หลายคนที่กำลังทำงานประจำและเรียกตัวเองว่ามนุษย์เงินเดือน อาจจะประสบปัญหามากมายในการทำงาน ไม่ว่าจะมีเจ้านายหลายคนที่สั่งงานเรื่องเดียวกันแต่ไม่เหมือนกัน เพื่อร่วมงานที่คอยจะจับผิดหรือแย่งผลงาน ปัญหาเรื่องปริมาณงานและเงินเดือนที่ไม่สอดคล้องกัน งานน้อยเงินน้อย งานมากเงินก็ยังน้อยอยู่ จากปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายคนผันตัวเองออกมาทำงานส่วนตัว บางคนหันมารับจ้างอิสระหรือที่เรียกกันว่า “ฟรีแลนซ์”
ฟรีแลนซ์ นั้นเป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกคนที่มีอาชีพรับจ้างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นช่างภาพอิสระ นักเขียนอิสระ ตากล้องอิสระ เป็นต้น ซึ่งงานที่พวกเขาเหล่านี้ทำจะเกิดจากการจ้างงานของนายจ้างที่มีมาเป็นช่วง ๆ มากบ้างน้อยบ้างก็ว่ากันไป เช่นหากเป็นช่างภาพก็จะมีงานมาเป็นช่วง ๆ ช่วงไหนที่เป็นเทศกาลช่วงนั้นงานค่อนข้างจะเยอะ ช่วงไหนที่ไม่มีเทศกาลก็จะน้อยลงหน่อย เช่น อาชีพช่างภาพอิสระ จะมีงานถ่ายภาพงานวิวาห์ที่คิวแน่นช่วงปลายปีคาบเกี่ยวต้นปีหน้า ส่วนกลางปีนั้นคิวถ่ายภาพงานวิวาห์จะลดลงตามลำดับ ไม่มีความตายตัวซึ่งผู้ที่ทำอาชีพนี้หากขยันหางาน รับงาน มีความรับผิดชอบและตรงเวลา ไม่เกี่ยงประเภทงานเล็กงานน้อย ก็จะสามารถหางานได้ตลอดทั้งปี มีรายได้ต่อเนื่องได้ ถือว่าทำกันไม่ทันเลยทีเดียว
ด้วยไลฟ์สไตล์การทำงานแบบฟรีแลนซ์ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าและมีความท้าทายในงานมากกว่าจึงทำให้มีมนุษย์เงินเดือนมากมายเปลี่ยนตัวเองมารับงานในรูปแบบนี้กันมากขึ้น เพราะคิดว่ารายได้และความอิสระที่จะได้รับจากการทำงานนั้นน่าจะมากกว่าการทำงานประจำ
ความน่าสนใจของอาชีพฟรีแลนซ์ไม่ได้หยุดที่เพียงความอิสระที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เหมือนการทำงานประจำและการไม่จำกัดหรือตีกรอบทางความคิด แต่มันมีความน่าสนใจอยู่ที่ว่า ผู้ที่ทำงานนั้นสามารถที่จะทำงานที่ไหนก็ได้ ที่บ้าน ที่ร้านกาแฟ หรือที่สวนสาธาณะ ได้หมดตามที่ต้องการ สามารถที่จะเริ่มทำงานวันไหนก็ได้และใส่ชุดใดก็ได้ที่อยากใส่ ไม่มีข้อจำกัดที่ตายตัวเหมือนพนักงานประจำที่ต้องทำงานตั้งแต่เช้า 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น และมีวันหยุดเพียง 1-2วัน มีข้อบังคับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งในรูปแบบของงานฟรีแลนซ์นั้นไม่มี จะมีข้อแม้สำคัญเพียงอย่างเดียวคือต้องมีความรับผิดชอบ
การทำงานแบบฟรีแลนซ์นั้นผู้ที่อยู่ในวงการนี้มักจะรู้ดี เพราะการทำงานแบบนี้ไม่ได้ราบรื่นและสบายเสมอไป อาชีพ ฟรีแลนซ์ ความเสี่ยง และข้อจำกัดมันเป็นของคู่กัน บางทีจะต้องมีปัญหาบ้างที่ต้องทำให้หลายคนเปลี่ยนใจอยากกลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเดิม ได้แก่
- เรื่องการเจรจางาน หากทำงานประจำเราจะมีฝ่ายการตลาดและหัวหน้าเป็นผู้เจรจาตกลงการทำงานแต่ละชิ้น เลือกงานมาให้เราทำ แต่หากเรามาทำเองนั้นผู้ที่รับหน้าที่นั้นคือเราเพียงคนเดียว ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นสิ่งที่ยากหากการเจรจาในครั้งนั้นค่อนข้างมีรายละเอียดที่เยอะ
