มาอีกแล้วกับวิธีการขายประกันหมกเม็ดของสถาบันการเงิน ซึ่งคนที่ยื่นกู้ซื้อบ้านมักจะเจอ โดยเฉพาะกับสถาบันการเงินเอกชน ซึ่งมีการร้องเรียนกันเยอะมาก เพราะว่าเวลาที่ยื่นเรื่องทำกู้ซื้อบ้านไปนั้นเจ้าหน้าที่บางสถาบันการเงิน บางสาขาจะไม่บอกว่าเราต้องเสียอะไรเพิ่มเติมบ้าง มี ประกันชีวิตแอบแฝง มาหรือเปล่า ?
เดี๋ยวก่อน ใครที่กำลังคิดว่ากู้บ้านเป็นแค่ความฝัน เรามาทำให้เป็นจริงดีกว่า !
ส่วนใหญ่จะบอกแค่ว่าต้องทำประกันเพราะบังคับทำ ซึ่งตัวที่บังคับทำนั้นจะเป็นประกันอัคคีภัย และ จะมีประกันสินเชื่อ, ประกันชีวิต เสริมเข้ามาซึ่งประกันอันนี้นั้นจะไม่บังคับแล้วแต่ลูกค้าว่าสนใจจะทำไหม เพราะวงเงินนั้นคร่าวๆก็เกือบ 4 แสนบาท บางแห่งเสนอถึง 6 แสนบาทเลยก็มี และ มันกลายเป็นการกู้มาจ่ายเบี้ยประกันซึ่งทางสถาบันจ่ายเงินกับบริษัทประกันไปทั้งหมด แล้วให้คนที่ทำสินเชื่อจ่ายคืนกับสถาบันการเงินโดยผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ พร้อมการกู้ซื้อบ้าน
นอกจากนี้ในการกู้เงินซื้อบ้านนั้นส่วนใหญ่จะไม่ได้เต็มวงเงินแบบ 100% แต่ทางสถาบันการเงินจะทำส่วนต่างที่ไม่ได้เต็มนั้นเป็นการกู้เพื่อการตกแต่ง ซึ่งจะได้วงเงินมาอีกก้อนซึ่งอันหลังนี้หากไม่ต้องการเมื่อได้เงินมาแล้วสามรถปิดได้ทันที (ต้องดูข้อตกลงของสินเชื่อตามแต่ละสถาบันการเงินอีกครั้ง) แต่สรุปรวมคร่าวๆมันก็จะอยู่รวมกับการกู้ซื้อบ้าน และ บางสถาบันการเงินอาจจะแถมบริการอื่นๆ มาให้อีกเช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด บัตรผ่อนสินค้า และ อีกจิปาถะซึ่งขึ้นอยู่กับหลักฐานทางการเงินของลูกค้าที่ยื่นกู้เข้าไป ซึ่งปัจจุบันปัญหานี้มีมากพบได้กับการกู้ซื้อบ้านที่แทบจะมีการร้องเรียนกันหลายวัน บอกเล่าประสบการณ์กันตามบอร์ดต่างๆมากมาย
ปัญหานี้ทางออกทางแรกที่ควรจะทำคือ
ตรวจสอบข้อสัญญาต่างๆ ในการกู้ซื้อบ้านตามสินเชื่อที่เราเลือก ดูว่าในใบโปรโมทนั้นสินเชื่อตัวนี้มีเงื่อนไขอะไรบ้าง สอบถามจากเจ้าหน้าที่ทั้งสาขา และ คอลเซ็นเตอร์ ให้ละเอียด เพราะในตัวสัญญานั้นเราจะได้อ่านและเซ็นต์ก็วันที่สินเชื่อผ่านและนัดทำสัญญาซึ่งบอกเลยว่าหนาประมาณ 20-30 หน้าและเป็นภาษากฎหมายอ่านครั้งเดียวอาจทำความเข้าใจได้ไม่หมด และ ส่วนใหญ่พนักงานมักเร่งให้เซ็นต์ หรือ ผู้กู้ไม่มีเวลา
ดังนั้นหากมีการนัดไปทำสัญญาสินเชื่อ ก็ทำตัวให้ว่างกันทั้งวันไปเลย ไปนั่งอ่านที่สถาบันการเงินเลย เตรียมอุปกรณ์ตัวช่วยอย่างสมาร์ทโฟนที่พร้อมเปิดเน็ตได้ หรือ พกที่ชาร์ท และ พาวเวอร์แบงค์ไปด้วยเลย หรือ มีแทปเลตก็พกไปด้วยเพื่อสงสัยข้อไหน แล้วเจ้าหน้าที่ไม่ตอบคำถาม หรือ ตอบไม่เคลียร์ ค้นหาข้อมูลกันตรงนั้น โทรหาคอลเซ็นเตอร์ และ บริษัทประกันที่พ่วงมา ให้เคลียร์กันก่อนเซ็นต์สัญญาเลย หากพนักงานเร่งให้เซ็นต์ หรือ ผู้จัดการสาขาเร่ง เพราจะไม่อยู่ต้องไปข้างนอก คุณบอกไปเลยว่า มีเวลาทั้งวันจนปิดสาขา ขออ่านสัญญาให้เคลียร์คุณไม่รีบรอผู้จัดการกลับมาได้ สงสัยข้องใจถามให้ละเอียด ณ ตรงนั้นเลย อย่าไปแคร์ว่าพนักงานสถาบันการเงินจะมองคุณเรื่องมาก เขาไม่ได้มาจ่ายเงินให้คุณ
คุณเป็นลูกค้าและเป็นคนจ่ายเงิน คุณย่อมต้องได้รับสิทธิ์ในการตรวจสอบเอกสารสัญญาและคำตอบในข้อสงสัยต่างๆ หากบริการไม่ดี โทรแจ้งกันต่อหน้าต่อตาไปเลย เพราะเขาต้องบริการให้คุณไม่ใช่บังคับหรือข่มขู่
อีกสิ่งที่ควรทำก่อนเลือกกู้บ้านกับสถาบันการเงินต่างๆ คือ
การติดต่อสอบถามจากหลายๆ สถาบันการเงินหรือยื่นกู้หลายแห่งในครั้งเดียว ซึ่งคุณสามารถสอบถามข้อมูลต่างๆก่อนการเลือกยื่นเอกสารได้ เพราะพนักงานแต่ละคนไม่เหมือนกัน พนักงานแต่ละสาขาไม่เหมือนกัน บางทีบริการดีเยี่ยมอธิบายให้เข้าใจ ไม่มีหมกเม็ด อันไหนที่เราสมควรทำเขาจะบอกอันไหนที่ไม่สมควรทำเขาจะไม่ขายให้ หรือ ดูจากกำลังเงินของลูกค้าว่าเหมาะที่จะเสริมอะไรบ้างและแนะนำให้โดยถามความสมัครใจของเราให้ข้อมูลต่างๆที่เราเข้าใจได้ง่ายๆ
และ เรายังสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาตรวจสอบได้ก่อนการตัดสินใจเพราะพนักงานบางคนจะระบุให้เลยว่าอะไรที่เสริมมาเช่น ประกันอัคคีภัย ประกันชีวิต มีของที่ไหนบ้าง และ ที่ไหนดีที่ไหนถูก เราสามารถตรวจสอบเองได้อีกครั้งว่ากรรมธรรม์เป็นอย่างไร ผลประโยชน์คุ้มค่าหรือไม่ ซื้อบ้านต้องใจเย็น ค่อยๆ เลือกค่อยๆหาข้อมูลทั้งเรื่องบ้านและเรื่องสินเชื่อ