การทำเป็นประชีวิตในปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่หลายคนเริ่มให้ความสนใจ ด้วยปัจจัยของสภาพสังคมและความเป็นอยู่ของธรรมชาติมนุษย์นั้นสั้นลง การทำประกันชีวิตจึงเป็นทางเลือกเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และเพื่อเป็นหลักประกันให้กับผู้ที่อยู่ข้างหลัง ไม่ว่าจะ เป็นภรรยา ลูก หรือคนใกล้ชิด เป็นต้น
แต่หลายคนยังสงสัยว่าควรจะเลือกทำประกันชีวิตในรูปแบบไหนดีเพื่อให้เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งการจะเลือกทำประกันชีวิตจะต้องดูปัจจัยหลายๆอย่างเป็นส่วนประกอบ และความเหมาะสมกับตัวเอง โดยแบ่งได้ดังนี้
ประกันชีวิตแบบคุ้มครอง เบี้ยประกันตํ่า
หากผู้ซื้อประกันต้องทำการที่เสี่ยงภัยหรือเดินทางบ่อย ควรทำการเลือกประเภทประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance) ซึ่งจุดเด่นของประกันชีิสตประเภทนี้ คือ บริษัทประกันจะจ่ายเงินในกรณีเดียว คือ ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาของสัญญา โดยจำทการจ่ายค่าชดเฉยให้กับผู้ที่รับประโยชน์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิต หากแต่ในกรณีที่สัญญาครบกำหนดแล้ว ผู้เอาประกันภัยยังคงมีชีวิตอยู่ ผู้เอาประกันภัยจะไม่ได้รับเงินใดๆคืนจากบริษัทประกัน ระยะเวลาของสัญญาอาจกำหนดเป็นจำนวนปี ขึ้นอยู่กับความเสี่ยง เช่น 1 ปี 5 ปี 10 ปี 20 ปี หรือกำหนดอายุที่คุ้มครองของผู้เอาประกันภัย เช่น คุ้มครองจนกว่าผู้เอาประกันภัยจะมีอายุครบ 60 ปี เป็นต้น
โดยจุดเด่นอีกประการ คือ ผู้ที่มีหนี้สินควรทำประกันรูปแบบนี้ โดยให้เงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับครอบคลุมจำนวนหนี้สิน เพราะหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตลง เงินที่ได้รับจากบริษัทประกันจะช่วยชำระคืนหนี้สินเหล่านั้นได้ ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาถือว่าเป็นประกันที่ทำเพื่อครอบครัวหรือคนที่รัก ในกรณีที่ท่านจากไปจะได้มีเงินก้อนให้คนที่อยู่ข้างหลังไม่ต้องเดือดร้อนมากนักต่อการต้องแบกภาระหนึ้สิน
ประกันชีวิตเพื่อครอบครัว
กรณีที่ผู้ต้องการซื้อประกันชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครัว ควรทำการเลือกประกันแบบตลอดชีพ (Whole life insurance) ซึ่งประกันชีวิตรูปแบบนี้ช่วยให้ความคุ้มครองชีวิตของผู้เอาประกันภัยเพียงอย่างเดียว ลักษณะของประกันจะเหมือนกับประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา แต่ความคุ้มครองจะมีตลอดชีวิตของผู้เอาประกันภัย หมายความว่า ถ้าผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม บริษัทประกันจะจ่ายเงินหรือผลประโยชน์เท่ากับจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์
ประกันแบบออม หรือสะสมทรัพย์
สำหรับผู้ที่นิยมการออมและเพิ่มความคุ้มครองด้วย ควรเลือกประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance) ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับการฝากเงิน ประกันชีวิตรูปแบบนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากบริษัทประกันจะจ่ายเงินหรือผลประโยชน์ทั้งในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา และกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตก่อนครบกำหนดสัญญา โดยหากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา เงินก้อนที่ได้รับคืนมาจะเสมือนเป็นเงินออมที่ผู้ซื้อประกันได้ทำการเก็บสะสมไว้ แต่หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาของสัญญา บริษัทประกันจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับประโยชน์
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ การเลือกประกันชีวิต นั้น ต้องพิจารณาว่าต้องการทำประกันเพื่อวัตถุประสงค์ใด เนื่องจากประกันชีวิตในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีเงื่อนไขและให้ความคุ้มครองชีวิตที่แตกต่างกัน การศึกษาถึงรายละเอียดของประกันแต่ละรูปแบบจึงมีความสำคัญ เพื่อจะสามารถเลือกรูปแบบประกันชีวิตได้เหมาะกับตัวเอง
เข้าใจเรื่องประกันดีแล้ว อยากรวยหลังเกษียณ กับประกัน >> คลิกเลย
