นี่เป็นคำถามจริงๆ ไม่ได้ถามเล่นๆ คุณเชื่อไหมว่ามีคนคิดแบบนี้จริงๆ คือ อยากมีเงินพันล้าน ก่อนอายุ 40 ตั้งเป้าหมายไว้แบบนี้ทีนี้เรามาดูกันว่าเขาทำอย่างไร จัดการกับการหาเงินอย่างไรเพื่อให้ได้เงินจำนวนนี้ ซึ่งจะมาเล่าให้ฟังซึ่งเป็นประสบการณ์จริงจากที่เคยได้พบกับคนที่มีความคิดและเป้าหมายแบบนี้
อย่างแรก คือ เขาทำธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเป็นธุรกิจบริการ เมื่อศึกษางานสักระยะ ก็เริ่มออกมาลงทุนทำเอง แต่ มันไม่ง่ายขนาดนั้นธุรกิจไม่ได้มีกำไรถึงขนาดที่จะมีเงินหมื่นล้านภายในพริบตาเพราะ ความสามารถในการบริหารงานที่ไม่เก่ง ไม่ไว้ใจคนร่วมงาน ทำทุกอย่างด้วยตัวเองโดยที่บางอย่างไม่มีความรู้และความเชี่ยวชาญดีพอทำให้ประสบปัญหาแต่ก็ไม่ถึงกับขาดทุนแต่กำไรจากที่ตั้งเป้าไว้ในปีแรกก็ลดลง เพราต้องเสียค่าดอกเบี้ยเงินกู้ที่นำมาลงทุน กำไรที่เหลือไม่ถึง 10 ล้าน ก็นำมาต่อยอดทำธุรกิจต่อ ซึ่งก็ประสบกับปัญหาเดิมแม้ว่าจะผ่านช่วงแรกมาแล้วก็ตาม ซึ่งกับการลงทุนครั้งที่สองนี้ กำไรได้มาถึง 10 ล้านยังไม่รวมรายได้อื่นๆที่ต่อเดือนก็หลักแสน แต่ก็มีรายจ่ายอื่นๆด้วยเช่นกัน
จากตรงนี้ คุณคงคิดว่าเขาคงทำธุรกิจแบบเดิมต่อใช่ไหม หรือ คิดต่อยอดธุรกิจใหม่ แน่นอนว่าเป็นอย่างหลัง เพราะจากสองครั้งที่ลงทุนลงแรงด้วยตัวเองแม้จะมีผลกำไรแต่มันช้ากว่าที่จะได้กำไรคืนมาและกำไรที่หดหายไปหมดจากระยะเวลาการลงทุนและดอกเบี้ย แต่แน่นอนเมื่อตั้งเป้าไว้ถึงระดับพันล้านมันก็ต้องสู้กันต่อ แน่นอนว่าการต่อยอดทำธุรกิจเพื่อให้ได้กำไรมานั้นก็ต้องหันมาลงทุนในธุรกิจที่คิดว่าทำกำไรได้ดี จัดการบริหารได้ง่ายๆ คืนทุนไวๆ เพื่อให้ได้เงินตามระยะเวลา
แน่นอนว่าการทำธุรกิจมันต้องเสี่ยงต้องลงทุนและต้องมีความชำนาญในบางอย่างบ้างเช่น การบริหารงาน การจัดการ และ บริหารคน ซึ่งอยากจะบอกว่าคนที่พบเจอมาด้วยตัวเองนั้น ไม่ชำนาญสักอย่างที่กล่าวมา มีแนวคิดที่ดี แต่ไม่มีหลักการในการดำเนินธุรกิจ ไม่มีหลักการในการจัดการ และ งานบางอย่างไม่เชี่ยวชาญแต่ก็ไม่จ้างใครไม่ไว้ใจใคร นี่ข้อเสียอย่างแรกที่จะทำให้ไปไม่ถึงเงินพันล้านที่ตั้งเป้าไว้ อย่างที่สองคือการตั้งเป้าหมายที่สูงเกินจริง เพราะคำว่าเงินพันล้านนั้นมันไม่ง่าย และ หากไม่ใช่ธุรกิจที่ใหญ่ต่อทำกำไรเกิน 50 ล้านต่อปีแน่นอนว่าทำไม่ได้และยิ่งไม่ใช่บริษัทที่เป็นมหาชนด้วยแล้วบอกเลยว่าแค่ 100 ล้านก็เหนื่อยแล้ว ที่สำคัญที่จะทำให้ไปไม่ถึงคือ รูปแบบธุรกิจการลงทุนและความน่าเชื่อถือ ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ใช่ระดับที่จะทำให้ใครเชื่อถือได้ง่ายๆ
แต่การที่เขามีเป้าหมายในชีวิตในระดับนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่งที่จะทำให้มีแรงกระตุ้นให้ทำให้ถึงเป้าหมาย เพียงแต่วิธีการและรูปแบบการทำงาน การลงทุน การบริหาร มันไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ถึงเป้าหมาย ปัจจัยอื่นๆมีมากกว่านั้น ที่นำมาเล่าเพื่ออยากให้รู้ว่าการจะทำอะไรอย่าทำใหญ่เกินตัว อย่าวางเป้าหมายที่ไกลเกินความจริง จะทำให้เราสามารถทำตามเป้าหมายได้ง่ายกว่า
และ ประเด็นที่สำคัญอีกอย่างคือ อย่าบอกใครเขาว่าเรามีเป้าหมายขนาดนี้เพราะมันสวนทางกับความเป็นจริงที่เขาเห็นหรือรู้อยู่ เพราะวันไหนที่เราทำได้ไม่ตามที่บอกมันจะกลายเป็นความกดดันกับตัวเองและขายหน้าเสียเปล่าๆ
มีเป้าหมายในชีวิตในแบบของเรา ในแบบที่เราทำได้ เริ่มจากการตั้งเป้าหมายเล็กๆ แล้วทำให้สำเร็จ หลังจากนั้นขยายเป้าหมายให้โตขึ้นอีกนิดขยับๆไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คิดว่าเราพอแล้วเราทำได้แล้ว หรือ เป้าหมายสุดท้ายเราทำได้แล้ว มันจะเป็นความภาคภูมิใจและบทเรียนไว้สอนคนรุ่นหลังได้น่าภูมิใจกว่าที่เล่ามาเยอะเลย