หลายคนที่เก็บเงินมาก็หลายปี กินดอกเบี้ยจากธนาคารที่น้อยนิด ถึงเวลาที่อยากเอาเงินเก็บมาทำอะไรซักอย่าง เพื่อหวังให้มันงอกเงย เป็นผลเป็นดอกได้มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่ก็กลัวความเสี่ยงต่างๆ นาๆ เลยไม่ได้ลงมือทำอะไรสักที ความมั่งคงมั่งคังที่หวังไว้ก็เลยยังไม่ไปถึงไหน วันนี้เราจึงมีวิธีต่างๆ มาแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ว่าควรจะต้องศึกษาในเรื่องอะไรบ้าง การลงทุนมีในรูปแบบใดบ้าง และความเสี่ยงจะแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน มาไขข้อข้องใจกัน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับนักลงทุนมือใหม่ไว้ ว่า อันดับแรก คุณต้องทำการสำรวจตัวเองก่อนว่า อยากลงทุนอย่างจริงจังหรือไม่ เพราะสำหรับผู้ลงทุนมือใหม่หรือหลายๆ คนที่สนใจลงทุน แต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะลงทุนอย่างไร ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน ลองเริ่มจาก “รู้จักตัวเอง” ให้ลึกซึ้งขึ้นอีกนิด ถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่า “เป้าหมาย” การลงทุนของคุณคืออะไร? ต้องการใช้เงินประมาณเท่าไหร่? และต้องการบรรลุเป้าหมายเมื่อใด? ถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองให้มากๆ เพราะจะต้องบอกก่อนว่า หากลงทุนไปแล้ว จะต้องยอมรับผลที่ตามมา จะมาเสียดายเงินทีหลังไม่ได้ นักลงทุนก็ไม่กล้าเสี่ยง ก็เก็บเงินไว้ในธนาคารเฉยๆ ดีกว่า
จากนั้น มาพิจารณาเงื่อนไขในการลงทุนของคุณกัน ว่าคุณมีความชอบหรือถนัดในการลงทุนสินทรัพย์ประเภทใด มีเงินลงทุนมากน้อยเพียงใด ต้องการผลตอบแทนในรูปแบบใดและเท่าไหร่ มีเวลาติดตามข่าวสารด้านการลงทุนหรือไม่ หากขาดทุนจะยอมรับได้ในวงเงินเท่าไหร่ และหากได้กำลังจะขยายการวงเงินในการลงทุมหรือไม่ ที่สำคัญคือการยอมรับความเสี่ยงได้ดีแค่ไหน เพราะการลงทุนต่างประเภทก็มีความเสี่ยงแตกต่างกันออกไป
สำหรับทางเลือกในการลงทุนนั้นก็มีหลายรูปแบบ ได้แก่
1. การลงทุนเป็นเจ้านี้ (Debt) คือ การลงทุนกับ พันธบัตรรัฐบาล, พัธบัตรรัฐวิสาหกิจ, หุ้นกู้, หุ้นแปลงสภาพ โดยกลุ่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ
2. ลงทุนเป็นเจ้าของ (Equity) คือ การลงทุนกับ หุ้นสามัญหุ้น และบุริมสิทธิ โดยกลุ่มนี้ก็จะเหมาะกับคนที่สามารรับความเสี่ยงได้ปานกลาง
3. ลงทุนจัดการความเสี่ยง (Derivatives) การลงทุนกับ ฟิวเจอร์ส และออปชั่น เหมาะสำหรับคนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้สูง
นอกจากสิ่งเหล่านี้คุณก็ยังสามารถลงทุนกับสินทรัพย์อื่นๆ ได้ อย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์ หรือทองคำ หากแต่จะต้องมีเวลาในการติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพราะราคาของสินทรัพย์ประเภทนี้ค่อนข้างจะผันผวน เป็นไปตามกลไกการตลาด ที่เปลี่ยนแปลงในทุกๆ วัน ซึ่งสิ่งที่คุณเลือกลงทุนนั้น ต้องเหมาะสมกับเป้าหมายและข้อจำกัดในการลงทุน ของคุณจริงๆ คุณอาจต้องเข้าใจถึงคุณสมบัติเฉพาะตัว ความเสี่ยงและผลตอบแทน ตลอดจนข้อดีข้อเสียของทางเลือกต่างๆ อย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้คุณจัดสรรเงินลงทุนได้อย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งจะต้องได้รับการศึกษาอย่างรอบคอบมากที่สุด
