ถ้าจะพูดถึงคนจีนที่รวยที่สุด และยังติดอันดับ Top 10 ของมหาเศรษฐีของโลก คงจะเป็นใครไม่ได้ นอกจากเขาคนนี้ “ลีกาชิง” หรือที่มีชื่อภาษาจีนว่า “หลี่เจียเฉิง” บุรุษผู้นี้เกิดในครอบครัวที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อจะอยู่รอดตั้งแต่ยังเด็ก โดยครอบครัวของลีกาชิงได้อพยพลี้ภัยจากประเทศจีนไปอยู่ที่ฮ่องกง ในช่วงที่เกิดสงครามเอเชียมหาบูรพา ซึ่งประเทศจีนได้ถูกบุกรุกโดยทหารญี่ปุ่น และหลักจากอาศัยในฮ่องกงได้ไม่นาน พ่อของเขาก็เสียชีวิตลง ทำให้เขาต้องกลายเป็นเสาหลักของบ้าน และนี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตที่เริ่มจากศูนย์จนไปสู่มหาเศรษฐีที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของเอเชียหรือของโลกเลยก็ว่าได้
ลีกาชิงเริ่มชีวิตการทำงานจากการเป็นพนักงานขายในบริษัทผลิตของเล่นพลาสติก ซึ่งในตอนนั้นนั้นเขาทำงานหนักมากถึงวันละ 16-20 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว และด้วยความฝันที่ต้องการเป็นเจ้าของกิจการของตนเอง จึงได้เริ่มมีบริษัทเล็กๆของตัวเอง จากบริษัทที่เป็นโรงงานพลาสติกเล็กๆ ก้าวไปสู่บริษัทผลิตดอกไม้ประดิษฐ์พลาสติกรายใหญ่ของเอเชีย และจากนั้นก็ไม่มีใครที่จะหยุดเขาอยู่อีกแล้ว ลีกาชิงได้ดำเนินธุรกิจอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น อสังหาริมทรัพย์ ท่าเรือ การสื่อสารโทรคมนาคม พลังงาน ฯลฯ
อ่านเพิ่มเติม >>> บทพิสูจน์ของยอดคน ลี กาชิง <<<
การที่ลีกาชิงประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เขาเป็นคนที่รักการเรียนรู้ โดยเฉพาะการอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก ถึงแม้เขาจะเป็นคนที่ทำงานหนัก แต่ก็ยังจัดสรรเวลาเพื่อที่จะได้มีเวลาอ่านหนังสืออยู่เสมอ ลีกาชิงถือได้ว่าเป็นต้นแบบของคนที่เรียนรู้แบบไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งเขามีความเชื่อว่ามนุษย์เราไม่สามารถที่จะหยุดเรียนรู้ได้
ในสมัยที่ยังเด็ก เขาได้ซื้อหนังสือเก่ามาอ่าน พออ่านจบก็จะนำไปขายเพื่อที่จะได้ซื้อหนังสือเก่าเล่มอื่นๆ มาอ่านต่ออีก เรียกได้ว่าความรู้พื้นฐานของลีกาชิงก็มาจากหนังสือเก่าเหล่านั้นนั่นเอง ถึงแม้ว่าการอ่านหนังสือจะไม่ได้เป็นการการันตีว่าจะประสบความสำเร็จ แต่ลีกาชิงก็เชื่อว่าการอ่านหนังสือจะทำให้เห็นโอกาส และโอกาสนั้นเองที่จะนำพาให้คนเราไปสู่ความสำเร็จได้ ซึ่งจากการที่เขาอ่านหนังสือเยอะมาก ทำให้เขามีข้อมูลมากพอ ในการที่จะวิเคราะห์สถานการณ์ของเศรษฐกิจ และรู้ถึงวัฏจักรในแต่ละธุรกิจเป็นอย่างดี ทำให้เขาประสบความสำเร็จในการทำทุกๆ ธุรกิจที่เขาดำเนินการเลยทีเดียว
ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในทวีปเอเชีย และแน่นอนว่ารวมถึงฮ่องกงด้วย แต่ธุรกิจของลีกาชิงกลับได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์นี้น้อยมาก ซึ่งก็เกิดจากการดำเนินธุรกิจของลีกาชิงนั้น จะตั้งอยู่บนความไม่ประมาท และพร้อมรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดเสมอ
ลีกาชิงได้ สอนให้รวย ในเรื่องวิธีการจัดสรรเงิน ซึ่งหากทำอย่างต่อเนื่องจะทำให้มีโอกาสรวยได้ภายใน 5 ปี โดยไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ก็ให้แบ่งรายได้ออกเป็น 5 ส่วน เพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
1. เงินสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 30% :
เป็นเงินที่ใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะค่าอาหาร เงินในส่วนนี้เป็นส่วนที่คนส่วนใหญ่ควบคุมได้ยากมาก เพราะต้องมีวินัยอย่างสูงในการควบคุมค่าใช้จ่าย ซึ่งคนทั่วไปมักจะพลาดกัน โดยมักแยกไม่ออกว่าสิ่งที่จำเป็นจริงๆ กับสิ่งที่อยากได้นั้นมันต่างกัน ในวันที่คุณยังมีเงินไม่มาก คุณอาจต้องยอมกินข้าวจากร้านอาหารถูกๆ ไม่ใช่ไปกินร้านอาหารหรูๆ จนค่าใช้จ่ายบานปลายจนควบคุมไม่อยู่
2. เงินสำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น 20% :
เป็นเงินที่ใช้เพื่อเอาไปเลี้ยงผู้อื่น โดยลีกาชิงยังได้แนะนำอีกว่า คนที่เราควรเลี้ยงนั้น ควรเป็นคนที่รวยกว่าหรือมีความรู้มากกว่าเรา เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ความรู้ดีๆ จากเขาได้ ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ยังรวมถึงค่าโทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อกันด้วย
3. เงินสำหรับค่าใช้จ่าย เพื่อการเรียนรู้ 15% :
เงินส่วนนี้ให้นำไปหาความรู้ เช่น ซื้อหนังสือที่มีประโยชน์ (แนะนำว่าควรอ่านและ Short Note ไปด้วย และเมื่ออ่านจบควรถ่ายทอดให้ผู้อื่นฟังด้วย) รวมถึงการไปอบรมสัมมนาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้เฉพาะทางด้านวิชาชีพ หรือเกี่ยวกับการเงินและการลงทุนก็ได้
4. เงินสำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อไปต่างประเทศ 10% :
เป็นเงินที่เตรียมไว้สำหรับท่องเที่ยวในวันหยุด เป็นการเปิดหูเปิดตา เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับตัวเอง และยังเป็นการให้รางวัลกับตัวเองอีกด้วย
5. เงินสำหรับออมเพื่อเป็นทุนในการเริ่มทำธุรกิจ 25% :
เป็นเงินที่เตรียมไว้สำหรับลงทุนในอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการค้าขาย การลงทุนในพันธบัตร ตราสารทางการเงินต่างๆ หุ้น กองทุนรวม ฯลฯ
การบริหารหรือการจัดสรรเงินเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรทำ ไม่ใช่ต้องรอให้มีเงินเยอะก่อนแล้วค่อยบริหาร แต่คุณต้องคิดว่าเพราะคุณบริหารเงินต่างหาก คุณถึงมีเงินมากขึ้น
ลีกาชิงยังได้สอนอีกว่า ถ้าคุณยังจนอยู่ ให้คุณใช้เวลาอยู่บ้านให้น้อยๆ แล้วอยู่ข้างนอกให้เยอะๆ เพื่อที่คุณจะได้มีโอกาสในการหาเงินได้มากขึ้น และถ้าคุณรวยแล้ว ก็ให้คุณใช้เวลาอยู่บ้านให้เยอะขึ้น แล้วอยู่นอกบ้านให้น้อยลง ปัจจุบันลีกาชิงมีอายุ 87 ปี และได้โอนสัญชาติเป็นชาวแคนาดา เขาเชื่อว่า ชีวิตของคนเรานั้นสามารถออกแบบได้ อาชีพสามารถวางแผนได้ ความสุขของเราต้องเตรียมพร้อม ถ้าเริ่มวางแผนตอนนี้ จะดีที่สุด