ออมเงินเกษียณ เริ่มเมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่าไม่สาย เป็นคำถามที่ง่ายแต่จะหาคำตอบในแต่ละมุมมองนั้นอาจจะดูเป็นการยากเกินไป บางคนอายุจะ 30 แล้วแต่ยังตั้งตัวไม่ได้ก็มีถมเถไป จริงๆแล้ว หากตัวเราเองมีวินัยและรักษาหน้าที่ ที่เป็นพื้นฐานด้วยการหารายได้ทั้งจากอาชีพประจำหรืออาชีพเสริม เพื่อให้มาซึ่งเงินเก็บหรือเงินออม แต่หลายคนรู้ดีว่าการวางแผนเกษียณก่อนอายุ 60 ปี สำหรับมนุษย์เงินเดือนนั้น การออมเงินเกษียณ ย่อมเป็นสิ่งที่ดี แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีอีกหลายคน ที่ยังไม่เริ่มต้นสักที
นพ.คณิน ไตรพิพิธสิริวัฒน์ วัย 38 ปี ทำงานในสายอาชีพนายแพทย์ร่วม 16 ปี ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการ Holistic Medical Center ได้เล่าให้ฟังก่อนที่จะให้ความสำคัญเริ่มต้นวางแผนออมเงิน สำหรับใช้หลังเกษียณอายุ 60 ปี ว่า
จุดเริ่มต้นของการใช้เงินที่ไม่รู้จักวางแผน
ครอบครัวตัวเองไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง พ่อแม่ยังต้องทำงานหนัก แต่โชคดีที่เป็นคนเรียนเก่ง สามารถสอบเรียนแพทย์ได้ แต่ยังต้องหยิบยืมเงินญาติพี่น้องและมหาวิทยาลัยเพื่อใช้เป็นทุนการศึกษา และหลังจากจบมหาวิทยาลัย ด้วยหน้าที่การงานที่ดี ทำให้บริษัทบัตรเครดิตวิ่งเข้าหา แม้ว่าจะยังมีเงินเดือนเริ่มต้นเพียงหมื่นกว่าบาท แต่ด้วยความที่สมัครง่ายจึงมีบัตรเครดิตมากกว่า 5 ใบ เขาใช้บัตรแทนเงินสดเพื่อซื้อสิ่งของที่ปรารถนาในวัยเด็กที่ขาดหายไป ไม่ว่าจะเป็น ทีวี เกมส์ ท่องเที่ยวเรียกได้ว่าใช้เงินเต็มวงเงินทุกใบ ด้วยพฤติกรรมที่เลือกชำระหนี้ขั้นต่ำ ทำให้ดอกเบี้ยทบต้นและทบดอก จนทำให้กลายเป็นหนี้สินหลายแสนบาท ทำให้ช่วงนั้นต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินจ่ายหนี้ ทั้งกลางวันและกลางคืนจน แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งเป็นอยู่อย่างนี้ 2-3 ปี กระทั่งได้รับความช่วยเหลือจากคนที่รู้จักให้นำเงินไปปลดหนี้
บทเรียนราคาแพง
เป็นบทเรียนและย้ำเตือนให้เขาคิดว่าจะไม่เข้าไปอยู่ในวังวนแบบเดิมอีก แม้จะไม่มีหนี้บัตรเครดิตมารุมเร้า แต่เขาก็ยังคงสร้างหนี้ขึ้นมาใหม่ คือ ซื้อบ้าน 2 หลัง และคอนโดมิเนียม ทำให้กลายเป็นคนมีหนี้สินร่วม 12 ล้านบาท เพราะต้องการสร้างครอบครัว แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นการสร้างหนี้สินก้อนโตทำให้รายได้ที่มีค่อนข้างตึงตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไป รายได้ต่อเดือนเริ่มมากขึ้น เขาเองก็ไม่สามารถปลดหนี้ได้มากนัก ประกอบกับภรรยาเริ่มตั้งครรภ์ จึงทำให้เริ่มหาหนังสือวางแผนการเงินมาอ่าน และทดลองทำบันทึกรายรับ รายจ่าย แต่ไม่นานก็เลิกทำ ซึ่งจุดอ่อนการเงินของเขาที่ทำให้ตัดสินใจไม่ได้ คือระหว่างจ่ายหนี้ หรือเก็บเงินไว้สำหรับ แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวไลฟ์สไตล์การใช้เงินยังไม่เปลี่ยน ทำให้เงินมีอยู่ในบัญชีเท่าไหร่ จะต้องใช้ให้หมด แถมยังทำให้มีหนี้สินติดตัว
