“ขอให้รวย ขอให้รวย ขอให้รวยยิ่ง ๆ กว่านี้” เป็นหนึ่งในคำอวยพรยอดฮิตที่คุณ ๆ มักจะเลือกอวยพรให้แก่เพื่อนและญาติสนิทกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการอวยพรเนื่องในวันเกิด หรือ การอวยพรในเทศกาลโอกาสพิเศษ ๆ นั่นก็เป็นเพราะว่าเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มักเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็อยากได้, อยากมี และอยากให้สมหวังสมใจกันทั้งนั้นค่ะ แต่ถ้าการที่คน ๆ หนึ่งได้รับคำอวยพร หรือ เฝ้าขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธ์กันเพียงอย่างเดียวก็คงทำให้ใครคนนั้นรวยขึ้นไม่ได้หรอกนะคะ เพราะกติกาง่าย ๆ ของความสำเร็จนั้น ทุกคนต้องเริ่มต้นด้วยการลงมือทำด้วยกันทั้งสิ้นค่ะ
สำหรับ Elizabeth Holmes มหาเศรษฐีหญิงระดับโลกคนล่าสุดที่พ่วงตำแหน่งอายุน้อยที่สุดไปด้วยนั้น แม้ว่าปัจจุบันนี้ โฮมส์ เธอเพิ่งจะมีอายุแค่ 31 ปีเท่านั้นแต่เธอก็สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้อย่างมากมายถึง 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับ 1.5 แสนล้านบาท จนทำให้เธอขึ้นแท่นเศรษฐีของ Forbes ในลำดับที่ 110 เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมานี้ค่ะ ความสำเร็จครั้งนี้มาจากก้าวแรกของธุรกิจน้องใหม่ที่น่าจับตาอย่างบริษัท Theranos ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลงานเกี่ยวกับไบโอเทคโนโลยี บริษัทนี้เพิ่งจะก่อตั้งขึ้นในปี 2003 และในเวลานั้น Holmes ยังอายุไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ
ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือขณะนั้นเธอกำลังศึกษาปริญญาตรีปี 1 ภาควิชาวิศวกรรมเคมี แล้วเธอก็ได้คิดค้นเรื่องแผ่นสื่อยาแบบ Advance หรือ Drug-delivery patch ขึ้นมาได้ซะก่อนค่ะ จากนั้นเธอก็เลยนำไอเดียผลงานชิ้นนี้ไปจดขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรก่อนเป็นอย่างแรก แล้วก็มองเห็นโอกาสทางธุรกิจตรงหน้า เธอจึงตัดสินใจเลือกที่จะไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยค่ะ และเลือกที่จะหันหน้ามาลุยงานบริษัทของตัวเองอย่างเต็มที่ทันทีค่ะ ซึ่งผลงานที่สร้างชื่อให้กับโฮมส์ และ บริษัท Theranos เป็นอย่างมาก ก็คือ การคิดค้นเรื่องการตรวจวิเคราะห์อาการบ่งชี้ของโรคร้ายต่าง ๆ จากเลือดของคนเราเพียง 1 – 2 หยดจากปลายนิ้วของเราเท่านั้นเองค่ะ
ลองคิดตามดูสิคะ ปัจจุบันนี้เวลาที่คุณ ๆ ต้องไปพบหมอเพื่อตรวจสุขภาพประจำปี หรือ ตรวจวินิจฉัยโรคและอาการเจ็บป่วยนั้น เราต้องนั่งหลับตา หรือไม่ก็มองไปทางอื่นเพื่อรอให้นางพยาบาลเจาะเลือดเราออกไปเป็นหลอด ๆ แล้วนำไปตรวจหาปริมาณคลอเรสเตอรอล, มะเร็ง, เบาหวาน และ ความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ แต่ต่อไปนี้ วิทยาการทางการแพทย์จะเปลี่ยนไปเพราะคุณหมอจะสามารถวินิจฉัยอาการป่วย หรือ สภาพสุขภาพของคุณ ๆ ได้จากหยดเลือดเพียงไม่กี่หยดเท่านั้นค่ะ และที่คุณ ๆ น่าจะอมยิ้มตามไปด้วยก็คือ แรงบันดาลใจของการค้นคว้าวิทยาการสุดล้ำนี้มาจากการที่ทั้งโฮมส์, คุณแม่และคุณยาย ต่างก็กลัวเข็มกันทั้งบ้าน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ถ้าคุณ ๆ จะถูกเจาะเลือดและต้องทนอยู่ใกล้ ๆ เข็มแค่เพียงไม่กี่วินาทีก็พอแล้ว จริงมั๊ยค่ะ
