รายได้เดือนละ 9,000 บาทอยู่รอดได้อย่างไรในยุคนี้ ก่อนอื่นเชื่อว่าหลายๆคนคงสงสัยมีด้วยเหรอเงินเดือนเท่านี้สำหรับยุคนี้ที่อะไรๆก็แพง ขอบอกว่ามีจริงๆ เป็นน้องข้างๆบ้านของผู้เขียนเอง รายได้เดือนละ 9,000 บาท กับตำแหน่งธุรการในออฟฟิศบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งแถวละแวกบ้าน ซึ่งน้องเขาจบวุฒิ ปวช.ฟังดูเหมือนน่าจะหางานที่เงินเดือนดีกว่านี้ได้ แต่ด้วยค่าครองชีพที่สูงทำให้ต้องเลือกทำงานใกล้ๆบ้าน เพราะเคยเดินทางไปทำงานไกลๆ แล้วค่าใช้จ่ายแทบไม่พอกับเงินเดือน ลองมาดูกันว่าน้องเขาใช้จ่ายอย่างไรและบริหารเงินอย่างไรให้พอใช้จ่ายในครอบครัว
รายจ่ายหลักๆของครอบครัวคือ ค่าเช่าบ้านตกเดือนละ 5,000 บาท ค่าน้ำค่าไฟอีกประมาณ 1,500 – 2,000 บาท นอกจากนี้ก็จะเป็นค่าอาหารและเงินใช้จ่ายให้น้องซึ่งยังเรียนอยู่ ฟังดูก็หนักพอสมควรใช้ไหมแต่ครอบครัวนี้ยังมีแม่ และ พ่อ ที่ยังทำงานอยู่ ซึ่งรายได้ไม่มากนักเพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจทำให้รายได้น้อยลง โดยพ่อขับรถแท็กซี่แต่ก็เช่าขับรายจึงเหลือไม่มาก และ แม่ขายกาแฟและขนมช่วงเช้า – บ่าย รายได้ไม่มากนักเพราะช่วงเวลาที่ค้าขายได้มีจำกัด รายได้ทั้งหมดของบ้านจะถูกนำมารวมกันและแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างที่กล่าวคือ ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ-ไฟ ค่าอาหาร และ เงินสำหรับให้น้องเรียน และ ใช้จ่ายอื่นๆตามความจำเป็น ซึ่งเมื่อเงินเดือนออก น้องจะต้องนำเงินเดือนที่ได้รับแต่ละเดือนให้แม่เพื่อรวมไว้จ่ายค่าใช้จ่าย ส่วนเงินที่น้องจะไว้ใช้ไปทำงานนั้น จะได้รับเป็นรายวันโดยแม่จะจ่ายให้ ซึ่งกำหนดไว้ให้ใช้วันละ 120 บาท ทำงานเดือนละ 26 วัน ก็เท่ากับใช้เงินตกเดือนละ 3,120 บาท
ซึ่งวันละ 120 บาทนั้นหลายคนคิดว่าจะพอหรือ แต่สำหรับน้องคนนี้พอและบางวันเหลือด้วย เพราะทำงานใกล้บ้าน เดินทางโดยมอเตอร์ไซค์วิน ไปกลับก็ตกวันละ 30 บาท ที่เหลืออีก 90 บาทคือค่าอาหาร ซึ่งก็ตกวันละประมาณ 50 บาท น้องจึงเหลือเงินอีกวันละ 40 บาทสำหรับเก็บไว้ซื้อของที่อยากได้ตอนสิ้นเดือน ซึ่งด้วยความจำเป็นทำให้ต้องใช้เงินประหยัด ฟังดูเหมือนจะลำบากแต่ในความลำบากมันก็ยังพอหาความสุขได้บ้างเล็กๆน้อยๆ เช่นไปดูหนังบ้าง ไปทานอาหารตามห้างบ้าง หรือ หาโอกาสไปเที่ยวต่างจังหวัดใกล้ๆบ้าง เพราะช่วงไหนที่เก็บเงินสำหรับค่าเทอมน้องได้ครบแล้ว ครอบครัวนี้ก็จะแบ่งเงินสำหรับสร้างความสุขกันในครอบครัวบ้าง หรือ ซื้อของใช้ที่ยังขาดอยู่เข้าบ้านเพื่อไว้อำนวยความสะดวกในบ้าน แต่ก็เป็นแบบเงินผ่อนที่ผ่อนราคาไม่แพง และผ่อนแค่จำเป็นเท่านั้น และไม่พยายามสร้างหนี้นอกระบบโดยไม่จำเป็น
อ่านเพิ่มเติม >> เด็กจบใหม่อยู่ได้ด้วย เงินเดือนหมื่นห้า ! <<<
จากสภาพความเป็นจริงของครอบครัวนี้หลายคงคิดว่าลำบากใช่ไหม ซึ่งมันก็อาจจะมีบ้างตรงที่ใช้จ่ายไม่ค่อยจะสบายมือ เพราะต้องเก็บเงินไว้ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าเล่าเรียนน้อง และอื่นๆที่ต้องจ่ายในชีวิตประจำวัน แต่เขามีการจัดระเบียบเรื่อเงินที่ค่อนข้างมีไม่มากให้สามารถใช้ได้เพียงพอกับทุกคนในครอบครัว
แม้ว่าบางครั้งอาจจะขัดสนบ้างแต่ก็ยังพอหมุนเงินได้ เพราะเขาจะจัดสรรเงินเป็นส่วนๆ รายได้ในแต่ละวันจะถูกแบ่งไว้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนรายได้ที่เป็นรายเดือนก็จะนำมาใช้จ่ายสำหรับรายจ่ายหลักๆ เห็นไหมว่าการบริหารจัดการเรื่องการเงินมันมีข้อดีแค่ไหน ?