มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีเงินจำนวนหนึ่งอยู่ในธนาคาร โดยหวังว่าการฝากเงินกับธนาคารนั้นไม่เพียงแต่จะฝากเพื่อที่จะให้ธนาคารดูแลเก็บเงินแทนเราแล้วนั้น แต่อาจจะหวังสิ่งอื่นๆเช่นดอกเบี้ยหรือเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน อาจจะฝึกวินัยการออมต่างๆ ผู้คนต่างๆที่ฝากเงินไว้กับธนาคารเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเหล่านั้นต้องการใช้เงิน พวกเขาต้องเดินเข้าธนาคารเพื่อที่จะนำเงินที่อยู่ในนั้นออกมาใช้อาจจะสร้างความลำบากไม่น้อยและบางครั้งการที่เราอยากถอนเงินจำนวนน้อยนั้น เราอาจจะเกรงใจพนักงานจึงไม่กล้าถอน จึงทำให้เกิดบริการบัตร ATM ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆให้กับคนทั่วไปโดยต้องแลกกับค่าธรรมเนียมรายปี
เมื่อใดก็ตามที่คนทั่วไปนั้นต้องการนำเงินในธนาคารออกมาใช้นั้น ก็สามารถที่จะใช้บัตร ATM ในการถอนเงินหรือสามารถใช้บัตร ATM นั้นทำธุรกรรมการเงินต่างๆ นับได้ว่ามีความสะดวกสบายไม่น้อยและที่สำคัญนั้นในทุกวันนี้เป็นยุคของโลกออนไลน์ ผู้คนต่างๆหันมานิยมให้ความสำคัญกับการทำธุรกรรมการเงินต่างๆกันมากขึ้น ทั้งการซื้อของออนไลน์ต่างๆหรือการโอนเงินเพื่อนำไปใช้สิ่งต่างๆ และในทุกวันนี้นั้นกระแสบัตรเครดิตนั้นก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกที่จะทำบัตรเครดิตที่มากมายเพื่อความสะดวกในการใช้เงินหรือใช้ในการซื้อของที่มีราคาสูง อีกทั้งยังมีความสะดวกสบายต่างๆสามารถซื้อของได้ในปริมาณมาก มีโปรโมชั่นต่างๆถ้าเรานั้นเป็นลูกค้าชั้นดีหรือลูกค้าที่ไม่เคยผิดนัดการจ่าย ยิ่งทำให้เป็นความนิยมขึ้นไปอีก
แต่บัตรเครดิตนั้นก็มีข้อเสียต่างๆจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ด้วยความที่ง่ายต่อการใช้งานและขาดความยั้งคิดในเรื่องของการใช้จ่ายนั้น มักจะทำให้เกิดปัญหาตามมาอยู่เสมอ ดังนั้นเราจึงมีข้อดีของ บัตรเดบิต มาบอกกัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการตัดสินใจนะคะ
-
ใช้สามารถใช้เงินได้เท่าที่เรามี
บัตรเครดิตนั้นมักจะจำกัดวงเงินให้เราสูงๆเพื่อที่เรานั้นจะได้สะดวกในการใช้ซื้อของต่างๆมากมายโดยที่ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเงินที่มีอยู่ พอถึงช่วงเวลาสิ้นเดือนแล้วนั้นก็ค่อยจ่ายเงินเข้าบัตรเครดิตเท่านั้นเอง ด้วยความสะดวกและวงเงินที่สูงของบัตรเครดิตนั้นทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตกหลุมพรางของบัตรเครดิตและมักจะใช้บัตรเครดิตนี้ซื้อของต่างๆอย่างฟุ่มเฟือยโดยใช้ความพึงพอใจเป็นหลัก ถึงแม้ว่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่บอกกับตัวเองว่าตัวเองนั้นมีวินัยในการใช้เงิน แต่เมื่อใดก็ตามที่เรานั้นมีอำนาจการใช้เงินอยู่ในมือเหมือนกับที่เรามีเงินจำนวนมากไว้ที่กระเป๋าแล้วเดินผ่านสิ่งของต่างๆที่ยากได้ ทำให้เรารู้ว่ายากแค่ไหนที่เราจะพยายามไม่ใช้เงิน เมื่อใดก็ตามที่เราใช้เงินโดยขาดความยั้งคิดแล้วนั้นปัญหาที่ตามมานั้นก็คือหนี้ต่างๆที่เกิดขึ้น คนต่างๆนั้นมักจะรู้สึกมีหนี้มากกว่าปกติแต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่ที่เราใช้ และถ้าเราเลือกที่จะทำบัตรเดบิตแทนบัตรเครดิตนั้น บัตรเดบิตสามารถทำหน้าที่ได้คล้ายๆกับบัตรเครดิตเพียงแต่มีสิ่งที่แตกต่างกันเล็กน้อยเกี่ยวกับความสามารถในการซื้อ บัตรเครดิตนั้นจะสามารถซื้อของได้ตามวงเงินที่กำหนดมา
แต่บัตรเดบิตนั้นจะสามารถใช้เงินได้ตามจำนวนเงินที่เรามีอยู่ในธนาคารและบัตรเดบิตก็สามารถทำหน้าที่เป็นบัตร ATM ได้อีกด้วย ถ้าเราต้องการซื้อของสักชิ้นที่มีราคาแพงนั้นแต่ในธนาคารเราไม่มีเงินที่มากพอ เราสามารถนำเงินสดที่เรามีนั้นฝากเข้าธนาคารเพื่อที่จะใช้บัตรเดบิตในการซื้อสิ่งนั้นต่างจากบัตรเครดิตที่เราจะสามารถใช้บัตรในการซื้อของก่อนแล้วค่อยหาเงินจ่ายทีหลัง
-
ไม่เกิดหนี้จากการใช้จ่าย
เมื่อเรานั้นรู้ข้อแตกต่างระหว่างบัตรเดบิตกับบัตรเครดิตแล้วนั้น ทำให้เรารู้อีกว่าเรานั้นจะไม่เป็นหนี้จากบัตรเดบิตแน่นอน ในกรณีของบัตรเครดิตนั้นถ้าเราซื้อของต่างๆมามากมายแล้วเราไม่สามารถหาเงินจำนวนที่มากพอในแต่ละเดือนเพื่อมาใช้คืนให้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เรานั้นทำบัตรเครดิต เราก็อาจจะต้องค้างชำระเงินในส่วนนั้นทำให้เกิดการเป็นหนี้บัตรเครดิตขึ้นมา และแน่นอนเมื่อใดที่เราเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วนั้นก็ยากที่จะใช้ยืนเพราะด้วยยอดวงเงินที่สูงที่เราใช้ไปประกอบกับเงินที่เรามีอยู่นั้นไม่เพียงพอ
ส่วนบัตรเดบิตนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะประสบปัญหาต่างๆเหล่านั้น เพียงแต่ถ้าเราใช้บัตรเดบิตในการซื้อสิ่งของต่างๆในจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจะไม่เกินเงินเก็บที่เรามีอยู่นั้นแต่เราก็อาจจะตกใจกับเงินในธนาคารช่วงต้นเดือนได้เหมือนกัน
ดังนั้น ใครก็ตามที่เลือกทำ บัตรเดบิต นั้นหมั่นตรวจยอดเงินในบัญชีบ่อยๆ สิ่งหนึ่งที่สำคัญนั้นคือ บัตรเดบิต มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆเพราะ บัตรเดบิต นั้นสามารถทำสิ่งต่างๆได้เหมือนกับบัตร ATM และบางธนาคารนั้นยกเลือกบัตร ATM และหันมาทำบัตรเดบิตแทน ซึ่งค่าธรรมเนียมรายปีนั้นระหว่างบัตร ATM กับบัตรเดบิตไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ ซึ่งเราควรที่จะศึกษาเรื่องค่าธรรมเนียมของบัตรต่างๆให้ดี