นักวิชาการหลายท่านกล่าวไว้ว่า จุดเริ่มต้นของการประกอบธุรกิจ คือการสร้างแบรนด์หรือยี่ห้อของสินค้า สิ่งหนึ่งที่คนมักจะถามกันเวลาพบเจอของถูกใจ เสื้อยี่ห้อหรือแบรนด์อะไรหน่ะ ต่อมาจึงค่อยถามต่อซื้อที่ไหน ร้านอยู่ไหน ชาวบ้านธรรมดาอย่างเราๆ เจออะไรถูกใจ สวย อร่อย คำถามแรก ยี่ห้อ ร้านไหน ปัจจัยที่ทำให้แบรนด์มีความสำคัญต่อธุรกิจ เพราะแบรนด์คือสัญลักษณ์ของคุณภาพที่จะนำพาสินค้าให้ออกแข่งขันกับตลาดโลกได้ หลาย ๆ คนบอก อาป๊า อาเจ๊ก ขายเสื้อได้ ไม่เห็นต้องมีแบรนด์ แต่แล้วกิจการเป็นอย่างไร ร้านอื่นนำสินค้าที่คุณภาพใกล้เคียงหรือด้อยกว่า ลดราคาลงยอดขายเราตกไปทันที นั่นเพราะส่วนหนึ่งลูกค้าไม่เกิดความรักความภักดีในตราสินค้าที่ใช้ ขอเพียงราคาถูกเข้าว่า
ทำไมต้องสร้างแบรนด์หน่ะเหรอ ?
นั่นเพราะเมื่อสินค้าเราเป็นหนึ่งในท้องตลาด สินค้าเราจะเป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพ เพราะ การจะ สร้างแบรนด์สินค้า SME ขึ้นมาได้ต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
- อันดับที่ 1 ชื่อตราสินค้า
หรือที่เรียกกัน Brand Name ต้องเป็นชื่อที่อ่านออกเสียงได้ชัดเจน หรือสื่อความหมายของสินค้า จดจำง่าย ระลึกถึงง่ายและไม่มีความหมายในเชิงลบ เช่น คอฟฟี่เวิลด์, ฟิลิปส์ และ โตโยต้า
- อันดับที่ 2 เครื่องหมายตราสินค้า
หรือ Brand คือส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ที่จดจำได้แต่ออกเสียงได้หรือไม่ก็ได้ ส่วนมากมักใช้เป็นรูปร่างลักษณะสี 2D หรือ 3D ถัดมาที่
- อันดับที่ 3 เครื่องหมายการค้า
หรือ Trademark คือส่วนหนึ่งของตรา หรือตราได้รับการจดทะเบียนทางการค้า
- อันดับที่ 4 ลิขสิทธิ์
หรือ Copyright สิทธิตามกฎหมายหรือสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ซึ่งลิขสิทธิ์นี้ เป็นกลไกการป้องกันการลอกเลียนแบบจากคู่แข่งได้ เพราะเราได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย อีกทั้งยังเสริมมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ได้ ด้วยการขายสิทธิการใช้แบรนด์ ดั่งที่เราเห็นแฟรนไชน์ไก่ย่าง, แฟรนไชน์ร้านกาแฟ เป็นต้น
- อันดับที่ 5 โลโก้ (Logo)
เครื่องหมายสัญลักษณ์ของกิจการหรือองค์กร อาจเป็นเครื่องหมายเดียวกับตราสินค้า หรือเครื่องหมายการค้าก์ได้ เพื่อความง่ายในการจดจำเปรียบเสมือนหน้าของสินค้า
จากมุมมองผู้บริโภค แบรนด์สามารถทำให้ผู้ซื้อหรือลูกค้าจำแนกชนิดของสินค้าในคุณภาพที่แตกต่างกัน เขาเชื่อว่าผู้ผลิตกล้าที่ประกาศชื่อสินค้าว่า มีการรับประกันคุณภาพสม่ำเสมอ เหมือนเดิม หรือคุณภาพดีกว่า ซึ่งนี่เองที่ทำให้ผู้ซื้อรับรู้ว่า ความแตกต่างของสินค้าเรากับคู่แข่งตามท้องตลาดเราจะเห็น เสื้อตัวละ 199 บาท ที่มีดีไซน์ใกล้เคียงกับของแบรนด์เนม แต่เมื่อพิจารณาแล้วเราจะพบว่าเนื้อผ้าและการตัดเย็บมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
อีกอย่างก็คือ ลูกค้าสามารถรู้ได้ในทันทีว่า ใครคือผู้ผลิต ทำให้เขาลดความเสี่ยงต่อการลองผิดลองถูกในการซื้อสินค้าในแต่ละครั้ง เพราะไม่ทราบว่าสินค้าอื่นนั้นเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร และเหตุผลข้อนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการขยายสายผลิตภัณฑ์หรือแตกไลน์สินค้า สินค้าที่ผลิตภายใต้แบรนด์ย่อมมีแนวโน้มประสบความสำเร็จไปกว่าครึ่ง และที่สำคัญช่วยให้ประหยัดเวลาในการซื้อและสามารถซื้อซ้ำได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องหาข้อมูลหรือเปรียบเทียบพิสูจน์ว่ายี่ห้อไหน แบรนด์ไหนดีอีก