หลักการจูงใจในการออมเงินเกษียณ
รายได้ตัวเลข 7 หลักต่อปี แต่ก็มีหนี้สิน 7 หลักต่อปีเช่นกัน ซึ่งตอนนั้นเขาก็เหมือนคนไข้ที่ต้องการนักวางแผนการเงิน ช่วยแนะนำการวางแผนการเงินเช่นกัน หลังจากเริ่มมองหาที่ปรึกษาด้วยการค้นหาข้อมูล ออมเงินเกษียณ อย่างจริงจัง จึงพบว่ามีสมาคมนักวางแผนการเงินไทย และมีนักวางแผนการเงินให้คำปรึกษา อย่าง คุณณัฐพงษ์ อภินันท์กูล,CFP นักวางแผนการเงินอิสระ โดยเขาเข้าไปขอคำแนะนำเกี่ยวกับการชำระหนี้บ้านให้หมดเร็วที่สุด และเขาต้องเขียนรายละเอียด รายได้ ค่าใช้จ่ายทรัพย์สิน และหนี้สิน สิ่งสำคัญ คือ เป้าหมายต้องชัดเจน และยังได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับ เทคนิคการออมเงิน หลังเกษียณ
หลักการออมเงินเพื่อปลดหนี้
หลังจากพูดคุยรายละเอียดของแผน นพ.คณิน ตั้งใจจะออมเงินสำหรับเพื่อเกษียณได้ประมาณ 40 ล้านบาท จากการออมเงินในกองทุนรวม LTF และ RMF ซึ่งข้อดีของการซื้อกองทุน LTF และ RMF คือทำให้ได้รับการยกเว้นภาษี โดยเฉพาะกองทุนรวม RMF ที่ตอนแรกเขาคิดว่าช่างไกลเหลือเกิน เมื่อเทียบกับอายุที่ยังไม่มาก เพราะว่าจะขายกองทุนคืนได้ต้องอายุ 55 ปี แต่ภายหลังได้เห็นถึงประโยชน์ของการฝากออมในรูปแบบดังกล่าวสำหรับอนาคตทำให้ตัดสินใจได้ทันที และนักวางแผนการเงิน ได้วางแผนให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ซึ่งไม่ได้ลดค่าใช้จ่ายอะไร และให้ทดลองทำตามแผนไปก่อน 3 เดือน และมีการทบทวนแผนว่าทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่ นพ.คณิน ต้องทำคือการผ่อนบ้านเพิ่มเพื่อปลดหนี้ภายใน 7 ปี เก็บเงินสดไว้ในบัญชีแบงก์ที่ถอนยากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงบันทึกค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ เช่น ค่าประกันชีวิต หรือค่าซ่อมบ้าน
นอกจากนี้ เขายังวางแผนออมเงินให้กับลูก โดยแบ่งเงินซื้อกองทุนรวมทุกๆเ ดือนในรูปแบบ Dollar Cost Average(DCA) เมื่อลูกอายุ 18 ปี จะมีเงินประมาณ 5 ล้านบาท สำหรับช่วยเหลือด้านการศึกษาบางส่วนเรียกว่าได้ประโยชน์ 2 ต่อทั้งลดภาษีและออมเงินให้ลูก ซึ่งนพ.คณิน กล่าวว่าแม้อาชีพแพทย์จะดูมีฐานะมั่นคงในสายตาของคนภายนอก แต่ความจริงรายได้ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน เมื่อผ่านวิกฤตการเงินมาหลายรอบ นพ.คณิน รู้ดีว่าการใช้ชีวิตพอเพียงเป็นสิ่งน่าปรารถนาที่สุด เพราะการดิ้นรนหาสิ่งของให้ได้ตามความต้องการนั้น อาจไม่สามารถเติมเต็มได้ดีที่สุด เพราะคนเรายังต้องการสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาตลอดเวลาและไม่รู้จักจบสิ้น ยิ่งทำงานเหนื่อยมากขึ้น และเชื่อว่าการออมเงินเพื่อวางแผนก่อนเกษียณจะทำให้ชีวิตได้รับความสุขอย่างแท้จริง