หากหลายคนไม่สนใจการลงทุนเหล่านี้ แต่อยากมีธุรกิจของตัวเอง ก็สามารถนำหลักการข้างต้นนี้นำไปใช้ได้เช่นกัน โดยการรำรวจตัวเองว่าชื่นชอบหรือถนัดด้านใด อยากมีธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ และมีเงินลงทุนมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญลูกค้าของคุณคือใคร คนสมัยนี้อยากมีธุรกิจของตัวเอง แต่ไม่ศึกษาความเสี่ยงเหล่านี้ ที่เราเห็นกันได้ชัด คือ ร้านกาแฟ ปัจจุบันไปที่ใดเราก็จะเจอแต่ร้านกาแฟที่มีจำนวนมากในหลายพื้นที่ แต่กลับไม่ค่อยมีคอนเท็นส์ของตัวเองที่เด่นชัด จึงทำให้ธุรกิจไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่
โดยส่วนตัวมองว่า คอนเท็นส์สามารถเป็นจุดแข็งให้กับธุรกิจของคุณได้ เช่น หากคุณอยากเปิดร้านกาแฟ คุณมีบาริสต้าที่สามารถทำกาแฟอย่างมืออาชีพได้ไหม รสชาติกาแฟของคุรพิเศษกว่าร้านอื่นๆ อย่างไร ร้านของคุณออกแบบได้อย่างมีสไตล์หรือไม ราคาต่อกาแฟแก้วหนึ่งเหมาะสมแค่ไหน เพราะในปัจจุบันคนที่กินกาแฟ ไม่ได้มาร้านกาแฟเพื่อซื้อกาแฟแล้วกลับ แต่กลับมาเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศของร้าน นั่งทำงาน หรือแม้กระทั่งพบปะลูกค้าด้วยซ้ำไป ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณสามารถตกแต่งร้านได้อยากสวยงาม ก็จะสามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มที่ชอบถ่ายรูป และแชร์ลงโซเชียลได้ แถมยังได้โปรโมทร้านไปในตัวด้วย
การลงทุนจึงเป็นเรื่องที่ควรศึกษาอย่างรอบด้าน มิใช่แค่มีเงินก็จะลงทุนอะไรก็ได้ การลงทุนหากการวางแผนก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาเงินไปโยนทิ้ง ทั้งยังเสียเครดิตหลายๆ อย่าง เมื่ออยากลงทุนครั้งต่อไปการไปกู้เงินธนาคารก็อาจจะไม่ผ่านการอนุมัติได้ ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะต้องเปิดใจกว้างต่อความเสี่ยงที่ต้องเจอ กำไรที่ได้อาจจะไม่ได้มากพอตามที่คาดเดา เพราะนับเป็นเรื่องธรรมดาของการลงทุนที่อาจจะต้องขาดทุนบ้าง หากแต่อย่าขาดกำลังใจที่ก้าวต่อไป เพราะการขาดทุนถือเป็นสัญญาณเตือนว่าเรายังรอบคอบไม่เพียงพอ ก็จะต้องมีวางแผนให้รัดกุมมากขึ้น
เห็นได้ชัดว่าการลงทุนนั้นไม่ใช้เรื่องง่ายๆ คนที่เขาประสบความสำเร็จจากการลงทุน หรือธุรกิจส่วนตัว นับว่าเป็นคนที่มีการวางแผน มีจุดแข็งของตนเอง ทั้งยังต้องสามารถวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของธุรกิจของตนเองได้อย่างแม่นยำ สามารถประเมินความเสี่ยงได้อย่างรอบด้าน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ในการจัดการการลงทุน ซึ่งนักลงทุนหน้าใหม่จะต้องศึกษา เพื่อที่การลงทุนของคุณจะได้ประสบความสำเร็จเช่นกัน