สำหรับวันนี้เรื่องราวเกี่ยวกับเงินๆทองๆที่เรานั้นจะหยิบมาอัพเดตกัน เราจะมาพูดถึงเงินของ มนุษย์เงินเดือน ในปัจจุบันค่ะ
สำหรับ มนุษย์เงินเดือน เองนั้นเรียกได้ว่าก็ไม่ต่างอะไรจากมดงานสักเท่าไหร่ เพราะว่าวันๆนั้นต้องทำงานแลกกับเงิน แต่ถ้าเปรียบเทียบกับมดงาน มดงานนั้นทำงานเพื่อให้มีที่พักที่อยู่อาศัยเพื่อให้อยู่ร่วมกันกับฝูงของตัวเองได้และเพื่อให้ได้มีอาหารการกิน แต่มนุษย์นั้นแตกต่าง มนุษย์ทำงานเพื่อให้ได้เงินสำหรับไว้ใช้จ่าย
ในปัจจุบันนั้น มีพนักงานเงินเดือนมากกว่า เจ้าของธุรกิจหรืออาชีพอื่นๆมากกว่า 75% เสียอีกเพราะว่า การทำงานเป็น มนุษย์เงินเดือน หรือ เงินบริษัทนั้น ในความคิดอาจจะคิดว่ามันมั่นคงมากเกินพอแล้วแต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีงานไหนที่มั่นคงหรอก คนที่มั่นคงจริงๆคือคนที่ไม่ต้องทำงานก็อยู่ได้โดยมีเงินใช้แบบไม่เป็นเดือดเป็นร้อนหรือรู้สึกทุกข์ร้อนอะไร หรือที่เรียกว่าวัยเกษียณอายุนั่นเอง
มนุษย์เงินเดือน นั้นมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป อัตราเงินเดือนนั้นก็แตกต่างกันมากด้วย ซึ่งถ้าไม่มีรูปแบบการบริหารหรือการจัดการให้ดีในแบบของตัวเองและคิดตรึกตรองก่อนจะซื้อให้ดีรับรองได้เลยว่า มีแต่ผลเสียอย่างแน่นอนเพราะสมัยนี้ คนเรานั้นมักจะมัวหลงงมงายอยู่กับกิเลส และสิ่งของสวยๆงามๆที่ล่อตาล่อใจอยู่เสมอๆ โดยบางทีนั้นก็มักจะลืมคิดไปถึงความคุ้มค่า และประโยชน์ที่ได้รับจากสิ่งนั้นๆด้วยซ้ำไป เพราะว่าความสุขเพราะว่าสุขที่ได้ใช้เงินได้ซื้อสิ่งต่างๆที่ตัวเองอยากจะซื้อได้ซื้อสิ่งต่างๆที่ตัวเองอยากจะได้ ซึ่งนั่นมันก็ถือว่าเป็นหนึ่งรูปแบบของคำว่า ฟุ่มเฟือยดีๆนี่เองเงินนั้นสามารถซื้อได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการ
เพราะฉะนั้นคนจึงเลือกที่จะ ทำงานเพื่อให้ได้เงินมาตอบสนองความต้องการของตัวเอง อยากจะได้บ้านได้รถอยากจะได้ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างก็ซื้อมาได้ด้วยเงิน ในโลกใบนี้ เราสามารถซื้อสิ่งของตามร้านค้า อาหารการกิน ข้าวของเครื่องใช้ยานพาหนะหรืออื่นๆอีกมากมาย ก็ต้องใช้เงินทั้งนั้นซึ่งแต่ก่อนมันไม่ได้มีอัตราการแลกเปลี่ยนแบบนี้ซึ่งมาเปลี่ยนในช่วงยุครัชกาลนี่เอง ซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบความคิดทีควรจะบอกว่าดีหรือว่าไม่ดีก็ไม่รู้เพราะว่าการมีเงินนั้นมันยิ่งสร้างกิเลสให้กับมนุษย์ ยิ่งโลกพัฒนาก็ยิ่งมีของสวยๆงามๆมาล่อตาล่อใจมากมาย
