หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่า บัตรกดเงินสด กันมาก่อนแน่ๆ แต่เอ๊ะ จะมีสักกี่คนกันนะที่เคยใช้บัตรเงินสดจริงๆ เพราะแค่ฟังชื่อดูแล้วก็ไม่น่าจะต่างไปจากบัตรเดบิตตรงไหนเลย ใครที่มีอะไรสงสัยอยู่ก็มาดูคำตอบไปพร้อมน้องหลิวกันเลยดีกว่า
หลิว : เทา ว่างไหม หลิวมีเรื่องให้ช่วยอีกแล้ว
เทา : ว่างสิ เรื่องการเงินใช่ไหมล่ะ คราวนี้อยากให้สอนตรงไหนล่ะ
หลิว : จะว่าเรื่องเรียนก็ไม่เชิงหรอก เราแค่อ่านผ่านแล้วเจอ แต่ว่าเทาไม่ได้มีสรุปไว้ในหนังสือเราก็เลยลองมาถามดูเผื่อเทารู้ไงว่า บัตรกดเงินสด มันคืออะไร แล้วมันดีอย่างไร แบบหลิวนี่ทำได้ไหม อะไรทำนองนี้อ่ะ
เทา : โอเค เข้าใจแล้ว แค่อยากรู้เฉยๆใช่ไหม เริ่มที่เรื่อง บัตรกดเงินสด ก่อนแล้วกัน บัตรกดเงินสด เนี่ยมันจะเป็นบัตรที่คล้ายๆกับบัตรเครดิตเนี่ยแหล่ะ เพียงแต่เราไม่ได้เอาไว้รูดจ่ายเงิน แต่เราเอาไว้กดเป็นเงินสดออกมาใช้ แล้วที่แตกต่างไปจากบัตรเครดิตทั่วๆไปก็คือ บัตรเครดิตเนี่ยคนจะสามารถออกบัตรเครดิตให้เราได้ก็คือ ธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ แต่ถ้าเป็นบัตรเงินสดคนที่ออกให้เราได้จะมีแค่สถาบันทางการเงินอย่างเดียวเลยไม่ใช่พวกธนาคาร ยกตัวอย่างสถาบันทางการเงินที่มีการให้บริการด้านบัตรกดเงินสดอยู่ก็คือ Firstchoice, Aeon, Umay+ , เทสโก้ พรีเมียร์ เป็นต้น ซึ่งก็จะมีค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันไปด้วย หลิวก็ต้องลองทำความเข้าใจดูนะ
หลิว : แล้วยังไงนะคือ เราไม่ต้องเอาเงินไปฝากไว้ใช่ไหม แล้วยังไงต่อหรอ
เทา : ใช่แล้ว เราไม่ต้องเอาเงินไปฝากไว้ในบัญชีก่อน เอาง่ายก็คือเราไปยืมเงินเขามาก่อนแล้วค่อยผ่อนจ่ายทีหลังนั่นแหล่ะ แต่เราไม่ต้องไปกู้ใหม่ทุกครั้งเราแค่ใช้บัตรกดเงินสดเนี่ยแหล่ะไปเรื่อยตามวงเงินที่เขาให้มาและชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนด ซึ่งตัววงเงินนี้เขาก็จะดูตามกำลังส่งของเราด้วยว่าเรามีเงินเดือนมากน้อยแค่ไหน เพราะเขาก็ไม่อยากให้มีหนี้เสียที่ไม่มีคนชำระเหมือนกัน
หลิว : แสดงว่าเขาต้องมีกฎเกณฑ์ที่จะคัดใช่ไหมว่าใครที่ทำบัตรเงินสดได้หรือไม่ได้ แล้วถ้ามีเขาจะคัดกันยังไงหรอ
เทา : มีสิ แต่ก็ดูจะเข้มงวดเท่าบัตรเครดิตนะ เท่าที่จำได้คือมีเรื่องของรายได้คนจะขอทำ บัตรกดเงินสด ได้จะต้องมีเงินเดือนอย่างน้อย 8,000 บาทขึ้นไปเป็นอย่างน้อย มีอายุการทำงานในที่ทำงานปัจจุบันที่ทำอยู่ไม่น้อยกว่า 4 เดือน และต้องมีที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน อะไรพวกนี้แหล่ะ
