กลับมาสู่ซีรีย์ที่ 2 เกี่ยวกับการวางแผนอนาคตด้านการเงิน จากที่ได้กล่าวไว้ใน ช่วงของซีรีย์ที่ 1 หลักใหญ่ใจความ คือ การวางแผนด้านการเงินด้วยวิธีการลงทุนเพื่อสร้างหลักประกันให้กับตนเองและบุคคลอันเป็นที่รักในครอบครัว พร้อมกับการลงทุนในรูปแบบต่างๆแม้จะไม่เห็นผลภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ในระยะยาวจะเป็นตัวชี้ให้เห็นว่าการออมตั้งแต่วันนี้และการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างชาญฉลาดจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณเกษียณอย่างสบายใจ
ในส่วนของซีรีย์ที่ 2 จะเป็นการกล่าวถึงอีก 5 ข้อที่ควรทำก่อนวัยเกษียณ สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกันกับ 5 ข้อที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้าในซีรีย์ที่ 1 ไม่มีข้อใดข้อหนึ่งไม่สำคัญ แต่จะสำคัญมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าข้อไหนคุณสามารถทำได้ดี ถ้าคุณทำได้ครบทั้ง 10 ข้อ ถือเป็นเรื่องที่ดี
6. ซื้อถูกขายแพงไม่แน่เสมอไป
หลายคนลงทุนแล้วหวังผลที่จะได้ผลตอบแทนที่สูง โดยไม่ได้ประเมินปัจจัยจากรอบด้าน เช่น การลงทุนในหุ้น ที่ผู้ลงทุนในหุ้นต้องการซื้อหุ้นในราคาตํ่าแต่คาดหวังที่จะขายในราคาที่สูงแต่ไม่ได้วิเคราะห์หรือขาดความเข้าใจถึงทิศทางของเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น ว่าทิศทางการลงทุนในหุ้นควรลงทุนในกลุ่มไหนมากที่สุด จะเห็นได้ว่าหลายคนมักเลือกซื้อหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงแต่มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นปั่น มีคนเคยกล่าวไว้ว่า นักลงทุนในหุ้นต้องการที่จะชนะตลาด แต่ในความเป็นจริงตลาดมักจะเป็นผู้ชนะนักลงทุน
นอกจากการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงและผู้ลงทุนจะต้องมีความเข้าใจตลาดและความชำนาญแล้วยังต้องมีประสบการณ์ด้วย กล้าเสี่ยงและสามารถรับความเสี่ยงได้ด้วย แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยง สามารถที่จะเลือกลงทุนในรูปแบบกองทุนรวมได้ ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากการฝากแบบออมทรัพย์และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย แม้ว่าการลงทุนในกองทุนรวมจะได้ผลไม่เท่ากับการลงทุนในหุ้น แต่ความเสี่ยงถือว่าอยู่ในระดับที่ตํ่า ซึ่งผู้เขียนได้เขียนเกี่ยวกับกองทุนรวมไว้แล้ว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ >> ที่นี่
7. เตรียมเงินไว้เมื่อเกษียณ
ความเข้าใจผิดของคนวัยทำงาน คือ คิดว่าตัวเองยังหนุ่มยังสาวไม่ได้มีการวางแผนการเงินไว้เมื่อตัวเองเกษียณ แต่วางอนาคตไว้ว่าจะเริ่มเก็บเงินเมื่อถึงวัย 50 ปี ซึ่งอาจจะช้าไปแล้ว ควรที่จะเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันนี้ คุณจะต้องรู้ไว้เสมอว่าเมื่อคุณเกษียณ คุณจะไม่มีรายได้เหมือนในช่วงเวลาที่คุณมีงานทำ การสำรองเงินไว้ใช้จ่ายในวัยเกษียณจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ถ้าสงสัยให้กลับไปอ่านตั้งแต่ข้อ 1 ใหม่อีกครั้ง
8. ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินที่มี
การตรวจสอบทรัพย์สินที่คุณมี ไม่ว่าจะเป็น บัญชี บ้าน ที่ดิน ของสะสม รถยนต์ เพชร หนี้สิน กรมธรรม์ประกัน และอื่นๆ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เนื่องจากหลายคนมักจะลืมว่าตนเองมีทรัพย์สินอะไรบ้าง และที่มักจะลืมมากที่สุด คือ หมายเลขบัญชีของตนเอง และแต่ละบัญชีอยู่ที่ไหนล้าง เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน จะทำให้คุณรู้ว่าคุณมีทรัพย์สินและเงินเก็บอยู่ที่ไหนบ้าง ให้คุณทำการจดบันทึกแล้วเก็บไว้ในที่ที่สามารถหยิบได้ง่ายและสะดวกต่อบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้
9. เขียนพินัยกรรม
อาจจะเป็นการกล่าวแบบล่วงหน้าเกินไป แต่อย่างที่กล่าวยํ้าเสมอในบทความนี้เกี่ยวกับอนาคตที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือวันหนึ่งอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เศร้าใจ การจัดเตรียมเขียนพินัยกรรมไว้ถือเป็นการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกินคาดคิด รวมถึงเป็นการส่งผ่านความมั่นคงให้กับคนที่อยู่ข้างหลังคุณ
10. ส่งต่อให้ผู้อื่น
นอกจากการเก็บเงินไว้สำหรับตัวเองและคนในครอบครัวแล้ว การส่งต่อความรักให้กับผู้อื่นที่ด้อยโอกาสในรูปแบบเงินก็เป็นเรื่องที่ดีอีกประการ ยังมีคนอีกมากมายที่ขาดโอกาส เพียงเงินน้อยนิดก็จะช่วยต่อเติมความฝันและโอกาสให้กับพวกเค้าได้ ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่เชื่อในพระเจ้า และพระเจ้าก็ปรารถนาที่อยากจะมอบสิ่งดีๆให้กับทุกๆคนที่พระองค์ทรงรัก นั้นคือมนุษย์ทุกคน
บทสรุปจาก 10 ข้อ ที่ดีที่สุดคงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า การเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันนี้เป็นเรื่องที่ดีที่สุด วางแผนการเงิน สำรวจรายได้รายจ่ายของคุณและนำเงินบางส่วนไปลงทุนกับสิ่งที่สามารถสร้างผลตบอแทนและหลักประกันให้กับคุณในอนาคต อย่างผลัดวันประกันพรุ่ง เพราะพรุ่งนี้อาจจะไม่มาถึงสำหรับคุณ ผู้เขียนอยากจะของทิ้งท้ายด้วยคำกล่าวที่ว่า
“อย่าหวังรวยวันนี้หากคุณไม่ได้เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวาน”