จากที่มีข่าวเมื่อปลายปีที่แล้วกรณี ที่มีการออกราชกิจจานุเบกษาออกประกาศให้ล้างประวัติลูกหนี้แบล็คลิสต์ 6 แสนราย โดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต เรื่องอายุข้อมูลในการประมวลผลข้อมูล การประมวลผลข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต และการส่งข้อมูลของสมาชิก ส่งผลให้ลูกหนี้รายย่อยประมาณ 6 แสนราย ที่โชว์ประวัติการค้างชำระหนี้เกิน 8 ปี ตั้งแต่ประมาณเดือน กันยายน ปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังมีคนสงสัยว่าการ ล้างประวัติเครดิตบูโร คืออะไร
การ ล้างประวัติเครดิตบูโร นั้น ปรกติแล้วจะมีการจัดเก็บข้อมูลไว้ 3 ปี ไม่ว่าคุณจะปิดบัญชีแบบปรกติ หรือ ไม่ปรกติก็ตามนั่นหมายความว่าไม่ว่าจะเป็นลูกหนี้ชั้นดี หรือ ลูกหนี้เบี้ยวนัด ประวัติทุกอย่างจะคงอยู่ และกรณีที่มีการปิดบัญชี ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนชำระตรงจนหมด หรือ มีการทวงถาม มีการจ่ายล่าช้า หากปิดบัญชีข้อมูลจะคงอยู่จนกว่าจะครบ 3 ปี ซึ่งมีหลายคนสงสัยว่าทำไมเคยจ่ายล่าช้า แต่ปิดบัญชีไปแล้ว ทำไมเวลาขอสินเชื่อใหม่ถึงยังติดเครดิตบูโรอีก นี่คือคำตอบที่สามารถบอกได้ ว่าการล้างประวัติที่จัดเจ็บในเครดิตบูโรนั้นจะคงอยู่ถึง 3 ปี ซึ่งทีนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถาบันการเงินว่าจะอนุมัติหรือไม่ ซึ่งบาแห่งอาจต้องรอครบ 3 ปีนับจากวันที่คุณปิดบัญชีหนีเสียจึงจะยื่นทำสินเชื่อ หรือ บัตรเครดิตใหม่ได้ บางแห่งอาจจะใช้เวลาแค่ 6 เดือน – 1 ปี ซึ่งก็แล้วแต่กรณีหรือตามกฎเกณฑ์อื่นๆประกอบกันด้วย
ส่วนที่มีราชกิจจานุเบกษาออกประกาศให้ล้างประวัติลูกหนี้แบล็คลิสต์ 6 แสนราย เมื่อปีที่แล้วนั้นจะล้างให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ไม่สูง ซึ่งตามความเป็นจริงประวัติในเครดิตบูโรไม่มี แต่ประวัติกับเจ้าหนี้นั้นยังคงอยู่แน่นอน และ ปัจจุบันนี้เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินแต่ไม่ใช่ธนาคารจะมีการจำหน่ายหนี้เสียออกไปตามสำนักงานกฎหมาย คือ สถาบันการเงินนั้นๆไม่ได้เป็นเจ้าหนี้คุณอีกแล้ว แต่เป็นสำนักงานกฎหมายที่เป็นเจ้าหนี้คุณ ซึ่งดูได้จากจดหมายทวงหนี้นั่นล่ะส่งมาจากไหนก็คือที่นั่นเป็นเจ้าหนี้คุณ ซึ่งหนี้ที่จะถูกขายออกจากสถาบันการเงินเหล่านี้นั้นจะมีจำนวนไม่สูง และมีการหยุดการชำระมาระยะเวลาหนึ่ง ทีนี้คุณไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมสำนักงานกฎหมายเหล่านี้ถึงรับทวงหนี้ และตามถี่ตามตลอดต่อให้นานเป็นปีก็ยังตามแถมบางแห่งมีทีเด็ด คุณไม่จ่ายหนี้คือยอมทิ้งเครดิตยอมติดแบล๊คลิสต์และรอเวลาล้างประวัติจากราชกิจจานุเบกษา แต่เชื่อไหมว่าสำนักงานกฎหมายบางแห่งยอมจ่ายค่ารักษาบัญชีลูกหนี้ของคุณแค่ไม่กี่ร้อยแต่ให้ยอดหนี้คุณยังคงอยู่ในระบบเครดิตบูโร
ดังนั้น การที่ใครจะบอกคุณว่าเครดิตบูโรล้างได้นั้น จะล้างได้ก็ต่อเมื่อคุณปิดบัญชีหมดและประวัติครบ 3 ปี จากวันที่ปิดบัญชีคือคุณจ่ายหนี้เขาหมด ส่วนใครที่เป็นหนี้มานานหลายปีก็ลองนับๆดูว่าจากที่ละทิ้งหนี้มาจนถึงเดือนมีนาคม 2558 นั้นคุณเกิน 8 ปีหรือครบ 8 ปีหรือไม่ เพราะจากที่ประกาศราชกิจจานุเบกษาออกมานั้นคาดกันว่าทั้ง 6 แสนรายจะถูกลบออกหมดภายในปี 2560 เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้มีโอกาสเป็นหนี้ใหม่ สำหรับบางคนที่ต้องการกู้สินเชื่อต่างๆ แต่ติดเครดิตบูโรจากหนี้เก่าๆที่ไม่ได้ผ่อนชำระก็ลองไปตรวจประวัติของตัวเองที่กับสาขาของเครดิตบูโรกันดูว่าได้รับการล้างประวัตินั้นไปหรือยัง แต่การยื่นสินเชื่อใหม่นั้นต้องไม่ใช่กับสถาบันการเงินที่เดิม เพราะประวัติคุณยังคงค้างอยู่กับสถาบันการเงินเหล่านั้น หรือ สำนักงานกฎหมายที่รับช่วงหนี้ของคุณไป และหากใครที่สามารถกลับมาเข้าสู่สินเชื่อ หรือ หนี้ในระบบได้นั้นให้พึงระลึกไว้เสมอว่าอย่ากลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก