บิล เกตส์ นักธุรกิจที่สร้างไมโครซอฟท์ ธุรกิจที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆของโลก บิล เกตส์ นั้นในวัยเด็กได้สร้างความสามารถของตัวเองจากโอกาสต่างๆที่เกิดขึ้น และที่สำคัญนั้น บิล เกตส์ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กพร้อมทั้งได้รับโอกาสต่างๆในการพัฒนาตั้วเองอย่างจริงจัง ถ้าใครหลายๆคนนั้นได้ศึกษาชีวิตในวัยเด็กของ บิล เกตส์ นั้น จะรู้ได้ว่า บิล เกตส์ นับได้ว่าเป็นเด็กคนหนึ่งที่โชคดีมากกว่าเด็กคนอื่นๆ อย่างน้อยๆนั้น บิล เกตส์ ก็ได้รู้ถึงความชอบของตัวเองและ บิล เกตส์ ได้เกิดในช่วงที่คอมพิวเตอร์นั้นยังไม่แพร่หลายเท่าไหร่ มีเพียงห้องสมุดของมหาลัยที่เปิดยี่สอบสี่ชั่วโมงเท่านั้นที่มีให้เปิดใช้ ทำให้ บิล เกตส์ นั้นพยายามที่จะตื่นเช้าๆเพื่อไปที่ห้องสมุดเพื่อแอบใช้คอมพิวเตอร์ตอนที่คนไม่มีและรีบกลับบ้านมานอนไม่ให้แม่สงสัย
แต่ถึงอย่างไรก็ตามในวัยเด็กนั้นเราไม่สามารถเปลี่ยนได้แต่เราสามารถเปลี่ยนอนาคตของตัวเองได้ เราสามารถนำความคิดของ บิล เกตส์ มาใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ดังนี้
หาคนมีความสามารถเข้ามาทำงาน
นับได้ว่าเป็นสิ่งพื้นฐานของหลายๆบริษัทเลยก็ว่าได้ เพราะทุกบริษัทหรือทุกธุรกิจนั้นล้วนต้องการคนที่มีความสามารถในการเข้ามาร่วมทำงาน ซึ่งคนที่มีความสามารถ คนที่มีความสามารถที่ บิล เกตส์ นั้นจ้างมาทำงานด้วย ล้วนมีความสามารถในการพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆ มีทักษะการคิดคำนวณ แต่ถึงอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของจำนวนบุคลากรในด้านปริมาณอยู่ตลอดเวลา แต่ลักษณะการทำงานของบริษัทไมโครซอฟท์นั้นกลับไม่เปลี่ยนแปลงเลย ซึ่ง เกรก มาเฟ ที่เป็นรองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของไมโครซอฟท์ได้กล่าว่า บริษัทไมโครซอฟท์นั้นเต็มไปด้วยความท้าทายต่างๆทางด้านสติ และด้านปัญญา และที่สำคัญนั้น บริษัทไมโครซอฟท์ เปรียบเสมือนกับการดื่มน้ำจากท่อดับเพลิง
สร้างบรรยากาศให้เข้ากับสิ่งที่ทำ
การที่เรานั้นอยากได้ความรู้สึกการเป็นโจรสลัดนั้น เราทุกคนล้วนต้องศึกษาสิ่งต่างๆเกี่ยวกับโจรสลัด แต่ถึงอย่างไรก็ตามวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้เรานั้นได้รับความรู้สึกการเป็นโจรสลัดนั้นก็คือการไปเที่ยวตามยังสถานที่ต่างๆที่เกี่ยวกับโจรสลัด ได้ล่องเรือหรือศึกษาประวัติเกี่ยวกับโจรสลัดโดยศึกษาโดยตรงกับของจริง เมื่อได้ความรู้สึกเหล่านั้นแล้ว เราก็สามารถเลียนแบบโจรสลัดหรือพยายามทำสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับโจรสลัดได้อย่างง่ายได้ หรือถ้าเรานั้นต้องการความรู้สึกสดชื่นเหมือนกับการอยู่ในป่านั้นเราอาจจะต้องเข้าป่าเพื่อสัมผัสความรู้สึกสดชาติอย่างแท้จริงหรือทำอย่างอื่นเพื่อที่เรานั้นจะได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่า เช่นเดียวกันกับบริษัทไมโครซอฟท์ บริษัทไมโครซอฟท์นั้นได้สร้างบรรยากาศที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ นับได้ว่าเป็นการสร้างศิลปะได้อย่างเหลือเชื่อ บริษัทไมโครซอฟท์นั้นได้รวมบรรยากาศและความรู้สึกของวิศวกรรมเข้าด้วยกัน ทำให้ทุกคนในองค์กรนั้นได้รู้สึกถึงซอฟท์แวร์ต่างๆ และสามารถทำสิ่งต่างๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ทีมเล็กๆ คนน้อยๆ สื่อสารกันอย่างทั่วถึง
