สำหรับคนที่คิดจะทำธุรกิจ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ หลายๆคนมักจะถามว่าก้าวแรกจะเริ่มอย่างไร ควรทำอย่างไร ควรคิดอย่างไร และทำอะไรให้ธุรกิจไปรอด เงินลงทุนควรมีเท่าไหร่ บริหารจัดการอย่างไร นี่เป็นคำถามของคนที่คิดจะก้าวออกจากการเป็นลูกจ้าง หรือ คนธรรมดามาเป็นเจ้าของกิจการ มาเป็น คนที่ประสบความสำเร็จ คำตอบของเรื่องนี้คือ การมีแนวคิดมีทัศนวิสัยที่กว้างไกล มองเห็นหลายสิ่งหลายอย่างและวิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุมีผล กล้าเสี่ยง และพร้อมที่จะเผชิญกับผลที่จะได้รับ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคและปัญหาก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ ซึ่งวันนี้เรามีบทสัมภาษณ์ของนักธุรกิจชาวไต้หวันสั้นๆ แต่ได้ใจความและสามารถให้คำตอบได้ว่าทำไมเขาถึงประสบความสำเร็จ
นายกัวไถหมิง และ นายหวังหย่งชิ่ง สองนักธุรกิจชาวไต้หวันที่ทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ในการประกอบกิจการในนามบริษัท Foxconn ที่ได้ตอนนี้ได้ร่วมทุนกับบริษัท Apple ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆคนอยากรู้ว่าเขามีแนวคิดอย่างไร คิดอย่างไร และ คนที่ถามเขาคือ วิศวกรในบริษัท ที่คิดว่าทำงานหนักทุ่มเทให้กับบริษัท แต่ผลตอบแทนนั้นบริษัทได้มากกว่าพวกเขาซึ่งคำถามนั้นมีอยู่ว่า
ทำไมคนที่เหนื่อยเป็นพวกเขา แต่คนทีได้รับเงินกลับเป็นคุณ ?
อ่านคำถามแล้วก็อยากรู้คำตอบใช่ไหมล่ะ แน่นอนว่าคนทำงานชอบถามแบบนี้เพราะคิดว่าตัวเองทำงานหนักแต่คนที่รวยคือเจ้าของกิจการ ซึ่ง นายกัวไถหมิง และ นายหวังหย่งชิ่ง ตอบกลับไปว่า
ระหว่างพวกเรานั้นมี 3 อย่างที่แตกต่างกัน อย่างที่ 1 : 30 ปีที่ก่อนที่ผมก่อตั้งบริษัท ผมต้องใช้บ้านและครอบครัวเป็นเดิมพัน แต่พวกคุณเพียงใช้เวลาไม่กี่สิบนาทีส่งใบสมัครงานเข้ามาที่บริษัท จากนั้นก็ได้เข้ามาทำงาน และก็สามารถเดินออกไปจากที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ ผมกับคุณต่างกันตรงที่ : สร้างกิจการ กับ ทำงาน
อย่างที่ 2 : ผมต้องเลือกขั้วที่ทำการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์สู่ตลาด และสุดท้ายผมก็เลือกที่จะร่วมงานกับแอปเปิ้ล เพราะวิสัยทัศน์ของผมมักจะตัดสินใจสิ่งที่ถูกต้องเสมอ ส่วนพวกคุณ การที่จะเข้าทำงานในแผนกไหนส่วนไหนนั้น ก็จะต้องมาจากคัดสรรโดยดูจากประสบการณ์และการสอบคัดเลือก พวกผมกับคุณต่างกันตรงที่ : การเป็นคนเลือก กับ การเป็นคนถูกเลือก
อย่างที่ 3 :ผมใช้เวลาตลอด 24 ชั่วโมงในการคิดหาวิธีสร้างผลกำไร เพราะการตัดสินใจแต่ละนโยบายจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของผู้ถือหุ้นและพนักงานมากกว่าหมื่นคน ขณะที่พวกคุณต้องคิดเพียงว่าทำอย่างไรจะดูแลครอบครัวของตัวเองให้ดีเท่านั้น พวกผมกับคุณต่างกันตรงที่ : ความรับผิดชอบที่แบกรับอยู่
อ่านแล้วเห็นถึงความแตกต่างและแนวคิดของผู้บริหารสองคนนี่ไหมว่าเขาคิดอย่างไร เห็นความแตกต่างระหว่างเจ้าของกิจการ และ ลูกจ้าง หรือไม่ ดังนั้นหากคุณคิดจะทำกิจการของตัวเอง หรือ ทำธุรกิจ ของตัวเอง คุณต้องกล้าและมีแนวคิดแบบคนเป็นนาย คนเป็นเจ้าของ เพราะความรับผิดชอบนั้นเจ้านาย หรือ เจ้าของธุรกิจจะต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าเพราะต้องแบกรับทุกอย่าง ในกิจการนั้นๆ ส่วนลูกน้องจะรับผิดชอบแค่หน้าที่ของตัวเอง และการทำธุรกิจนั้นทุกนาทีมีค่า ทุกเวลามีความหมาย บางคนแม้กระทั่งเวลาจะนอนยังคิดว่าจะหาทางอย่างไรให้กิจการไปรอดมีเงินจ่ายดอกเบี้ยที่กู้มาลงทุน และ สามารถมีเงินจ่ายลูกจ้างได้ทุกเดือน จะทำอย่างไรให้กิจการเป็นที่รู้จัก มีลูกค้าตลอด
ไม่ใช่ง่ายๆเลยใช่ไหมกับการก้าวออกมาเป็นเจ้าของธุรกิจสักอย่าง หรือ เป็นเจ้าของกิจการ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จะตึกใหญ่โต หรือ ร้านแผงลอย หากขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าของความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำต้องมาก่อน และ มันจะมาพร้อมกับความอยู่รอดของตัวเองและลูกจ้างด้วย ลองเอาแนวคิดนี้ไปใช้ดู ปรับทัศนคติของตัวเองดู ลองเรียนรู้เพื่อหากเมื่อไหร่คุณมาเป็นเจ้าของกิจการเองจะได้รู้ว่าควรคิดอย่างไรทำอย่างไร
บทสัมภาษณ์จาก : http://goo.gl/4HzNsG