การตั้งหน้าตั้งตาทำงานในแต่ละวันของมนุษย์เงินเดือนเพื่อเป้าหมายที่จะมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามแก่เฒ่า และเพื่อที่สร้างเนื้อสร้างตัว ปรารถนาที่อยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่นและสุขสบาย แต่สิ่งที่เรามนุษย์เงินเดือนต่างปรารถนานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากเราไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม ก็ต้องปากกัดตีนทีบ การที่เราจะมีรายได้และสร้างฐานะขึ้นมาได้ ก็ต้องพบเจออุปสรรคขวางหนาม ความเหน็ดเหนื่อยในแต่ละวัน แต่สิ่งเหล่านี้ปลายทางผลที่ออกมาก็ คือความก้าวหน้าในอาชีพและการเงิน แต่ในส่วนของเงินเก็บละ คุณเคยนึกถึงตรงนี้บ้างหรือไม่
ผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนๆ ถามเพื่อนประมาณ 5-6 คน ว่ามีวิธีเก็บเงินกันอย่างไรบ้าง ทุกคนต่างทำหน้าเลิกลัก งงกับคำถาม บางคนก็ตอบกลับมาว่า “เหลือก็เก็บ” “ไม่สนใจเก็บ เพราะอายุยังน้อยมีเวลาทำงานหาเงินอีกเยอะ” “ใช้จ่ายหาความสุขก่อนดีกว่า” รออายุซัก 40 ปี แล้วค่อยเก็บเงินก็ไม่สาย
จากคำตอบของเพื่อนผู้เขียน ก็ทำให้ผู้เขียนเริ่มสงสัยแล้วว่า ในปัจจุบันความเข้าใจในเรื่องของการออมสำหรับวัยทำงานทำไมถึงน้อย เพราะแต่ละคนมีความเข้าใจเพียงแค่ เหลือก็เก็บ ยังไม่ถึงเวลาต้องเก็บ ซึ่งความคิดแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก เพราะหากเราคิดว่าปัจจุบันหน้าที่การงานก็โอเค ไม่มีเรื่องเดือดร้อน แต่ถ้าวันหนึ่งคุณตกงาน หรือมีเรื่องที่ต้องใช้เงินด่วน คุณจะทำอย่างไร????
จากที่กล่าวมาข้างต้น อยากจะยํ้าเตือนผู้อ่านทุกคนที่มีความคิดเช่นนี้ ให้เปลี่ยนวิธีใหม่ หันมาเริ่มต้นที่จะออมวันนี้เพื่อที่จะรวยในวันหน้าดีกว่า แล้วทำอย่างไรถึงจะรวยในวันหน้าได้ ทั้งที่ก็ทำงานทุกวัน เงินเดือนก็เหลือไม่พอใช้อยู่แล้ว เรามีวิธีมานำเสนอเพื่อเป็นแนวทางไปปฎิบัติ
-
เริ่มต้นจากการออม
การออมอาจจะไม่ได้เรื่องใหม่สำหรับคุณ แต่ทุกวันนี้คุณออมผิดวิธีอยู่หรือเปล่า? เช่น เหลือแล้วค่อยออม หรือ ออมเดือนเว้นเดือน หากเป็นเช่นนั้น คุณกำลังเข้าใจการออมที่ผิด การออมที่ถูกต้อง คือ การออมเท่าๆกันในทุกเดือน เมื่อคุณได้รับเงินเดือนมาในแต่ละเดือนให้ตั้งใจทันทีหักออกมา 10% ของรายได้ในแต่ละเดือน เช่น เงินเดือนคุณมี 20,000 บาท ให้หักออกมา 2,000 บาท แล้วนำเงินไปฝากไว้อีก บัญชี โดยไม่ต้องสมัครบัตร ATM
จากเงินออม 10% ให้ตั้งเป้าเก็บเป็นระยะเวลา 2 ปี ลองคำนวณดูว่าถ้าคุณเก็บเดือนละ 2,000 x 24 เดือน = 48,000 บาท (ถ้าเงินเดือนมากกว่านี้ เงินคำนวณก็จะมากกว่านี้ )
-
ซื้อกองทุนรวมหรือหุ้น
จากข้างต้น เมื่อคุณได้ทำการเก็บเงินไว้แล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี ให้นำเงินก้อนนั้นไปลงทุนต่อในกองทุนรวม ซื้อการลงทุนในกองทุนรวมนั้นจะมีความเสี่ยงที่ตํ่ากว่าการนำเงินไปลงทุนในหุ้น แต่ถ้าคุณมีความเชี่ยวชาญด้านหุ้นก็สามารถที่จะทำการซื้อหุ้นได้ แต่เทคนิคเล็กที่สำคัญของการซื้อกองทุนรวมหรือซื้อหุ้น คือ การซื้อแบบเฉลี่ย (Dollar Cost Average) โดยการนำเงินก้อนที่มีเฉลี่ยออกมาซื้อ อย่าทำการซื้อแบบก้อนเดียวจบ เพราะราคาของหุ้นหรือกองทุนมีขึ้นลงตลอด และจังหวะที่เหมาะสำหรับการเข้าซื้อ คือการเข้าซื้อในจังหวะที่ตลาดหุ้นลง จึงค่อยเข้าซื้อ และในแต่ละเดือนก็ซื้อตามปรกติด้วยเท่าๆกันทุกเดือนโดยไม่ต้องสนใจราคาหุ้นในวันนั้น เพราะการซื้อแบบนี้เพื่อผลระยะยาว จึงเปรียบเหมือนกับการนำเงินออมมาออมในหุ้นนั้นเอง และผลที่ได้รับจะออกดอกผลอย่างมากเลยทีเดียว
-
มีเป้าหมายชัดเจน
ทุกคนอยากรวย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรวยได้ คนที่รวยได้ไม่ใช่เพียงแค่เก่ง แต่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เป้าหมายในการบริหารการเงิน ไม่เสียเงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือหากจะต้องซื้อของที่ไม่จำเป็นก็จะรู้เรื่องของความคุ่มค่าในระยะยาว ดังนั้น เป้าหมายสำหรับผู้ที่ทำงานหรือมนุษย์เงินเดือนในเวลานี้ ควรจะเป็นเป้าหมายในเรื่องของการออมเงิน อาจจะตั้งเป้าหมายว่าในอีก 5 ปีต่อจากนี้จะมีเงิน 1 ล้านบาท หรือมีเป้าหมายที่จะซื้อบ้านแต่งงาน เป็นต้น เมื่อเรามีเป้าหมายจะทำให้เราชัดเจนและมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ ไม่ใช่การทำไปแบบไม่มีเป้าหมาย
จากที่กล่าวมาทั้ง 3 ขั้นตอน อาจจะไม่่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่เพื่อต้องการยํ้าให้ผู้อ่านได้ตระหนักว่าการออมนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ อย่ารอ สามารถเริ่มออมได้เลยวันนี้ ไม่จำเป็นต้องรอจนอายุ 40 แล้วค่อยออม เพราะเวลานั้นอาจจะไม่มาถึงก็ได้ ด้วยความปรารถนาดีจากผู้เขียนที่อยากให้สมาชิกได้ออมและรวยๆกันทุกคน หรือใครทีเทคนิคอะไรดีๆก็แบ่งปันกันได้นะครับ