอมรับและปล่อยสินเชื่อให้ใหม่ จึงอาจจะจำเป็นต้องใช้การพิจารณามากและพิเศษกว่าผู้ขอสินเชื่อที่ไม่เคยติดเครดิตบูโร
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายๆคนก็อาจจะยังมีข้อสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับเครดิตบูโร เช่น ข้อมูลเหล่านั้นได้มาจากไหน ข้อมูลที่เก็บเอาไว้เป็นข้อมูลในส่วนไหนบ้าง ใครสามารถที่จะขอดูข้อมูลต่างๆเหล่านั้นได้บ้าง และสามารถขอดูข้อมูลต่างๆเหล่านั้นได้ที่ไหน เว็บไซต์ของเรามีคำตอบให้กับคุณ
สำหรับข้อมูลเครดิตบูโรนั้นเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับ ข้อมูลส่วนตัวต่างๆของผู้ที่เคยขอสินเชื่อ เช่น ชื่อ ที่อยู่ อายุ วันเดือนปีเกิด อาชีพ สถานภาพการสมรส เลขที่บัตรประชาชน เป็นต้น ไปจนถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับประวัติการขอสินเชื่อ การได้รับอนุมัติสินเชื่อ และประวัติการชำระสินเชื่อ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะเป็นตัวการันตีและช่วยบอกสถานะและวินัยทางการเงินที่ผ่านมาของผู้ขอสินเชื่อได้ เป็นสาเหตุหลักที่สถาบันทางการเงินต่างๆจะใช้พิจารณาประกอบการตัดสินใจ ว่าจะปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ขอสินเชื่อหรือไม่ แต่ไม่ต้องกังวลว่าทางเครดิตบูโรจะมีข้อมูลต่างๆที่เป้นข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับทรัพย์สินที่มีอยู่ของคุณ เพราะเครดิตบูโรจะแสดงเฉพาะข้อมูลหนี้สินของคุณให้กับทางสถาบันการเงินเท่านั้น ดังนั้นจึงวางใจได้
ส่วนที่ว่าข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากไหนและใครสามารถที่จะขอดูข้อมูลเหล่านี้ได้บ้างนั้น คำตอบคือ เครดิตบูโรจะได้ข้อมูลเหล่านี้จากสมาชิกเครดิตบูโร นั่นก็คือเจ้าหนี้ต่างๆ เช่น ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ เป็นต้น ส่วนใครสามารถที่จะขอดูข้อมูลเหล่านี้ได้บ้างนั้น คำตอบคือมี 2 ประเภทที่จะสามารถขอดูเครดิตบูโรเหล่านั้นได้ นั่นก็คือบุคคลทั่วไปและบรรดาสมาชิกเครดิตบูโรที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั่นเอง ซึ่งจุดประสงค์ในการขอดูข้อมูลเหล่านี้ของสมาชิกเครดิตบูโรก็เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการปล่อยสินเชื่อให้กู้ยืมเท่านั้น ส่วนบุคคลทั่วไปสามารถยื่นแบบขอดูได้เช่นกันแต่จะสามารถขอดูได้เฉพาะข้อมูลของตัวเองเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีบุคคลแปลกปลอมมาแอบดูข้อมูลต่างๆทางการเงินของเรา เพราะการที่จะขอดูข้อมูลได้จะต้องใช้เอกสารสำเนาบัตรประชาชนของตนเอง เพื่อยื่นแบบคำร้องขอเช็คข้อมูลต่างๆเหล่านั้นกับทางเครดิตบูโรด้วยตนเองเท่านั้น โดยมีค่าบริการในการเรียกดูข้อมูลที่ 150-200 บาท
เมื่อได้รู้จักเครดิตบูโรกันมากขึ้น เว็บไซต์ของเราก็หวังว่าทุกๆท่านจะเข้าใจและมีวินัยในการชำระค่างวดค่าสินเชื่อต่างๆ หรือใครที่เป็นกังวลเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆในเครดิตบูโรอยู่นั้น ก็อาจจะสบายใจและวางใจเพิ่มมากขึ้น