บัตรเครดิตสามารถใช้รูดเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการได้เช่นเดียวกันกับบัตรเดบิต แต่จะสามารถรูดได้เท่ากับจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชี ตรงจุดนี้เองที่คือจุดบอดของบัตรเดบิต เพราะหากบัตรเดบิตสูญหายและมีผู้นำบัตรไปรูดซื้อสินค้า เงินจะถูกตัดทันทีผ่านบัญชีที่ผูกไว้กับบัตรเดบิต นั้นหมายความว่าเงินในบัญชีของคุณได้หายไปหมดแล้ว
ความปลอดภัยในการใช้บัตรเครดิตนั้น เราได้กล่าวไปในบทความอื่นๆไปบ้างแล้ว ซึ่งการจะใช้บัตรเครดิตให้ปลอดภัยนั้นมีหลักสำคัญอยู่เพียงสองประการใหญ่ๆ คือ อย่าเก็บข้อมูลส่วนตัวเอาไว้ที่เดียวกันกับบัตรเครดิต และทุกครั้งที่ยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงานเพื่อทำการชำระสินค้าควรจับตาตลอดเวลาที่พนักงานกำลังทำการรูดบัตรบนเครื่่อง พร้อมทั้งตรวจสอบบัตรเมื่อได้รับคืนจากพนักงาน เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง แต่หลายคนก็เกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้ว บัตรเดบิตปลอดภัยกว่าบัตรเครดิตจริงหรือ? ในเรื่องนี้ต้องแยกออกเป็นสองประเด็นคือ
บัตรเครดิตสามารถใช้รูดเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการได้เช่นเดียวกันกับบัตรเดบิต แต่จะสามารถรูดได้เท่ากับจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชี ตรงจุดนี้เองที่คือจุดบอดของบัตรเดบิต เพราะหากบัตรเดบิตสูญหายและมีผู้นำบัตรไปรูดซื้อสินค้า เงินจะถูกตัดทันทีผ่านบัญชีที่ผูกไว้กับบัตรเดบิต นั้นหมายความว่าเงินในบัญชีของคุณได้หายไปหมดแล้ว และเมื่อแจ้งเรื่องต่อสถาบันการเงิน ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการเรียกเงินคืนได้ในทันที เพราะต้องรอตรวจสอบ แจ้งความ และใช้ระยะเวลาในการดำเนินการที่ยาวนาน หรือถึงขั้นไม่ได้เงินคืนก็เป็นไปได้
ในขณะที่บัตรเครดิต หากเกิดการสูญหาย และมีผู้นำบัตรไปรูดเพื่อซื้อสินค้า ทางเจ้าของบัตรสามารถทำการอายัดบัตรและยกเลิกรายการที่ทำได้ทันที หรือปฎิเสธรายการนั้นๆ ซึ่งสถาบันการเงินจะสามารถดำเนินการอายัดและยกเลิกรายการได้
ซึ่งจะเห็นว่าในแง่ของความปลอดภัย บัตรเครดิตจะมีความปลอดภัยมากกว่าบัตรเดบิตในกรณีที่บัตรสูญหาย แต่ในด้านของการใช้งานบัตรเดบิตถือว่าปลอดภัยกว่าบัตรเครดิต ในแง่ของการจำกัดวงเงิน เนื่องจากบัตรเดบิตจะสามารถใช้ได้ตามจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชี หมายความว่าหากเงินในบัญชีหมดก็ไม่สามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ นี้จึงเป็นวิธีการที่จะสร้างวินัยให้กับผู้ถือบัตรเดบิต ที่จะใช้จ่ายตามจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชี