สวัสดีสมาชิกทุกท่านที่ติดตามซีรีย์ “ มือใหม่หัดซื้อกองทุนรวม ” มาโดยตลอดตั้งแต่ซีรีย์ที่ 1 จนมาถึงซีรีย์ภาคพิเศษ จะพิเศษอย่างไรจะได้ทราบกัน แต่ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหา ขอเกริ่นนำก่อนว่าผู้เขียนได้มีโอกาสไปซื้อกองทุนมาแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กับทางสถาบันการเงินใหญ่ย่านสีลม สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ เพราะมองดูตลาดหุ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าหุ้นลงค่อนข้างแรงมาก แม้ว่าในวันสุดท้ายของสัปดาห์จะสามารถ Rebound กลับขึ้นมาได้ แต่ก็ต้องดูในสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นปีว่าจะมีความผันพวนหรือทะลุแนวต้านไปได้หรือไม่ ประกอบกับเทศกาลซื้อกองทุนที่ดีที่สุด คือ ช่วงปลายปี เนื่องจากตลาดหุ้นมักจะดีดขึ้นในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี แต่ปีนี้อาจจะผิดคาดไป เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกก็อยู่ในแนวดิ่ง ก็ต้องตามกันต่อไป
สัปดาห์ที่ผ่านมาจึงเป็นความชํ้าใจสำหรับนักลงทุนในหุ้น ต่างติดยอดดอยไม่สามารถลงมาได้ แต่สำหรับมือใหม่อย่างผมที่หันไปลงทุนในกองทุนรวมกลับยิ้มได้ เพราะได้ซื้อกองทุนในราคาที่ถูก เพื่อนซี้กระซิบมาว่า ถือเป็นจังหวะดีมากที่หุ้นลงทำให้ราคาซื้อถูก และพอหุ้นขึ้นผลตอบแทนก็จะขึ้นตาม จึงไม่รีรอที่จะไปซื้อกองทุน โดยตัดสินซื้อแบบ RMF ควบกับ LTF ซึ่งจะนำเงินของเราไปลงทุนในส่วนต่างๆของตลาดหุ้น เช่น ตราสารหนี้ ตราสารทุน จะเป็นกระจายความเสี่ยงมากน้อย ขึ้นอยู่กับทางสถาบันการเงินจะบริหาร และเป็นไปตามคาด ผลจากการตัดสินใจซื้อกองทุนในวันนั้นด้วยเงินจำนวนหนึ่ง ภายในข้ามคืนก็ได้ผลกำไรทันที (จากภาพด้านล่าง)
จากภาพจะเห็นผลกำไรที่เป็น Gain อยู่เกือบ 200 บาท แต่ยอดนี้เป็นราคาที่ทำกำไรจากการซื้อในวันนั้น หากซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาในวันนั้นๆก็จะทำให้ติดลบ ราคาตรงนี้จะเปลี่ยนแปลงตามแต่ละวัน ภายในเวลาข้ามคืน ในส่วนของ Outstanding หรือเงินลงทุนขอไม่เปิดเผย แต่เป็นเงินที่อยู่ในหลักพันปลายๆ ผู้อ่านลองคิดดูว่าถ้าเรามั่นลงทุนไปเรื่อยๆมีก็ค่อยซื้อเพิ่ม แต่ต้องดูตลาดด้วยว่ากำลังขึ้นหรือเปล่า ควรซื้อในจังหวะที่ตลาดลงเพื่อเข้าซื้อทำกำไร แล้วพอผ่านไปสักระยะหนึ่ง เงินที่เป็นกำไรก็น่าจะเพิ่มขึ้น
ในจุดนี้เองผู้เขียนจึงอยากจะเชิญชวนผู้ที่กำลังกล้าๆกลัวๆว่าจะลงทุนในกองทุนรวมดีไหม เพราะไม่มั่นใจ อยากจะบอกว่าลองดู เพราะในปัจจุบันการนำเงินบางส่วนจากเงินเก็บมาต่อยอดในกองทุนถือเป็นสิ่งที่ดีและเห็นผลตอบแทนที่ชัดเจนมากกว่าการนำเงินไปฝากไว้เฉยๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนเยอะ เพียงหักจากรายได้เดือนละ 1,000 – 3,000 บาท หรือเทคนิคที่เรียกว่า การลงทุนแบบทยอยลงทุน Dollar Cost Average (DCA) เป็นการสะสมหน่วยลงทุนที่มีราคาถูก โดยการเข้าสู่ในช่วงตลาดขาลงแล้วรอจังหวะสร้างกำไรในขาขึ้น แต่คุณต้องใจนิ่งๆนะครับ พอถึงเวลาครบกำหนด เงินงอกออกมาจะสร้างความประหลาดใจให้กับคุณ อีกทั้งในตัวหุ้นนี้ยังสามารถลดหย่อนภาษีได้อีกไม่เกิน 15 % ของรายได้ตลอดปี แม้ว่าในหนังสือชักชวนก็กล่าวยํ้าว่า ผู้ซื้อควรศึกษาข้อมูล และผลดำเนินการในอดีตไม่ใช่หลักประกันในผลดำเนินการในอนาคต แต่อย่างน้อยการลงทุนในรูปแบบนี้มีความเสี่ยงที่น้อยกว่าการลงในในหุ้นที่ซื้อขายแบบรายวัน ถ้าใจไม่ถึงจริงและไม่ชำนาญจริง อย่าเพิ่งเข้าไปเลย รอเก็บประสบการณ์จากการดูกองทุนรวมไปก่อน เหมือนผู้เขียนก็เล็งๆไว้ แต่คงจะอีกระยะหนึ่ง และมาถึงตรงนี้ก็คงมีคำถามจากสมาชิกว่า แล้วเราจะลงทุนให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร
- แน่นอนว่าอันดับแรกนักลงทุนมือใหม่หรือมือเก๋า ต่างต้องปฎิบัติ คือ ติดตามข่าวสารอยู่ตลอด ทิศทางของเศรษฐกิจ รวมถึงทิศทางของตลาดหุ้น เพื่อที่จะรู้จังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนซื้อเพิ่ม เพราะหากมีปัจจัยที่ส่งผลต่อกองทุนรวมที่เราลงทุนก็อาจจะสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทัน
- ลงทุนในกองทุนอื่นด้วย เพื่อลดความเสี่ยง ถือเป็นอีกวิธีการที่ผู้ลงทุนในกองทุนรวมมักจะทำ เมื่อเริ่มซื้อ 1 กอง ก็จะมีกอง 2 ตามมา เพราะการลงทุนในหลายๆกองก็เพื่อลดความเสี่ยงได้อีกด้วย
- สุดท้าย อย่าลงทุนเพราะของแถม หลายๆสถาบันการเงินในปัจจุบันต่างเร่งโปรโมรตกองทุนของตัวเองเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าให้เข้าซื้อกองทุนรวม โดยเสนอของชำร่วย ของแถมต่างๆ อย่าหลงกลไปกับของแถมเหล่านั้น แต่ควรดูว่าตนเองรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึง ลงทุนตามเป้าหมายการเงินของตนเองด้วย
กล่าวได้ว่า สำหรับการเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมของผู้เขียน ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับการลงทุนแบบจริงจัง หลายคนก็อาจจะลงทุนมาเยอะแล้ว แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนยังคงต้องพยายามทำการศึกษาให้มากขึ้นแล้วนำประสบการณ์การเข้าซื้อในช่วงต้นปี 2015 ว่ามีผลอย่างไรบ้าง และหักลดภาษีได้เยอะไหมในช่วงปีหน้า สำหรับผู้ที่ลังเลอยู่ลองดูครับ ออมวันนี้ก็มั่นใจได้ว่าในวันข้างหน้าเราก็จะมีเงินก้อนอย่างแน่นอน