ในทุกวันนี้ พวกเราทุกคนต่างรู้ดีว่า เงินนั้น คือ ทุกอย่างและเงินนั้นก็เป็นอีกหนึ่งความสุขและสามารถอำนวยความสะดวกสบายต่างๆให้กับเราได้อย่างมากมาย
ถ้าเราหิวนั้นเราเพียงใช้เงินที่เรามีอยู่ประกอบกับความพยายามสักเล็กน้อยในการพาตัวเองออกไปซื้อของกินข้างนอกหรือซื้อวัตถุดิบต่างๆมาใช้ทำอาหาร ถ้าเรานั้นต้องการที่นั่งที่นุ่มหรือนั่งแล้วสบายตัว เรานั้นเพียงใช้เงินเพื่อซื้อโซฟาหรือสิ่งอื่นๆที่ทำให้เรานั้นนั่งแล้วรู้สึกสบายตัว หรือถ้าเรานั้นรู้สึกเบื่อๆแล้วต้องการความบันเทิงต่างๆ การเปิดทีวีก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้และในยุคสมัยนี้นั้นราคาทีวีก็ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับกำลังการซื้อต่างๆของคนในยุคนี้
เราจะเห็นได้ว่า เงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว และเมื่อใดก็ตามที่เรามีลูกน้อยของเราเอง ด้วยความที่พ่อแม่ส่วนใหญ่นั้นไม่ค่อยมีเวลาในการเลี้ยงดูลูก ด้วยเหตุผลที่ว่า งานต่างๆนั้นรัดตัวจนไม่มีเวลา ยิ่งถ้าครอบครัวไหนที่เป็นนักธุรกิจทั้งสองคนด้วยแล้วนั้นเวลาก็ยิ่งน้อยมาก การใช้เงินเพื่อหาพี่เลี้ยงดีๆสักคนมาเลี้ยงลูก ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการดูแลลูกของเรา และค่าใช้จ่ายต่างๆนั้นก็ส่งมาในการเลี้ยงดู นับได้ว่าในยุคนี้นั้นมีเด็กจำนวนไม่น้อยที่เติบโตมากับเงินทองที่มีอยู่ หรือยังมีครอบครัวอีกจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงดูลูกน้อยด้วยตัวเอง ถึงอย่างไรก็ตามนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ลูกน้อยของเราโตขึ้นมักจะมีความซนตามวัย เด็กๆเหล่านั้นจำนวนไม่น้อยที่มักจะอยากได้สิ่งของต่างๆมากมายตามที่ว่าตั้งไว้อยู่ นับได้ว่าเป็นโอกาสหนึ่งที่เรานั้นจะสอนลูกของเราเกี่ยวกับวินัยการใช้จ่าย
มีเหล่าพ่อแม่ที่มีฐานะที่ถือว่าดีจำนวนไม่น้อยที่เลือกที่จะซื้อสิ่งของต่างๆมากมายที่ลูกอยากได้ เมื่อลูกตัวเองอยากได้อะไรก็จะรีบซื้อให้เพื่อที่จะตัดปัญหาต่างๆที่รบกวนใจตัวเอง แต่สำหรับบางครอบครัวนั้นก็เลือกที่จะขัดใจลูกเพื่อสร้างวินัย
อย่างไรก็ตามนั้นไม่ว่าเราจะสอนสิ่งใดไป สิ่งนั้นจะกลายเป็นนิสัยของลูกในอนาคตและสิ่งที่เราควรสอนเกี่ยวกับ เรื่องการเงิน คือ
-
การเก็บเงิน
เมื่อใดก็ตามที่ลูกของเรานั้นรู้จักการบวก ลบ เลขนั้นนับได้ว่าเป็นโอกาสเหมาะที่เรานั้นควรที่จะสอนลูกของเราโดยที่ไม่ต้องรอให้ลูกของเรานั้นโตเสียก่อน สิ่งหนึ่งที่สำคัญนั้น คือ การสอนลูกตั้งแต่เล็กๆ เมื่อใดก็ตามที่เรานั้นอยากฝึกลูกของตัวเองให้รู้จักคำว่าวินัยการใช้เงินต่างๆแล้วนั้น เราก็ควรจะฝึกวินัยให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อลูกของเราเริ่มอ้อนที่จะอยากได้สิ่งของต่างๆนั้น เราก็ควรที่จะสอนลูกเกี่ยวกับการใช้เงินหรืออาจจะฝึกขัดใจเด็ก เมื่อใดก็ตามที่เราเลือกที่จะตามใจลูกนั้นหรือการเลี้ยงลูกด้วยเงิน นับได้ว่าเป็นการฝึกนิสัยที่แย่มากเพราะเด็กนั้นจะเอาแต่ใจตัวเอง อยากได้สิ่งใดแล้วก็ต้องได้ และเมื่อโตขึ้นนั้น เด็กที่ถูกตามใจมามักจะซื้อสิ่งของต่างๆตามความพึงพอใจของตัวเอง และน้อยคนนักที่จะรู้จักการยับยั้งชั่งใจด้วยความที่ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่ได้ถูกสอนไว้ในวัยเด็ก เหตุผลหนึ่งมาจากความไม่มีเวลาและด้วยการมีเงินที่เยอะ ทำไม่มีเวลาดูแลครอบครัวของตัวเอง ดังนั้น การที่เราฝึกขัดใจเด็กตั้งแต่เนิ่นๆ หรือสอนให้เด็กนั้นรู้จักการเก็บเงินต่างๆนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
-
สอนลูกๆว่าอย่าทำงานเพื่อเงิน
นับได้ว่าเป็นความคิดของเด็กหลายๆคนในสมัยนี้ ที่ว่างานต่างๆนั้นเราทำเพื่อเงิน เมื่อใดก็ตามที่เราทำงานแล้วนั้นเราต้องได้เงินเป็นสิ่งตอบแทนมา บางครั้งการสอนลูกๆว่าการเริ่มลงทุนต่างๆ ต้องเริ่มจากการมีเงินลงทุนเสียก่อน จึงไม่แปลกใจที่ว่าเด็กๆเหล่านี้นั้นมักจะต้องการเงินเพื่อนำไปลงทุน นับได้ว่าเป็นความคิดที่ดีแต่ไม่ใช่ทั้งหมด แถมบางครั้งอาจจะไม่รู้จักการทำงานเพื่อส่วนรวมหรือการทำงานที่ไม่หวังผลตอบแทน อาจจะทำให้เด็กคนนี้เป็นผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวในอนาคต อย่างไรก็ตามนั้นเราควรลูกว่าทำงานเพื่อประสบการณ์มากกว่า เมื่อใดก็ตามที่ทำงานเพื่อเงินนั้น เด็กๆเหล่านั้นก็จะทำงานที่หนักมากและเยอะมากเพื่อเงิน นับได้ว่าเป็นการทำงานเพื่อเงิน แต่เราควรให้เด็กๆนั้นทำงานเพื่อประสบการณ์ เมื่อใดก็ตามที่เรามีประสบการณ์แล้วนั้นเราทุกคนก็จะสามารถนำประสบการณ์ต่างๆเหล่านั้นมาใช้ในการพัฒนาตัวเองต่างๆได้
ลูกของเรานั้น เปรียบเสมือนกับสิ่งสิ่งหนึ่งที่เราต้องปั้นให้เป็นรูปร่างขึ้นมา เมื่อใดก็ตามที่เรามีเวลาปั้นสิ่งนั้นพร้อมกับมีความรู้และความสามารถที่สูงในการปั้น ก็จะทำให้ลูกของเรานั้นเป็นเด็กที่มีอนาคตที่สดใสได้ไม่ยาก แต่เมื่อใดก็ตามที่เรานั้นเลือกที่จะให้ลูกของเรานั้นถูกสังคม สภาพแวดล้อมต่างๆปั้นแทนเราโดยที่เราทำแค่เพียงส่งเงินเพื่อให้ลูกนั้นใช้จ่าย เราอาจจะได้ลูกของเราที่แลดูแย่ในอนาคต ฉะนั้นบางครั้งเรื่องการเงินถ้าเราสอนด้วยตัวเองได้นั้น เราก็ควรสอนและเมื่อเราสอนด้วยตัวเองนั้นจึงควรสอนสิ่งต่างๆที่ทำให้ลูกของเรานั้น เดินรอยตามเรา