เคล็ดลับความสำเร็จของโฮมส์นั้น นอกจากจะมาจากมันสมองอันชาญฉลาดของตัวเธอและความสามารถในการใช้ความกลัวในใจของตนเองมาเปลี่ยนเป็นช่องทางธุรกิจแล้ว อีกส่วนหนึ่งก็คือ ทักษะการเป็นนักพูดที่สามารถโน้มน้าวใจคนได้มากที่สุดคนหนึ่ง
ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอตัดสินใจไม่เรียนต่อและเจรจาขอเงินส่วนที่ต้องใช้จ่ายเป็นค่าเรียนในมหาวิทยาลัยมาเป็นทุนการทำกิจการของตัวเองจากพ่อแม่ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ หรือ จะเป็นช่วงที่เธอสามารถชักชวนอาจารย์ของเธอที่สแตมฟอร์ดให้มาร่วมงานกับเธอในตำแหน่งกรรมการฝ่ายบริหาร ซึ่งการมาร่วมงานของคน ๆ นี้ทำให้โฮมส์สามารถเรียกระดมทุนจากนักลงทุนได้เป็นอย่างมากและเธอยังได้มีโอกาสร่วมงานกับคนที่มีความสามารถอีกหลาย ๆ คนเลยทีเดียวค่ะ จากข้อมูลของสำนักข่าว CBS รายงานว่าในช่วง 11 ปีที่ผ่านมานั้น โฮมส์ ได้ทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับ Theranos จนอาจจะพูดได้เต็มปากเลยว่า เธอใช้เวลาทุกชั่วโมงในแต่ละวันหมดไปกับการทำงานที่นี่ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลตามที่เธอตั้งเป้าเอาไว้ นับเป็นจุดเด่นที่ชัดเจนมาก ๆ
สำหรับบรรดามหาเศรษฐีหลาย ๆ ท่านที่เคยฝากข้อคิดกันเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น Warren Buffet บิดาด้านการลงทุนทางการเงิน, Donald Trump ตัวพ่อแห่งวงอสังหาริมทรัพย์, Yanai เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าดังอย่าง Uniqlo และ ลี กา ซิง เจ้าพ่อจากเกาะฮ่องกง ทำให้อดคิดต่อไม่ได้ว่า Holmes มีส่วนผสมต่าง ๆ ที่คล้าย ๆ กับ มหาเศรษฐีในตำนานอย่างสตีฟ จ๊อบ และ มหาเศรษฐีหนุ่มน้อยเจ้าของ Facebook มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่ให้นิยามการแต่งตัวให้เรียบง่ายที่สุด เพราะเขาทั้งคู่อยากใช้เวลาในการคิดเรื่องอื่นมากกว่าจะมามัวคิดว่าจะใส่ชุดไหนดี ซึ่งก็ตรงกับคอนเซ็ปเสื้อผ้าและการแต่งกายของโฮมส์ เพราะเธอมักจะปรากฏตัวในชุดกึ่งยูนิฟอร์มคือเสื้อคอเต่าสีดำสวมทับด้วยสูทสีดำด้านนอกทุก ๆ วัน ค่ะ เรียบง่าย ดูดี ใส่ได้ทุกโอกาสจริง ๆ ไม่เพียงแค่เรื่องของการแต่งกายเท่านั้น
จากความสำเร็จทางธุรกิจของโฮมส์ น่าจะเป็นไฟกระตุ้นให้เราหันมามองดูตัวเองกันอีกทีว่า วันนี้คุณได้เริ่มต้นธุรกิจในใจของคุณบ้างแล้วหรือยัง ถ้ายัง คุณจะรออะไรอยู่ หรือสำหรับโจทย์คำถามคาใจของใครหลาย ๆ คนที่ว่า อายุยังน้อยจะเริ่มทำธุรกิจดีมั๊ย จับธุรกิจ อะไรดี นี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าอายุไม่เกี่ยวกับความสำเร็จ เราไม่จำเป็นต้องรอให้เรียนจบก่อนค่อยคิดแล้วนะคะ
ที่มารูป : americasmarkets.usatoday.com