ชาวกรุงที่นิยมใช้บริการรถแท็กซี่คงต้องควักกระเป๋ากันเพิ่ม เพราะมีข่าวจากรมการขนส่งทางบก ได้ออกมาแจ้งว่า ตอนนี้มีการทำโครงการสำรวจความพึงพอใจของคนที่ใช้รถบริการแท๊กซี่มิเตอร์ ซึ่งผลออกมาว่ามีความพอใจกับการบริการของรถแท๊กซี่มิเตอร์สูงถึง 71% ซึ่งมีผลกับการพิจารณาขอขึ้นค่าแท็กซี่ซึ่งสอดคล้องกับการที่ทางคณะกรรมการพิจารณาค่าโดยสารได้ระบุไว้ว่า หากจะมีการขอปรับขึ้นราคาผลการสำรวจจากคนใช้บริการต้องมีความพึงพอใจมากกว่า 70%
ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายละเอียดต่างๆ และนำผลสำรวจมาวิเคราะห์เพื่อหาความเหมาะสม ซึ่งตอนนี้คร่าวๆน่าราคา ค่าแท็กซี่ขึ้นราคาอีก 5% โดยการสุ่มสำรวจนั้น สำรวจจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพ-ปริมณฑล และ ผู้ใช้บริการรถแท็กซี่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่ก็ยังต้องดูปัจจัยและองค์ประกอบอื่นๆในการพิจารณาด้วย เช่นเรื่องของความปลอดภัย , การปฏิเสธไปตามเส้นทางที่ผู้โดยสารกำหนด,พฤติกรรมผู้ขับรถ และอื่นๆ
แม้ว่าผลโพลจะชี้ว่าประชานชนมีความพอใจมากขึ้นแต่ก็แค่ส่วนหนึ่งของคนที่ใช้บริการ ซึ่งต้องดูจากหลายๆอย่างก่อนที่จะมีการประกาศให้ปรับราคา
จากข่าวนี้แน่นอนว่าหลายๆคนที่ใช้บริการแท็กซี่เป็นประจำ คงจะต้องควักเงินค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกแน่นอน แม้ว่าจะเพียงแค่ 5% จากราคาเริ่มต้นพื้นฐาน ที่อยู่ที่ 35 บาท ซึ่งหากปรับขึ้นราคาเริ่มต้นอาจจะอยู่ที่ 37 บาท ซึ่งมองว่าขึ้นมาไม่มากเท่าไหร่แต่หากคิดจากระยะทางจากจุดเริ่มต้นไปยังปลายทางก็เพิ่มขึ้นหลายบาทเลยทีเดียว แม้ว่าตามสภาพเศรษฐกิจในตอนนี้ ที่มีรถแท็กซี่มิเตอร์ให้บริการกันเกลื่อนท้องถนน ทำให้กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่มิเตอร์ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า รายได้น้อยลง เพราะมีคู่แข่งในการให้บริการทั้ง รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และ รถบริการจากแอพพลิเคชั่นอูเบอร์
แม้ว่าหลายคนจะมองว่าไม่น่าจะเกี่ยว แต่จากการที่เคยได้พูดคุยกับคนขับรถแท็กซี่มิเตอร์ เวลาที่เรียกใช้บริการ หลายๆคนมักจะบ่นแบบนี้ เพราะด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัดทำให้คนที่ต้องการเดินทางในเวลาเร่งด่วนหันไปใช้บริการขนส่งมวลชนแบบอื่น ที่ทำเวลาได้เร็วกว่า และ คนขับรถแท็กซี่มิเตอร์บางรายเช่ารถขับเป็นกะ บางครั้งก็ต้องปฏิเสธผู้โดยสารในบางครั้งหากเส้นทางนั้นไกลจากจุดส่งรถหรืออยู่ในช่วงเวลาที่ต้องนำรถไปส่งคืน ทำให้เสียโอกาสและกลายเป็นสร้างความรู้สึกไม่ดีกับคนที่ต้องใช้บริการ แต่ คนขับเองก็บอกว่าแท็กซี่บางคันนั้นก็ปฏิเสธจริงๆเพราะเห็นว่าเส้นทางที่ไปนั้นรถติด หรือ ไกลจนไม่คุ้มค่ามิเตอร์ทำให้เป็นปัญหาจนมีการร้องเรียนอย่างในปัจจุบัน
แต่เราก็ต้องยอมรับกันว่า รถแท็กซี่มิเตอร์ ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในปัจจุบันของคนกรุง แม้ว่าต้องเสี่ยงกับการโนปฏิเสธไม่ไปเวลาเรียก หรือ เสี่ยงกับคนขับที่มารยาทไม่ดี หรือ อาจโดนกระทำอย่างอื่น ซึ่งในการเรียกใช้บริการนั้นบางครั้งก็ต้องดูเวลาดูหน้าคนขับกันก่อนก็มี และในปัจจุบันคนที่ตกงานหางานทำไม่ได้แต่ขับรถได้ก็หันมาขับแท็กซี่กันมากขึ้น หรือ หันมาขับรถอูเบอร์ที่กำลังเป็นคู่แข่งกับรถแท็กซี่อยู่ในปัจจุบัน
ส่วนเราประชาชนคนใช้บริการรถแท็กซี่ก็คงต้องเตรียมรับหากมีการประกาศให้ปรับขึ้นราคาได้ ซึ่งหลายคนอาจไม่ได้รับผลกระทบมากมายนักเพราะนานๆจะใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์สักครั้ง แต่คนที่ใช้บริการบ่อยๆ คงต้องหาวิธีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางเพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แม้ว่าคนขับแท็กซี่มิเตอร์อาจจะดีใจที่จะมีรายได้เพิ่ม แต่ก็คงต้องรับมือกับผู้โดยสารที่อาจจะลดลงเนื่องจากการขยับขึ้นราคาในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ลิงค์ข่าว : http://www.dailynews.co.th/economic/353633