เราต่างก็รู้กันดีค่ะว่า เงินทองเป็นของมีค่าทั้งสำหรับวันนี้และวันต่อ ๆ ไปในอนาคต ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต แต่ไม่เหลือเงินไว้เก็บออมบ้างก็ไม่ไหวนะคะ เพราะหนึ่งในหลักการดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาทก็คือการลดความเสี่ยงทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นให้เราเสี่ยงน้อยที่สุด หรือ หาเบาะรองกันกระแทกไว้บ้าง
เพราะทุกวันนี้ การใช้ชีวิตแต่ละวันก็ใช่ว่าจะมั่นคง เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ตลอดค่ะ บางคนอาจจะบอกว่า ทำงานทุกวัน เงินเดือนออกมาก็ต้องใช้จ่ายผ่อนบ้าน, ผ่อนรถ, จ่ายค่าบัตรต่าง ๆ ไหนจะค่าโทรศัพท์ ค่างานเลี้ยง ค่าภาษีสังคมอีกมากมาย เงินก็หมดไม่พอใช้แล้ว หรือ เงินที่หามานี่ก็ใช้แบบเดือนชนเดือนแล้วนะ หรือ บางคนก็อาจจะเอ่ยเนือย ๆ ว่า ภาระครอบครัวมันต่างกัน ไหนจะค่าน้ำมันรถ, ค่าเทอม แล้วก็ค่านมลูกอีก จะมัวมานั่งออมเงินตอนนี้ยังทำไม่ได้หรอก
ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ เหตุผลที่พูดมา หรือ ข้ออ้างต่าง ๆ ที่บอกกันออกมา ยิ่งเป็นคำตอบที่ฟังชัด และ ดังที่สุดเลยว่า คุณต้องเริ่มออมเงินเสียตั้งแต่วันนี้ ใครที่บอกว่ามีภาระเยอะ มีลูกยังเล็ก ยิ่งต้องเร่งออมเงิน เพราะคุณคือหัวแรงหลักดังนั้นเงินออมคือเสาเอกให้ครอบครัวที่คุณรักในวันต่อ ๆ ไป และ ใครที่บอกว่าเงินหมุนเดือนต่อเดือน คุณยิ่งต้องระวังการใช้จ่ายมากขึ้น เริ่มต้นออมเงินทันที เพราะวันไหนที่เกิดแจ็ตพอตแตกลงที่คุณขึ้นมา คุณจะได้มีกำแพงไว้พิงหลังและตั้งรับได้อย่างมั่นคง ค่ะ
สำหรับบางท่านอาจจะเริ่มต้นการ ออมเงิน ของคุณด้วยการสร้างแรงบันดาลใจก่อนค่ะ เพราบางคนก็รู้ดีว่าต้องเก็บออม แต่ไม่รู้จะตั้งต้นอย่างไร ลองทำให้ตัวเองเห็นภาพ หรือ เห็นวัตถุประสงค์การออมเงินในแต่ละวันสิค่ะ เป็นต้นว่า คุณอาจจะหากระปุกมาสัก 4 ใบ แล้วก็แปะหน้ากระปุกด้วยภาพเช่น ภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากจะไปอย่างภาพภูเขาไฟฟูจิ, ภาพหอไอเฟล หรือ ภาพสนามฟุตบอลในประเทศอังกฤษ, ถัดมาอีกใบก็เป็นภาพกล่องรูปวัด หรือ ภาพที่ไปทำบุญกับครอบครัวครั้งล่าสุด, ถัดมาอีกกระป๋องก็ติดรูปขวดยา เพื่อการสำรองกรณีฉุกเฉิน และ อีกกระปุกหนึ่งก็อาจจะเป็นรูปบ้านที่ชอบ, รูปร้านกาแฟในฝัน, รูปคอร์สเรียนทำอาหารหรือคอร์สเรียนถ่ายภาพ ที่อยากจะลงมือทำ ก็ได้ค่ะ หรือ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ ลองนำกระปุกมาติดรูปลูกตัวน้อยในชุดรับปริญญา หรือ รูปตอนพาเขาไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ ก็ได้นะคะ จะได้เพิ่มแรงกระตุ้นแรงบันดาลใจให้ออมเงินได้มากขึ้น เมื่อเราเลิกงานกลับมาถึงที่บ้านทุกวัน ก็นำเหรียญที่เหลือมาในแต่ะวันหยอดลงในกระปุกแต่ละใบ อยากหยอดใบไหนมากน้อยอย่างไรก็จัดกันไป เศษแบงค์ยี่สิบบ้างก็ได้ค่ะ ทำซ้ำ ๆ ทุก ๆ วันต่อเนื่องไปสักเดือนสองเดือน แล้วลองมาเขย่า มายกกระปุกดูว่าใบไหนหนักขึ้นบ้าง สิ้นปีค่อยมาแกะแล้วบางภาพความฝันหน้ากระปุกก็จะกลายเป็นภาพจริง ๆ ขึ้นมาค่ะ
หรือถ้าคุณอยู่หอกับเพื่อน ๆ หรือ อยู่กับพี่น้องกันหลายคน ก็ลองชักชวนกันมาออมเงินด้วยการสร้างสีสรรการออมให้สนุกมากขึ้น โดยอาจจะตั้งกติกาขึ้นมาว่า เราจะหยอดเงินลงในกระปุกของทุกคนเท่ากับราคาค่าอาหารมื้อเย็นที่กินด้วยกัน เช่นว่า เย็นนี้เราจ่ายค่าอาหารเย็นคนละ 50 บาท ก็ให้แต่ละคนหยอดเงินลงกระปุกคนละ 50 บาทค่ะ หรือไม่ก็ถ้าเป็นคุณพี่สาวกับน้องสาวขาช้อปก็อาจจะลองเป็นหักเงินลงกระปุกตามยอดช้อปเอาสัก 20 – 50% ของเสื้อที่ซื้อไปก็ได้ค่ะ หักมาหยอดลงกระปุกกัน หรือจะเป็นค่ากาแฟ, ค่าเบียร์ของหนุ่ม ๆ จ่ายไปเท่าไร ก็หยอดลงไปคนละเท่านั้น ผ่านไป 1 ปีมาเปิดดูกัน อาจจะได้เงินออมมาเปิดร้านกาแฟก็ได้นะคะ เพราะมีคนที่เขาทำวิธีนี้ด้วยกันกับเพื่อน 3 คน ใช้เวลาแค่ 9 เดือนก็ได้เงินออมรวมกัน 80,000 กว่าบาทแล้วค่ะ ท่าจะเวิร์คนะคะ
และอีกวิธีการ ออมเงิน สุดจี๊ด ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ลงมือทำได้ ไม่ต้องคิดอะไรมากก็คือ ทุกครั้งที่ใช้จ่ายเงินออกไปแล้วคุณได้รับเงินทอนกลับมาเป็นธนบัตรใบเล็ก ๆ สีฟ้า ๆ หรือ แบงค์ 50 บาทนั่นแหล่ะค่ะ ก็ให้คุณแยกออกมาเก็บออมทันที ทำไปเรื่อย ๆ ค่อย ๆ สะสมไป หรือจะมองหากระป๋องสวย ๆ มาเรียงแบงค์ 50 ใส่ลงไปทีละใบ เชื่อหรือไม่ค่ะ ว่าพอถึงสิ้นปีเมื่อคุณมาเปิดกระป๋องใบเดิมออกมาอีกทีคุณอาจจะสามารถนำเงินก้อนนี้ไปปลดหนี้บัตร หรือ จ่ายค่าเช่าห้อง หรือ เที่ยวญี่ปุ่นได้สักทริปก็ยังได้สบาย ๆ เลยค่ะ แล้วคุณเองจะแปลกใจ แถมยังจะรู้สึกชื่นชมยินดีกับตัวเองที่สามารถสะสมเงินทีละนิดทีละวันจนล้างหนี้ก้อนโตได้ค่ะ มาเริ่ม ออมเงิน กันตั้งแต่วันนี้ เพื่อวันต่อ ๆ ไปที่สดใสของคุณนะคะ