วันนี้เรามีเคล็ดลับมาบอกต่อๆกันนะคะ สำหรับผู้ที่กำลังตกอยู่ในความเครียด หรือความกังวลกับ การตกงาน เอ้า…ล่ะคะหมดเวลาที่คุณจะสร้างความเครียดเพื่อเป็นการตอกย้ำตัวเองกันแล้วนะคะ จะมานั่งมัวแต่สร้างความกดดันหรือสร้างบรรยากาศ ความรู้สึกให้ตัวเองดูแย่ขึ้นมาอีกกันทำไมล่ะคะ ในวินาทีนี้สบายใจได้เลยว่าไม่มีใครที่สมน้ำหน้าคุณหรอก ดีเสียอีกคุณจะได้เปลี่ยนงานได้ทดลองที่จะทำงานใหม่ๆดูบ้าง คิดเพียงแค่ว่า งานที่ทำอยู่นั้นน่าเบื่อจะตาย ออกมาก็ดีเหมือนกัน บางทีอาจเจองานที่ตรงต่อความชอบของเราก็ว่าได้ มาดูการทำตัวให้สบายๆชิวๆให้ตัวเองมีความสุขที่สุดในช่วงวันว่างแบบนี้กันนะคะ
1. ก่อนอื่นเลยคุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องสร้างเกราะคุ้มกัน ทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองมีความสุขที่สุดในช่วงเวลานี้ อย่าคิดว่าการถูกไล่ออกเป็นเรื่องเลวร้ายที่คุณต้องพบเจออยู่คนเดียว เพราะชีวิตเราไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ ไปซะหมด ยังไงมันก็ต้องมีเรื่องร้ายๆ เข้ามาเพิ่มสีสันและความสมดุลให้ชีวิตบ้างแหละ ดังนั้น มองว่ามันเป็นบทเรียนอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เราเข้มแข็งขึ้นจะดีกว่านะ อีกอย่างใช่ว่าคุณเป็นคนเดียวในโลกที่โดนไล่ออกซะเมื่อไหร่ คนอื่นๆ ที่เคยเจอเรื่องแบบนี้มีออกเยอะแยะไป พวกเขายังฝ่าฟันจนผ่านมันไปได้เลย แล้วทำไมคุณจะทำอย่างเขาไม่ได้ล่ะ ในเมื่อตัวคุณเองก็รู้ดีว่าถ้าพยายามจริงๆ แล้ว คุณเองก็เข้มแข็งไม่แพ้ใครได้เหมือนกัน
2. หากวันหนึ่งต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไร้งานจริงๆนั้น คุณอย่าเป็นอันขาดเลยนะคะ ที่จะโทษคนอื่นเพราะถึงยังไงมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย มีแต่จะสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นไปอีก การที่คุณปกป้องตัวเองด้วยการโทษคนอื่นเอาไว้ก่อนไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย มันยิ่งจะทำให้คุณทำผิดแบบเดิมซ้ำ ๆ เสียเปล่า ๆ แถมยังกลายเป็นการฝึกนิสัยไม่ยอมรับความจริงจนเคยตัวอีกด้วย ดังนั้นอย่าตั้งแง่โยนความผิดให้คนอื่นเอาไว้ก่อน แล้วหันมามองทุกอย่างให้เป็นกลางจะดีกว่า คุณจะได้เรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเองจนกลายเป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นยังไงล่ะ
3. จะเครียดให้สภาพจิตใจย่ำแย่เข้าไปอีกทำไมล่ะคะ จริงอยู่ว่าช่วงเวลาแบบนี้หลาย ๆ คนคงอดเครียดไม่ได้ แต่ในเมื่อคุณไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว ก็ควรปล่อยวางซะบ้างและหาเรื่องสนุก ๆ ทำดีกว่า จะได้ไม่หมกมุ่นจนเกินไปยังไงล่ะ ซึ่งคุณอาจถือโอกาสนี้ใช้เวลาที่มีอยู่ไปหาคอร์สสั้น ๆ เรียนเรื่องที่ตัวเองสนใจดูก็ได้นะ อาจช่วยให้คุณได้พบความสารใหม่ ๆ ที่ตัวเองไม่เคยรู้ก็ได้ และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ในเวลาแย่ ๆ แบบนี้ก็คือ เพื่อน ๆ และครอบครัวของเรา ซึ่งจะช่วยเป็นกำลังใจให้ในเวลาที่เราต้องการผ่านเรื่องร้าย ๆ ไปให้ได้นี่แหละ ดังนั้น อย่าลืมนัดพวกเขาออกมาเจอกันบ้างล่ะ
4. จัดการกับการเงินให้ดี และควรที่จะจัดสรปันส่วนให้เหมาะสม ทางที่ดี คือ การที่คุณไม่สร้างภาระเพิ่มโดยการถลุงเงินใช้อย่างกระหน่ำเพียงเพื่อประชดชีวิตเด็ดขาดบอกไว้เลยว่ามันไม่คุ้มเอาเสียหรอกหากถึงเวลาที่คุณไม่เหลืออะไรเลย ต่อให้อยากคลายเครียดแค่ไหน ก็อย่าเพิ่งใช้เงินเป็นว่าเล่นจนหมดไปซะก่อนล่ะ เพราะคุณยังไม่รู้จะได้งานใหม่เมื่อไหร่ ถ้าหากเงินช็อตขึ้นมาซะก่อน คงยุ่งยากมากเลยทีเดียว คุณจึงควรวางแผนการใช้เงินให้รอบคอบมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น จำไว้ด้วยว่าคุณควรศึกษารายได้ชดเชยและผลประโยชน์ที่คุณควรได้รับจากบริษัทเก่าให้ละเอียดด้วย จะได้เงินมาใช้ครบถ้วนและไม่ต้องมาถูกโกงไปอย่างน่าเสียดายนั่นเอง เป็นสิทธิประโยชน์ที่คุณควรจะได้รับนั่นเองค่ะ
5. สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องทำ นั่นคือ การที่คุณจะต้องสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง ดังนั้น จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมองหางานใหม่ เพราะไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องมองหางานใหม่อยู่ดี ไม่อย่างนั้นจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะ..จริงไหม? ซึ่งงานที่คุณกำลังมองหานั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นงานสายเดิมเท่านั้นหรอก ถ้าระหว่างที่พักอยู่คุณเกิดพบว่าตัวเองมีความฝันอยากทำอย่างอื่นมากกว่างานแบบเดิม ๆ ก็อย่าลังเลที่จะเบนเข็มไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะไม่แน่ นี่อาจเป็นโอกาสให้คุณได้ทำสิ่งที่เหมาะกับตัวเองมากกว่าและก้าวหน้ายิ่งขึ้นกว่าเดิมก็ได้ ใครจะไปรู้
ทั้งนี้ คุณควรจำไว้ว่า การตกงาน เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยในชีวิตเท่านั้น ที่วันหนึ่งเมื่อมองกลับมาคุณอาจนึกขำตัวเองที่ซึมเศร้าเกินเหตุกับเรื่องแค่นี้ก็เป็นได้ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้มันมาทำลายความมั่นใจของคุณเด็ดขาดนะ เพราะชีวิตยังมีเรื่องให้ต้องเผชิญอีกมาก คิดเพียงแต่ว่าการที่เราได้ออกจากงานเก่า เป็นการเปลี่ยนงานและเป็นประสบการณ์ชีวิตในการที่คุณจะเลือกทำงานได้อย่างตรงใจและอาจดีขึ้นกว่าเดิมเลยก็ได้