- การแก้งาน ต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะหากเป็นงานประจำเราจะมีหัวหน้าเป็นผู้ตรวจงานก่อนที่จะส่งให้ลูกค้า แต่หากเรารับทุกอย่างมาเองลูกค้าจะเป็นผู้ที่ตรวจงาน ดังนั้นหากไม่มีการตกลงที่ดี เรื่องของการแก้งานก็จะมีเหตุการณ์ที่เรียกว่าแก้งานไม่รู้จักจบจักสิ้น เพราะไม่มีการเจรจากันไว้ก่อนว่าสามารถเปลี่ยนหรือแก้ได้กี่ครั้ง
- ไม่มีความแน่นอนของปริมาณงาน บางเดือนอาจจะมีงานเข้ามาเยอะ บางเดือนอาจจะมีงานน้อย ในเรื่องของรายได้ก็อาจจะมีขาดมือกันบ้าง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระบบจัดการของแต่ละคนว่าจะบริหารงานของตัวเองอย่างไร การหางานมารองรับให้มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องอย่างไร
- การเป็นพนักงานประจำคือเราจะต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น แต่การเป็นฟรีแลนซ์นั้นเราต้องทำงานอยู่คนเดียว บางครั้งทำให้เรื่องความคิดสร้างสรรค์ที่มีนั้นอาจจะตันได้ ไม่มีความคิดใหม่ ๆ เข้ามาและอาจจะรู้สึกเหงาบ้าง ดังนั้นควรออกงานบ่อย ๆ ออกข้างนอกบ้านบ้างเพื่อให้ได้เจอสังคมใหม่ ๆ การเข้าคอร์สเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อนำมาพัฒนางานที่ทำอยู่ การสร้างสังคมใหม่ๆ มีการพูดคุยบางครั้งอาจจะได้งานใหม่ ๆ มาก็ได้
- เรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ที่ฟรีแลนซ์ไม่มีเหมือนพนักงานประจำ เช่น สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันสังคม ซึ่งค่าเหล่านี้ผู้รับผิดชอบคือเราเองทั้งหมด รวมไปถึงเรื่องของการเสียภาษีด้วยที่เราจะต้องจัดการเองโดยที่ไม่มีฝ่ายบุคคลมาเกี่ยวข้อง
- เวลาทำงานที่ไม่มีความแน่นอน เพราะบางครั้งงานที่ด่วนมาก ๆ อาจจะต้องนั่งทำกันข้ามวันข้ามคืน บางคนรับงานมาล้นมือเกินที่ตัวเองจะทำไหวและต้องเร่งเพื่อให้งานเสร็จทันเวลา อาจจะทำให้งานออกมาไม่ดีได้เช่นกัน
- และเรื่องสุดท้ายคือ ไม่มีโบนัสหรือค่าตอบแทนอะไรในช่วงสิ้นปีเหมือนพนักงานประจำทั่วไป ที่นายจ้างจะมอบให้พนักงานทุกปีเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน ซึ่งโบนัสจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัท
การทำงานแบบฟรีแลนซ์ไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้ว่าไม่ต้องมีหัวหน้ามาคอยจี้มาคอยสั่งงาน แต่งานลักษณะนี้จะมีเวลาเป็นตัวกำหนดและควบคุมทุกอย่างของเรา รวมไปถึงลูกค้าด้วยที่คอยจี้เรื่องงานและตรวจสอบคุณภาพของงาน หากทำงานดีก็จะมีงานมาตลอด
อ่านเพิ่มเติม >> 7 ข้อต้องจำ ถ้าอยากทำ ฟรีแลนซ์ <<
แต่ไม่ใช่ว่าการทำงานแบบฟรีแลนซ์นั้นจะมองดูว่ายุ่งยากและไม่ดีเสมอไป ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับตัวผู้รับงานด้วยว่าตนเองนั้นสามารถที่จะรับงานได้มากน้อยเพียงได้ มีศักยภาพในการทำงานสูงเพียงใด เมื่อรู้เช่นนั้นก็สามารถที่จะประกอบอาชีพนี้ได้ อีกเรื่องที่สำคัญ คือ การวางแผนการทำงาน การใช้ชีวิตที่ดีก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ฟรีแลนซ์นั้นมีความสุขได้ เช่น วางรูปแบบการทำงานของตนเองว่า ใน 1วันสามารถที่จะทำงานได้ในปริมาณเท่าใด ควรพักผ่อนตอนไหน มีวันหยุดบ้าง สร้างหลักประกันให้ตัวเองด้านสุขภาพเมื่อมีเหตุเจ็บป่วยหรือจำเป็นจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะหาเงินจากที่ไหนมาสำรองจ่าย
การทำงานแบบนี้อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องรายได้บ้างแต่ก็ไม่เสมอไป เพียงแค่ก่อนการทำงานควรมีการจัดวางระบบแบบแผนให้ดี เท่านี้ชีวิตฟรีแลนซ์ก็มีความสุขแล้ว