การลงทุนในชีวิตคนเรานั้น มีด้วยกันอยู่หลายวิธีค่ะ และถ้าจะถามหาการลงทุนเพื่อตัวเองที่คุ้มค่ามากที่สุด ก็ต้องยกให้กับการลงทุนด้านการพัฒนาตัวเอง นั่นก็คือ การลงทุนเพื่อการศึกษาค่ะ เหมือนอย่างที่มีคำสอนตั้งแต่โบราณมาแล้วว่า ถ้าเราจับปลาให้เขากิน เขาก็จะอิ่มท้องในวันนี้ แต่ถ้าเราสอนวิธีจับปลาให้เขารู้ เขาก็จะมีปลาให้กินอิ่มท้องไปตลอดค่ะ เพราะคนรานั้น ถ้ารู้จักเพิ่มพูนความรู้ คน ๆ นั้นก็ไม่มีวันที่จะอดตายหรอกค่ะ ดังนั้นการศึกษาจึงเป็นรากฐานของอนาคตที่สำคัญมาก ๆ และไม่ใช่ทุกคนหรอกนะคะที่จะสามารถเข้าเรียนได้ตามที่ต้องการ คนบางคนที่ อยากเรียนต่อ ก็ไม่มีทุนมากพอที่จะส่งตัวเอง หรือ คนที่เขารักให้ได้มีการศึกษาสูง ๆ ค่ะ และจุดนี้นี่เอง ทำให้สถาบันการเงินบางแห่งออก “สินเชื่อเพื่อการศึกษา” เพื่อให้คุณ ๆ ที่ต้องการเรียนได้มีโอกาสหาความรู้เพิ่มขึ้นอย่างที่ต้องการค่ะ
สินเชื่อเพื่อการศึกษา นั้น มีทั้งสำหรับการศึกษาภายในประเทศ และสำหรับการศึกษาต่อที่ต่างประเทศค่ะ จึงขอไล่เรียงไปตามตัวอักษรชื่อของธนาคารก็แล้วกันนะคะ เริ่มกันที่ธนาคารกรุงไทย ที่มาพร้อมกับโครงการดี ๆ อย่าง
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อศึกษา (กยศ.)
ผู้กู้ต้องมีสัญชาติไทย และรายได้ครอบครัวน้อยกว่า 200,000 บาทต่อปีค่ะ ผู้กู้สามารถนำเงินจากกองทุนไปใช้เพื่อการศึกษาต่อตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา, ระดับอุดมศึกษา และ ระดับอาชีวศึกษา ค่ะ โดยแต่ละระดับมีการคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปีเท่านั้นค่ะ ซึ่งวงเงินนั้นก็ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การศึกษาของแต่ละสถาบัน นอกจากค่าเทอมที่ผู้กู้จะได้รับแล้ว ในกองทุนนี้ ผู้กู้ยังจะได้รับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนให้อีกด้วยค่ะ ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของเงินกองทุนนี้ก็คือ เมื่อผู้กู้จบการศึกษาไปแล้วจะได้สิทธิยกเว้นการผ่อนชำระไป 2 ปีก่อนค่ะ หลังจากนั้นค่อยมาผ่อนชำระโดยให้ระยะเวลาทั้งหมด 15 ปีค่ะ แต่ถ้าผู้กู้มีกำลังทุนทรัพย์ไหวก็ผ่อนจ่ายให้หมดก่อน 15 ปีก็ได้เช่นกันนะคะ หรือจะเป็น สินเชื่อเพื่อการศึกษา ในประเทศ ที่ผู้กู้นั้นเป็นผู้ที่ทำงานแล้ว, มีรายได้แน่นอน หรือ มีธุรกิจของตัวเอง และไม่มีประวัติผิดนัดชำระหนี้ สามารถขอกู้สินเชื่อนี้ได้เช่นกันค่ะ แต่อัตราดอกเบี้ยจะคิดต่างกันนะคะ อย่างสมมติว่า
- มีบุคคลมาค้ำประกันคิดอัตราดอกเบี้ยที่ MOR +3%
- แต่ถ้าใช้เป็นหลักทรัพย์มาค้ำประกันอัตราดอกเบี้ยก็จะอยู่ที่ MRR -0.75% หรือ
- ถ้าเป็นการจำนำเงินฝาก อัตราดอกเบี้ยก็จะเปลี่ยนเป็นตามดอกเบี้ยเงินฝาก + 2% ค่ะ
และถ้าเป็นการกู้เพื่อการศึกษาในภาควิชาปกติ ก็จะได้รับวงเงินเต็มจำนวน แต่ถ้าเป็นการกู้เพื่อการศึกษาภาควิชาอินเตอร์ ก็จะได้รับวงเงินกู้ไม่เกิน 300,000 บาทค่ะ ในส่วนของระยะเวลาผ่อนชำระนั้น ก็จะกำหนดใหชำระคืนภายใน 10 ปีนับจากวันที่เบิกเงินออกไปใช้จ่ายงวดแรกค่ะ แต่ถ้าคุณ ๆ สนใจกู้เงินไปเพื่อศึกษาต่อต่างประเทศ อันนี้ก็ต้องผ่านคุณสมบัติหลาบข้อหน่อยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเดือนต้องรับผ่านทางธนาคารกรุงไทย, เป็นสมาชิกของสมาคมการศึกษานานาชาติที่ธนาคารเห็นชอบ เป็นต้นค่ะ โดยอัตราดอกเบี้ยนั้นก็อิงไปกับอัตราดอกเบี้ยเดียวกันกับการศึกษาในประเทศนั่นเองค่ะ เพียงแต่วงเงินกู้ที่อนุมัตินั้น จะเป็นวงเงินตามค่าใช้จ่ายโดยประมาณที่เกิดขึ้นจริง และกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระเท่ากันคือ 10 ปีนับจากวันที่เบิกเงินก้อนแรกออกมาค่ะ
ส่วนธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ที่มีข้อเสนอ สินเชื่อการศึกษา ก็มีทั้ง ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารธนชาติ และ ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ค่ะ อย่างเช่น
สินเชื่อบุคคลเพื่อการศึกษากสิกรไทย นั้น ก็จะดูคุณสมบัติผู้กู้ที่มีรายได้ประจำแล้วและต้องทำงานไม่น้อยกว่า 1 ปีขึ้นไปด้วยค่ะ หรือ ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็ต้องดำเนินกิจการมาไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไปค่ะ โดยคิดอัตราดอกเบี้ย
- สำหรับมหาวิทยาลัยรัฐอยู่ที่ MRR + 2%
- แต่ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฎก็จะคิดอัตราดอกเบี้ยที่ MRR + 4%
และไม่ได้ให้เต็มวงเงินนะคะ ให้กู้เพียง 80% ของค่าใช้จ่าย หรือไม่เกิน 750,000 บาทเท่านั้นค่ะ ส่วนเรื่องการผ่อนชำระก็กำหนดให้ชำระคืนภายในระยะเวลา 5 – 7 ปีหลังจากที่เบิกเงินก้อนแรกออกมาค่ะ มาดูกันต่อที่ธนาคารธนชาติ ซึ่งเป็น สินเชื่อเพื่อการศึกษา Flash Scholar ออกแบบมาสำหรับการศึกษาต่อปริญญาโท และ ระดับปริญญาเอกเท่านั้นค่ะ ผู้ขอกู้จำเป็นต้องมีรายได้ประจำมากกว่า 15,000 บาทต่อเดือน และมีอายุการทำงานมานานกว่า 1 ปีขึ้นไป หรือ ถ้าทำธุรกิจส่วนตัวก็ต้องทำมานานกว่า 2 ปีขึ้นไปค่ะ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ MLR + 4% ค่ะ ซึ่งสินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้เต็มจำนวน 100% ของค่าศึกษาตามหลักสูตรนะคะ หรืออย่างน้อย ๆ ก็ 100,000 บาทและสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทค่ะ ในเรื่องของระยะเวลาการผ่อนชำระนั้นก็ให้ผ่อนจ่ายได้ทั้งหมด 8 ปีนับจากวันแรกที่เบิกเงินออกไปเหมือนกันค่ะ
แต่ถ้าเป็นสินเชื่อเพื่อการศึกษาของ LH แบงก์นั้น ก็จะให้ใช้สำหรับการศึกษาทุกระดับชั้น จะเป็นหลักสูตรระยะสั้น ๆ หรือ เป็นการศึกษาต่อระดับปริญญาโท หรือ จะเป็นการศึกษาต่อในต่างประเทศก็สามารถยื่นขอได้ทั้งหมดค่ะ โดยผู้กู้จะต้องมีรายได้ประจำและใช้หนังสือรับรองเงินเดือนมาประกอบการพิจารณาและต้องใช้คู่ไปกับหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วยเท่านั้นค่ะ เช่น บัญชีเงินฝาก หรือ อสังหาริมทรัพย์ก็ได้ค่ะ โดยการให้วงเงินก็ขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์นั่นเองค่ะ แต่ขั้นต่ำสุดก็ไม่เกิน 1 ล้านบาทนะคะ
ใครสนใจหรือสินเชื่อของที่ไหนตรงกับโจทย์ของคุณมากที่สุด ก็เดินหน้าไปสอบถามเพิ่มเติมกันเลยค่ะ เพราะการศึกษาก็คือการหว่านเมล็ดพันธุ์ดี ๆ ที่มักจะให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด แต่ที่แน่ ๆ อีกอย่างก็คือทุกการหว่านย่อมมีผลให้เราชื่นชมค่ะ