บางทีคุณเคยคิดไหมว่าถ้าหากย้อนเวลาได้อยากจะย้อนให้โลกนี้ไม่มีการพัฒนาโลกนี้ไม่มี กิเลส ไม่ยากค่ะ รถยนต์ก็สร้างมันรุ่นเดียวให้มันเลยสีเดียว บ้านทำมันสีเดียวแบบเดียวหมด ข้าวของเครื่องใช้ไม่มีมีแบบเดียวใส่แบบไหนแบบนั้น มีอาชีพอยู่สองอาชีพบนโลกคือ ประมงและเกษตรคุณคิดว่าเป็นไงค่ะ จะดีกว่าไหม ถ้าสร้างโลกเองได้คงจะสร้างกันไปนานแล้วโลกของตัวเองเพราะทุกวันนี้โลกเรามันมีการพัฒนาจึงเปลี่ยนมุมมองความคิดและแง่ของความคิดคนไปกันหมด คนที่ คิดดีก็หาว่าโลกสวย คนที่คิดลบก็หาว่าคิดแต่ลบๆ ไม่เคยมองโลกในแง่ดี จริงๆแล้วความคิดมันเป็นเรื่องส่วนตัวค่ะแต่ก็ควรจะ คิดต่างดีกว่าเพราะว่า ทุกๆวันนี้สถานการณ์โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว จะบอกว่าสงบสุขก็ไม่ได้เพราะเรายังสามัคคีกันไม่ได้เลยก็ยังเห็นมียกพวกมาประท้วงบ้างตีกันบ้างเยอะแยะไป แล้วแบบนี้ในอนาคตเราจะรวมเป็นอาเซียนได้อย่างไร
สมัยนี้ยิ่งยุคกาลเวลาผ่านไป ชาวต่างชาติเข้ามาเมืองไทยงานยิ่งหายากมากขึ้นอีกหน่อยอนาคตเชื่อไหมค่ะว่า ค่าก๋วยเตี๋ยวชามนึงคงราคาชามละ 80 แน่นอนเพราะ สมัยก่อนก๋วยเตี๋ยวชามนึงแค่ 30 – 35 บาทเดี๋ยวนี้ราคาขึ้นเป็น 40 – 50 บาทแล้ว แล้วแบบนี้ในอนาคตจะไม่ชามละ 80 บาทเลยหรอเนี่ย เวลาจะคิดอะไรต้องลองมองย้อนคิดและมองแตกต่างดูค่ะแล้วคุณจะเจอสิ่งที่คุณมองข้ามไม่เคยคิดและจะย้อนกลับมามองและถามตัวเองว่า เฮ้ย!!! ทุกวันนี้ตูอยู่ในสถานะอะไรว่ะ
ทุกๆวันนี้ใช้ชีวิตไปวันๆ เพื่อให้ได้เงินมารึเปล่า เวลามาเงินมีความสุขมากน้อยแค่ไหนความสุขชั่วคราวรึเปล่า แล้วความสุขที่แท้จริงนั้นมันคืออะไร
จริงแล้วคุณนั้นเคยมีคำตอบของคำว่าความสุขที่แท้จริงอยู่แล้ว แต่มันจะมาพักๆเท่านั้นเองเพราะความสุขจากการเงินนั้นมันมีมากกว่า เพราะฉะนั้นจงตามหาความสุขที่แท้จริงของตัวเองซะนะคะ แล้วคุณจะพบได้ว่าเงินนั้นอาจจะไม่ใช่คำตอบของความสุขเสมอๆไป
ที่สำคัญควรจะห่วงสุขภาพของตัวเองด้วย เพราะว่าสุขภาพของตัวเราเองนี่แหลที่เป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่าทางกายและจิตใจมากที่สุดอย่างที่เขาเคยกล่าวกันไว้ว่า สุขภาพร่างกายนั้นมีค่ายิ่งกว่าเงินทอง เพราะฉะนั้นการที่มีสุขภาพดีนั้นถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐสุดๆแล้ว มีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดเสียอีกดังนั้นเราควรจะรักสุขภาพและใส่ใจดูแลห่วงใยสุขภาพร่างกายของเราด้วยสุขภาพร่างกายไม่ใช่อยู่กับเราวันสองวัน หรือว่าคิดว่าจะใช้ในวันนี้เออ……พรุ่งนี้ไม่ใช้ละ มันไม่ได้มันต้องใช้ตราบเท่าชีวิต
เพราะฉะนั้นสุขภาพร่างกายนั้นจึงจำเป็นจะต้องแข่งแรงและมีสุขภาพที่ดีอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่มีสุขภาพที่แข็งแรงคุณก็หาเงินไม่ได้ ทำมาหากินอะไรไม่ๆได้มีแต่รอวันตายเพราะฉะนั้นต้องห่วงสุขภาพร่างกายของตัวเราเองด้วยเช่นกัน