การเดินทางในต่างแดนเป็นเรื่องที่ทุกคนคาดหวังประสบการณ์ที่ดีและเก็บเกี่ยวความสุข และที่สำคัญ คือ เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งตามย่านต่างๆที่เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ซึ่งแน่นอนว่าการแลกเงินสดจากประเทศไทยไปอาจจะไม่พอสำหรับขาช้อป จึงต้องมี การใช้บัตรเครดิตในต่างแดน เพื่อชำระสินค้าตามร้านค้า หรือใช้บัตรเครดิตในกรณีฉุกเฉิน ดังนั้น ก่อนเดินทางไปในต่างประเทศควรรู้ถึงวิธีการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศเพื่อความปลอดภัย
ก่อนเดินทาง ควรทำการจดหมายเลขบัตรเครดิตแยกไว้ต่างหาก พร้อมกับจดหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้บริการบัตรเครดิตนั้นๆเอาไว้ด้วย เผื่อฉุกเฉินในกรณีที่ทำบัตรหาย จะได้สามารถแจ้งอายัดบัตรได้ และถ้าเป็นไปได้ ควรใช้บัตรเครดิตของธนาคารที่มีสาขาทั่วโลกหรือมีสาขาในประเทศที่เดินทางไปด้วย จะได้ไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์โทรข้ามประเทศเพื่อทำการอายัดบัตร
การใช้บัตรเครดิตในต่างแดน ในบางธนาคาร จะมีระบบป้องกันการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ คือระบบจะทำการป้องกันไม่ให้สามารถรูดบัตรในต่างประเทศได้ บางแห่งเมื่อตรวจสอบพบว่ามีการรูดในต่างประเทศ 1 ครั้งจะอายัดทันที หรือบางแห่งก็จะป้องกันไม่ให้ใช้โดยเด็ดขาด เนื่องจากธนาคารไม่สามารถแน่ใจว่าผู้ที่ทำการใช้บัตรนั้นใช่เจ้าของบัตรหรือไหม ดังนั้น ก่อนเดินทางจึงควรทำการโทรไปแจ้งให้ทางธนาคารทราบก่อน
การจ่ายด้วยบัตรเครดิตเพื่อจ่ายค่าโรงแรมบางแห่ง ทางโรงแรมจะขอดู passport ของเจ้าของบัตรด้วย เราควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าบัตรเครดิตตรงกับใน passport หรือไม่ เพราะหากไม่ตรงกันทางโรงแรมจะไม่รับบัตรนั้นทันที
ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนในการรูดบัตรเครดิตที่ธนาคารคิดให้จะแพงกว่าอัตราที่เห็นเป็น selling rate อยู่ประมาณ 2-3% และจะไม่ใช่ rate ของวันที่ซื้อสินค้าแต่เป็น rate ของวันที่ธนาคารจ่ายเงินให้กับร้านค้า (posting date) ซึ่งถัดจากวันที่ทำรายการไปประมาณ 2-3 วัน โดยกรณีที่เป็นบัตรในกลุ่มของ Visa/MasterCard จะใช้ rate ที่กำหนดโดย Visa/MasterCard จึงมีการบวกค่าที่เรียกว่า FX Markup ตามแต่จะกำหนด (Markup คือค่าประกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากวันที่ทำรายการกับวันที่ธนาคารจ่ายเงินให้กับร้านค้าห่างกัน 2-3 วัน ถ้าเกิดเงินบาทอ่อนค่าลงในระหว่างนี้ ธนาคารก็จะต้องจ่าย rate มากกว่าที่ควรเป็น) อาจจะมองว่าเสียแพงจัง
หลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิตในประเทศที่มีการปลอมแปลงบัตรเครดิตสูง ได้แก่ มาเลเซีย แต่ถ้าเป็นบัตรประเภทชิพการ์ดก็จะปลอดภัยกว่ามาก