เมื่อรู้ประโยชน์ของแบรนด์สินค้าอย่างนี้แล้ว การ สร้างแบรนด์สินค้า SME ขึ้นมาต้องทำยังไงให้ประสบความสำเร็จเพื่อบรรลุผลยอดขายและกำไร รวมทั้งการนำแบรนด์ให้สินค้าติดตลาดซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคงแก่ธุรกิจ
กุญแจดอกที่ 1 คือ สินค้าหรือผลิตภัณฑ์
ซึ่งในที่นี้เราเน้นที่คุณภาพของสินค้า เพราะเป็นปัจจัยพื้นฐานและเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจับต้องได้ ทดลองใช้ได้จริง ให้เห็นว่าสินค้าของเราดีเพียงใด เราต้องผลิตสินค้าออกมาให้ลูกค้าที่ได้ทดลองใช้แล้วเกิดรัก หลงใหลในสินค้า ให้คุ้มค่ากับเงินที่เขาควักออกจากกระเป๋า โลกปัจจุบันแคบลงด้วยโซเชียลต่างๆ แน่นอนหากสินค้าเราดีจริง กระแสการตอบรับแบบปากต่อปาก จะช่วยลดต้นทุนการประชาสัมพันธ์สินค้าได้มาก
กุญแจดอกที่ 2 คือ คน
เราต้องรู้ชัดว่าผลิตภัณฑ์หรือสินค้านั้นเราจะขายให้กับกลุ่มเป้าหมายใด ต้องศึกษาวิเคราะห์พฤติกรรมของคนช่วงอายุนั้น หรือชุมชนแถบนั้นว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด ซึ่งแน่นอนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์เราไม่สามารถตอบสนองได้ทุกกลุ่ม แต่เราเลือกกลุ่มที่มีกำลังซื้อและกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการซื้อ อย่างเสื้อผ้าเด็กเล็ก กลุ่มที่ใช้เป็นเด็กเล็ก แต่เด็กเล็กไม่ใช่คนซื้อ คนที่มีอิทธิพลและมีกำลังซื้อคือ พ่อแม่ หรือคนในครอบครัว เป็นต้น ขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างว่า รู้เขารู้เรา รู้ลึกยิ่งดี
กุญแจดอกที่ 3 คือ กำหนดยุทธศาสตร์ของแบรนด์
เป็นสิ่งที่ร่วมกันคิดระหว่างผู้บริหารและนักการตลาด ต้องทำให้ผู้ซื้อสินค้า บอกว่า “ใช่เลย นี่แหล่ะ ที่เราอยากได้” หรือ “ใช่เลยแบรนด์ที่เราตามหา” เป็นการสร้างภาพลักษณ์สินค้าให้ออกมาสอดคล้องกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ซึ่งการถ่ายทอดออกมาเป็นลักษณะของแบรนด์นั้นต้องสร้าง ความโดดเด่น สร้างเอกลักษณ์ในตัวเอง สิ่งนี้จะทำให้ผู้ซื้อหรือลูกค้าจดจำสินค้าเราได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างร้านอาหารฟูจิ สไตล์ญี่ปุ่น ราคามาตรฐานกลาง ๆ มีเซทเมนูหลากหลาย ที่คนทั่วไปเข้าถึงง่าย กุญแจดอกที่ 4 คือ การใช้เครื่องมือทางการตลาดเข้ามาช่วยเรียกร้องความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย การลด แลก แจก แถม สะสมแต้ม ชิงรางวัล ถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ได้รับความนิยมจากอดีตถึงปัจจุบัน เพราะพฤติกรรมผู้บริโภค ชอบของดี ราคาถูก ยิ่งมีของแถมยิ่งชอบ จะทำให้การตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ผู้ผลิตรายใหม่ควรเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะกับธุรกิจของตนเอง เพราะนั่นคือต้นทุนของบริษัท
ดังนั้นการ สร้างแบรนด์สินค้า SME ให้เข้มแข็ง สิ่งแรกที่ต้องเน้นและรักษาคือคุณภาพของสินค้าและต้องสร้างภาพลักษณ์กับแนวคิดของแบรนด์ให้เหมาะเจาะกับกลุ่มเป้าหมาย, พฤติกรรมการซื้อและสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอด้วยค่ะ
