การศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยและการได้อ่านเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านตัวอักษรและตำราวิชาการต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ดี เพราะเหมือนกับคุณ ๆ ได้เปิดหน้าต่างจากในห้องนอนของคุณสู่โลกอีกด้านหนึ่งเพียงแค่พลิกหน้ากระดาษ คนที่ประสบความสำเร็จมากมายก็มักจะชอบอ่านหนังสือและวิเคราะห์เรื่องราว เช่นเดียวกับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ที่ติดอันดับมหาเศรษฐีของโลก แม้ปัจจุบันเขาจะร่ำรวยมากขนาดที่เงินใช้ไม่หมดแน่ ๆ เขาก็ยังคงศึกษาข้อมูลทางธุรกิจที่เขาสนใจก่อนทุกครั้ง เพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ อย่างที่คำสอนโบราณว่าไว้ว่า ให้เราทำตัวเป็นผู้ที่แสวงหาความรู้เหมือนกับแก้วที่ไม่มีน้ำ ยังพร้อมที่จะให้เติมน้ำลงไปได้ตลอดเวลาค่ะ
แต่โอกาสทางการศึกษาก็ใช่จะเป็นตัววัดความสำเร็จของคน ๆ หนึ่งเสมอไปค่ะ ตัวอย่างที่คุณ ๆ สามารถดูไว้เป็นแบบอย่าง ไม่มีปริญญา ก้ใช้ความพากเพียรจนสร้างฐานะการเงินได้อย่างมั่นคงระดับมหาเศรษฐีของโลก หรือไม่ก็มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากวงสังคมอย่างมาก
เริ่มจาก Richard Branson ผู้ก่อตั้งแบรนด์ดังอย่าง Virgin ซึ่งมีแฟน ๆ ติดตามอยู่ทั่วโลก ถ้าเราพิจารณาจากบุคลิกภายนอกของเขาก็อาจจะเห็นความแตกต่างไปจากนักธุรกิจชั้นนำทั่วไปที่มักจะไว้ผมสั้น, หวีผมเรียบ, ไม่ไว้หนวดเคราและ แต่งกายเนี๊ยบ ๆ ตลอดเวลา แต่คุณไม่มีทางเห็นรูปลักษณ์แบบนี้จาก Branson แน่ ๆ ค่ะ อะไรที่อยู่ในกรอบ เขาเป็นต้องขอฉีกแนวตลอด ๆ ค่ะ Branson เลิกเรียนหนังสือตั้งแต่อายุ 16 ปีแล้วหันมาเอาดีทางงานนิตยสารสำหรับนักเรียนและยึดเป็นธุรกิจ จากนั้นก็ค่อย ๆ ขยายฐานของกิจการไปยังธุรกิจด้านอื่น ๆ มากมายหลายอย่างไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจอย่างสายการบินค่ะ ความสำเร็จของ Branson นั้นชัดเจนว่าไม่ได้มาจากใบปริญญาที่สถาบันดัง ๆ มอบให้ แต่เป็นความสำเร็จที่เกิดจากการลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองรักและสนใจ จนกลายเป็นรากฐานของความสำเร็จขั้นต่อ ๆ ไปค่ะ
ส่วน Coco Chanel เจ้าของแบรนด์แฟชั่นของบรรดาเซเลปทั่วโลก อย่าง Chanel นั้น เธอไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่มีพร้อมแต่เป็นกำพร้า แต่นั่นไม่ได้ฉุดรั้งเธอจากความตั้งใจจริงเลยแม้แต่น้อยค่ะ Chanel เริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็นช่างเย็บผ้า ซึ่งในเวลานั้น ผู้หญิงก็ต้องตัดแต่ชุดของผู้หญิงเท่านั้น แต่เธอผู้นี้สลัดความคิดเดิม ๆ พลิกกรอบเก่า ๆ ออกด้วยการเริ่มออกแบบเสื้อผ้าให้ผู้ชาย ที่มาพร้อมกับมุมมองใหม่ ๆ ของไอเดียการออกแบบอย่างสร้างสรรรวมกับเนื้อผ้าด้วยแล้ว ทำให้ผลงานเสื้อผ้าของเธอฉายแววขึ้นมาอย่างชัดเจน และถ้าถามถึงผลงานสร้างชื่อ Chanel จนโด่งดังไปทั่วโลกนั้นก็คงต้องยกให้น้ำหอม Chanel No. 5 เท่านั้นค่ะ ปรบมือรัว ๆ ให้กับคนที่เลือกทำในสิ่งที่รักจนมันนำพาเธอสู่ความสำเร็จที่ใครก็หาตัวจับยากค่ะ
