ปรัชญาจีนนั้น เป็นสิ่งที่ใช้สอนคนต่างๆให้ประสบความสำเร็จต่างๆมากมายนับไม่ถ้วน ปรัชญาของจีนนี้ มีบริษัทต่างๆจำนวนไม่น้อยที่หยิบขึ้นมาใช้ในการบริหารบริษัทหรือบริหารกิจการเพราะปรัชญาจีนนั้นใช้บริหารสิ่งต่างๆในราชวงศ์จีนหรือการปกครองต่างๆ อีกทั้งเมืองจีนนั้นเป็นแผ่นดินใหญ่คนที่ปกครองได้นั้นย่อมมีความสามารถที่ไม่น้อยเลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่มีผู้บริหารจำนวนไม่น้อยนั้นเลือกใช้ปรัชญาจีนต่างๆเหล่านี้ในการ เรียนรู้ความสำเร็จ และ นำมาบริหารบริษัทของตัวเอง
เมื่อเรารู้อย่างนั้นแล้วเราจึงควรที่จะลองหยิบยกปรัชญาจีนสักบทหนึ่งมาช่วยในการปกครองหรือบริหารบริษัทของเรา และปรัชญาจีนเรื่องของการเถียงนั้น
เราทุกคนนั้นล้วนรู้ดีว่าการเถียงนั้นย่อมคล้ายๆกับการทะเลาะกัน คล้ายๆกับการที่คนสองคนที่ความเห็นไม่ตรงกันมาคุยกันและการเถียงย่อมทำให้เกิดความบาดหมาง เมื่อมีการชนะเกิดขึ้นนั่นหมายถึงย่อมมีอีกอย่างหนึ่งที่เป็นฝ่ายแพ้ และเมื่อมีการแพ้ชนะเกิดขึ้นก็นับได้ว่าเป็นการแข่งขัน
คนจีนรู้ถึงข้อนี้ดีว่าอาจจะเกิดความบาดหมางกันและไม่ชอบหน้ากันเมื่อมีการแพ้ชนะเกิดขึ้น ทำให้คนจีนนั้นสร้างปรัชญาการเถียงขึ้นมาและก็เป็นปรัชญาที่ดีในการช่วยบริหารให้คนต่างๆรู้จักการถ่อมตนไม่ให้โอ้อวดมาเกินไป และเราสามารถใช้ปรัชญาจีนเรื่องการเถียงมาใช้กับบริษัทเราได้ ดังนี้คือ
-
เมื่อเราเถียงชนะลูกค้า ลูกค้าก็จะน้อยลง
นับเป็นพื้นฐานของการค้าขายเลยก็ว่าได้เกี่ยวกับลูกค้า บริษัทเกือบทุกบริษัทหรืออาจจะเป็นทุกบริษัทเลยก็ว่าได้ที่สอนให้เรานั้นยกระดับให้ลูกค้านั้นคือคนที่สำคัญที่สุดและต้องง้อลูกค้า เมื่อใดก็ตามที่มีการเถียงเกิดขึ้นนั้น ถ้าเรานั้นไม่ยอมแพ้ลูกค้าและเลือกที่จะเถียงชนะลูกค้านั้น รับรองได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือเราจะมีลูกค้าลดน้อยลงหนึ่งคนและอาจจะลดโอกาสที่ลูกค้าจะเพิ่มขึ้น แต่นางกลับกันถ้าเรานั้นอ่อนน้อมต่อลูกค้าเลือกที่จะไม่เถียงลูกค้าพร้อมกับแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด นั้นอาจจะทำให้ลูกค้านั้นเกิดความพึงพอใจและยังคงอุดหนุนเราเหมือนเดิม
-
เมื่อเราเถียงชนะเพื่อนร่วมงาน ความสามัคคีก็จะหดหายลง
เรารู้ดีกันว่าการที่เถียงกันนั้นเกิดจากความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกัน หรือมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่ลงรอยกัน ถึงแม้ว่าใครหลายๆคนนั้นบอกว่า เมื่อใดที่มีการเถียงกันแล้วและได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้วนั้นก็ยังคงเป็นเพื่อนร่วมงานและยังคงต้องทำงานด้วยกันตามปกติ แต่ในเรื่องของความรู้สึกลึกๆแล้วนั้นความสามัคคีจะค่อยๆลดน้อยลงและสุดท้ายงานที่ต้องแบ่งกันทำเป็นส่วนๆนั้นอาจจะได้ไม่ดีพอ เราทุกคนนั้นน่าจะเคยผ่านความรู้สึกแบบนี้กับเพื่อนในวัยมัธยมในสมัยเด็กมา เราทุกคนล้วนรู้ดีว่าเมื่อเราเถียงเพื่อนของเราแล้วนั้น จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่มีคนแพ้คนชนะกัน ดังนั้นเราทุกคนถ้าเป็นไปได้ก็จะไม่อยากให้เกิดการเถียงแน่นอน
-
เมื่อเราเถียงชนะเจ้านายของเรา ความก้าวหน้าในการงานก็จะช้าลง
เราทุกคนย่อมรู้กันดีว่าการเถียงนั้นก็คล้ายกับการทะเลาะกัน และเมื่อใดก็ตามที่เราเถียงเจ้านายของเราชนะแล้วนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับลูกน้องก็จะลดน้อยลง เจ้านายนั้นอาจจะรู้สึกเสียหน้าไม่น้อยและเสียความรู้สึกที่ดีๆต่อกันพร้อมกับอาจจะเกิดความอยากแก้แค้นและพร้อมที่จะแกล้งเราได้ทุกเมื่อ ทำให้รู้ว่าเมื่อใดก็ตามที่เจ้านายนั้นเกิดความบาดหมางกับเราแล้วเราก็จะก้าวหน้าในหน้าที่การงานต่างๆได้ช้าลง สิ่งต่างๆที่ควรจะเป็นของเรานั้นเจ้านายอาจจะเลือกให้คนอื่นหรือสิ่งดีๆที่เราควรจะได้เราอาจจะไม่ได้ ดังนั้นเราควรจะถ่อมตนกับเจ้านายของเรา
-
เมื่อเราเถียงญาติชนะ ความเป็นพี่น้องก็จะยิ่งเบาบางลง
ญาติๆนั้นนับเป็นสิ่งหนึ่งที่เราจะนึกถึงเป็นอันดับตันๆเมื่อเราต้องการความช่วยเหลือเมื่อเราเดือดร้อน และเมื่อใดก็ตามที่เรานั้นเกิดความบาหมายซึ่งกันและกันหรือความเป็นญาติกันนั้นลดน้อยลงจากการเถียง ก็นับได้ว่าเป็นปัญหาที่ไม่น้อยเลยทีเดียวถึงแม้ว่าเรานั้นจะมีคนที่พร้อมช่วยเราต่างๆได้อย่างมากมายแต่ในบรรดาคนเหล่านั้น ย่อมมีน้อยคนนักที่จะช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ที่เหมือนกับพี่น้องทำให้เราอย่างแน่นอน พี่น้องนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ คนจีนมักให้ความสำคัญกับญาติพี่น้องหรือคนในครอบครัว
เมื่อมีการเถียงหรือการทะเลาะกันเกิดขึ้นนั้น มักทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนลดลงอย่างเห็นได้ชัด และความสัมพันธ์ของคนที่ชนะต่อคนแพ้นั้น คนจะยังคงรู้สึกมีความสัมพันธ์เหมือนเดิมกับคนแพ้ แต่คนแพ้นั้นจะรู้สึกว่ามีความสัมพันธ์กับคนชนะแย่ลง ถ้าเราลองสังเกตนั้นเมื่อใดก็ตามที่เราเถียงชนะเพื่อนนั้น เราอาจจะรู้สึกดีและรู้สึกเก่งและเพื่อนของเรานั้นอาจจะรู้สึกเสียหน้าและรู้สึกแย่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันแน่นอนคือความรู้สึกระหว่างกันและกัน คนที่แพ้นั้นจะรู้สึกไม่อยากคุยกับเรา การเถียงกันนั้นก็เหมือนการทะเลาะกัน ดังนั้น เมื่อเราจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่งนั้นทางที่ดีเราควรจะหลีกเลี่ยงกันเถียง