หลิว : ดูจะเจาะตลาดกลุ่มคนทำงานนะเนี่ย
เทา : ก็ใช่แหล่ะ มันสะดวกกับคนที่มีรายได้จำกัดแต่มีความจำเป็นต้องใช้เงินไง อีกอย่างถ้ามีรายได้ไม่มั่นคงพอทางสถาบันการเงินเขาก็ไม่มั่นใจที่จะอนุมัติบัตรกดเงินสดให้เหมือนกัน
หลิว : แล้วบัตรกดเงินสดนี้มีข้อดีอย่างอื่นอีกไหมอ่ะ
เทา : เอาที่เราเห็นตามโฆษณาโทรทัศน์ตอนนี้ก่อนนะ เอาไปเป็นข้อๆเลยนะ
- ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีของผู้ใช้บัตรกดเงินสดตลอดชีพ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถบันการเงินนั้นๆ ด้วยนะ บางที่เขาก็อาจจะไม่ฟรีก็ได้
- ฟรีค่าธรรมเนียมในการเบิกเงินสดล่วงหน้า หรือ Cash Advance ทุกธนาคาร
- สามารถใช้งานได้ง่าย เนื่องจากบัตรกดเงินสดสามารถกดได้ที่ตู้ ATM ของทุกธนาคารที่ร่วมรายการ ตลอด 24 ชั่วโมง
- ยอดเงินที่ต้องชำระนั้นจะมีทั้งเงินที่เราใช้ไปจริงๆบวกกับดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งเขาจะคิดดอกเบี้ยตามยอดที่ใช้จริง ถ้าเราไม่เอาเงินออกมาใช้เลยเราก็จะไม่เสียดอกเบี้ย เหมือนมีไว้ให้อุ่นใจเวลาที่ไม่มีใช้จริงๆนั่นเอง หรือเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินน่ะ
- เราสามารถเลือกชำระหนี้คืนเป็นรายเดือนในแบบที่เราต้องการหรือสะดวกได้ เช่น ชำระคืนแบบเต็มจำนวน หรือชำระคืนตามขั้นต่ำตามที่สถาบันทางการเงินกำหนดไว้ปกติจะอยู่ที่ 3% – 5% ของยอดหนี้ทั้งหมด หรือชำระตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไปก็ได้ ตามที่เราสะดวกและมีเงิน
- บัตรเงินสดนั้นสามารถสมัครได้เพียงแค่มีเอกสารที่จำเป็นของเรา จึงสมัครได้ง่ายและอนุมัติเร็ว ที่สำคัญคือเราไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกันด้วย
หลิว : โห ข้อดีเยอะเหมือนกันแหะ มีข้อเสียบ้างไหมเนี่ย
เทา : มีอยู่แล้ว สะดวกๆแบบนี้นี่ดอกเบี้ยแพงใช้ได้เลยแหล่ะ ยิ่งเราใช้หนี้หมดช้า ดอกเบี้ยก็ยิ่งเดิน เงินที่ต้องชำระก็มากขึ้นไปด้วยนั่นเอง คือบอกตามตรงว่าหากไม่มั่นใจว่าจะสามารถชำระหนี้ได้ตรงตามกำหนด ก็อย่าไปทำเลยดีกว่า เพราะมันจะส่งผลเสียต่อเราเอง แต่ถ้ารู้จักใช้และสามารถจ่ายหนี้คืนได้ตรงตามเวลา มีไว้ก็ดีและอุ่นใจเหมือนกัน
หลิว : อืม! เราว่าหนี้มันจะมากหรือน้อยคงต้องไปดูที่นิสัยการใช้เงินของแต่ละคนแล้วล่ะ
เทา : เราเห็นด้วย ขึ้นอยู่กับคนเลยอันนี้ เพราะหากใช้อย่างเดียวโดยไม่ยอมจ่ายให้หมดๆ ไป หนี้ก็พอกพูนแน่นอน