มาต่อกันที่ Michal Dell ผู้ที่สร้างแบรนด์เครื่องคอมพิวเตอร์ Dell นั่นเองค่ะ จนถึงทุกวันนี้หากเรานึกถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับการบริการเก๋ ๆ ส่งตรงถึงบ้าน ก็คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์คอมพิวเตอร์ชื่อเรียกง่าย ๆ ว่า Dell แต่จะมีสักกี่คนกันที่รู้ว่าผู้ก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ชื่อดังนี้ จริง ๆ แล้วเขาตัดสินใจเลิกเรียนตั้งแต่อายุ 19 ปี ไม่ได้มีปริญญาสักใบ และเลือกที่จะเดินหน้าจับธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ทันที โดยในช่วงแรก ๆ นั้นเขาใช้ชื่อบริษัทว่า PC’s Limited จากนั้นก็ค่อยเปลี่ยนมาเป็น Dell ทีหลังค่ะ การที่เขาตัดสินใจไม่เรียนต่อแต่มุ่งไปที่เป้าของตนเองอย่างชัดเจน และจดจ่อกับสิ่งนั้นจนกว่าจะสำเร็จ คืออีกหนึ่งวิธีคิดของผู้ที่ต้องการจะประสบความสำเร็จนะคะ
หรือแม้แต่ Henry Ford ผู้สร้างแบรนด์ Ford Motor ค่ายรถยนต์ที่มีคนชื่นชอบและเป็นที่ต้องการของผู้คนทั่วโลก ตัวเขาเองนั้นก็ไม่ได้มีปริญญาอะไรสักใบ เพราะเขาออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 16 ปีเพื่อมาเป็นช่างยนต์ ซึ่งก็คืองานที่เขาชอบและสนใจเป็นพิเศษ จากความรักในสิ่งที่ได้ทำทุกวัน ทำให้รู้และเข้าใจเรื่องการทำงานและการผลิตรถยนต์ จนในที่สุดก็เกิดเป็นแบรนด์รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด ของบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ และเจ้ารถรุ่นแรกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงก็คือ Ford Moel T ที่ทำรายได้ให้กับบริษัท และเพิ่มผลกำไรได้อย่างมากจนทำให้บริษัทสามารถขยายกิจการและเริ่มทำการวางสายพานในขบวนการผลิตรถยนต์ด้วยค่ะ ไม่ธรรมดาเลยนะคะ
ถ้าเราจะอิงความสำเร็จของคนดัง คนรวยระดับเศรษฐีเหล่านี้ เราก็อาจจะพูดได้ว่าใบปริญญาไม่ใช่สิ่งการันตีหรือเครื่องยืนยันเสมอไปว่า คน ๆ นั้นจะประสบความสำเร็จหรือสามารถสร้างเงินสร้างฐานะได้มากกว่าคนที่ไม่มีปริญญาค่ะ แต่ก็อย่าได้หมายความรวมรวบไปว่า ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องเรียนหนังสือกันแล้วสิ เพราะไม่มีปริญญาก็เป็นเถ้าแก่ได้นี่นา
จริง ๆ แล้ว สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้คำว่าปริญญานั้นก็คือทัศนคติและแนวคิดของพวกเขาค่ะ สังเกตได้ชัดว่า ทั้ง Branson, Dell และ Ford เลือกที่จะเดินหน้าสู่สิ่งที่เขารักทันทีที่เขารู้ แล้วก็โฟกัสตัวเองให้ตั้งใจอยู่กับสิ่งตรงหน้าเพียงอย่างเดียว จนกว่าจะสำเร็จ ส่วน Chanel นั้น นอกจากเธอจะรักในสิ่งที่เธอทำแล้ว เธอยังกล้าหาญมากพอที่จะเปลี่ยนกฎเกณฑ์เป็นโอกาสให้กับตัวเองอีกด้วยค่ะ
แล้วคุณหล่ะคะ สนใจในเรื่องอะไรเป็นพิเศษอยู่ค่ะ ลองหันมาจับสิ่งนั้นให้มั่นเผื่อว่าจะสร้างรายได้ให้คุณได้มากกว่าที่คิดนะคะ