การสื่อสารนั้นนับได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ในการทำงานร่วมกันในองค์กรเพื่อที่จะสื่อสารได้อย่างถูกต้องและสามารถทำงานได้อย่างเข้าใจกันทุกคน ซึ่ง บริษัทไมโครซอฟท์นั้นได้สร้างทีมต่างๆมากมายและที่สำคัญนั้น บริษัทไมโครซอฟท์นั้นได้จำกัดทีมในการทำงานต่างๆไว้ไม่ให้เกิน 35 คน อีกทั้งยังได้กล่าวอีกว่าเมื่อใดก็ตามที่บริษัทไมโครซอฟท์นั้นได้เติบโตขึ้น บริษัทไมโครซอฟท์ก็จะแยกทีมของตัวเองนั้นได้เป็น 35 คนเท่าเดิม ด้วยเหตุผลที่ว่า บริษัทไมโครซอฟท์ต้องการให้คนภายในองค์กรนั้นสามารถสื่อสารกันได้อย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพและที่สำคัญนั้นการที่มีทีมเล็กนั้น ทำให้ไม่ถูกกีดขวางในการทำงาน ลดระยะเวลาการทำงานต่างๆที่แตกต่างจากบริษัทที่มีทีมขนาดใหญ่ได้ ทำให้เรารู้ได้ว่า ทีมที่แข็งแกร่งนั้นสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่มและถึงทีมที่ธรรมดานั้นถึงแม้ว่าจะบริหารได้ดีเพียงใดก็ยังคงได้ผลงานที่ธรรมดา
ทุกอย่างนั้นต้องใช้เวลา ไม่เว้นแม้แต่ความคิด
เวลานั้นคือสิ่งพื้นฐานที่ทุกคนต้องมี และทุกคนนั้นต้องได้ใช้มัน ซึ่งสิ่งต่างๆนั้นล้วนต้องใช้เวลา และที่สำคัญบริษัทไมโครซอฟท์นั้นไม่ใช่เพียงบริษัทเดียวที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเวลานี้ ทุกบริษัทเลยก็ว่าได้ที่ให้ความสำคัญเพราะเวลานั้น ทำให้เราได้คิดและได้ตัดสินใจสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างถี่ถ้วน เราสามารถพิจารณาตัวเลือกต่างๆที่อยู่ตรงหน้าโดยใช้เวลาเป็นตัวช่วยในการพิจารณา อีกทั้งเวลานั้นยังมีส่วนช่วยในการสร้างสรรค์ผลงานได้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ
ตัดสินใจที่รวดเร็ว และลงมือทำอย่างรวดเร็ว
ความไวเป็นของปีศาจ นับเป็นคำที่ใครหลายๆคนนั้นได้ยินมาไม่น้อยหรือ น้ำขึ้นให้รีบตัก ความรวดเร็วที่กล่าวถึงนี้ไม่ใช่ความรวดเร็วในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ แต่เป็นความรวดเร็วในการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงพื้นที่ต่างๆรวมไปทั้งการตัดสินใจในการเลือกสิ่งที่มีความใกล้เคียงกัน มีคนจำนวนไม่น้อยที่มักจะลังเลเมื่อตัดสินใจเลือกสิ่งบางสิ่งจากสองสิ่งที่ใกล้เคียงที่ยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่ยิ่งตัดสินใจยากขึ้นเท่านั้น บริษัทไมโครซอฟท์นั้นได้เลือกที่จะลงมือตัดสินใจอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะตัดปัญหาเกี่ยวกับความลังเล และเมื่อใดก็ตามที่ได้ตัดสินใจแล้วนั้นก็พร้อมที่จะลงมือทำทันที เพราะเวลาที่เสียไปนั้นไม่สามารถนำกลับคืนมาได้