ยุคที่เราต่างก็ต้องดิ้นรนทำกิน แต่เงินทุนหมุนเวียนสำหรับก่อร่างสร้างอาชีพก็จำเป็น หากคุณกำลังมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนขึ้นมา การหาแหล่งเงินทุนผ่าน ขอสินเชื่อ เงินสดต่าง ๆ ย่อมต้องดีกว่าไปกู้เงินนอกระบบมาใช้ เพราะเท่ากับคุณจุดไฟเผาบ้านตัวเองไปด้วยค่ะ ก็ทำไมและเพราะอะไรเหรอคะ หนี้นอกระบบไม่เพียงแต่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินจริงเท่านั้นนะคะ แต่การทวงเงินของกลุ่มผู้ให้กู้นั้นยังโหดร้ายรุนแรงต่อทั้งร่างกาย, ทรัพย์สิน และ จิตใจของลูกหนี้ด้วยค่ะ ไม่อยากให้คุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น ก็เลยจะแนะนำให้คุณ ๆ เตรียมตัวก่อนไป ขอสินเชื่อ กันสักหน่อยค่ะ
ก่อนอื่นเลย ถ้าเราอยากให้การ ขอสินเชื่อ ครั้งนี้ผ่านฉลุย เราก็ต้องรู้จักสินเชื่อต่าง ๆ และนำมาใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์การขอกู้ยืมของเราด้วยค่ะ ลองศึกษาข้อเสนอและเงื่อนไขของสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ให้ดี ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นด้านอัตราดอกเบี้ย, ค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง, ค่าปรับกรณีจ่ายชำระหนี้ล่าช้า, ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงหนี้ และคิดรวมไปถึงความสะดวกของช่องทางการชำระเงินตามเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่าง ๆ ว่าเขาคิดค่าบริการแต่ละจุดเท่าไร แล้วมีจำนวนสาขาใกล้บ้านของคุณ ๆ หรือเปล่าด้วยค่ะ
สิ่งสำคัญต่อมาก็คือ เรื่องของเอกสารประกอบการขอกู้เงินนั่นเองค่ะ เพราะต้องมีการพิจารณาจากเอกสารต่าง ๆ หลาย ๆ อย่างดังนั้น ถ้าเราเตรียมเอกสารไปไม่ครบก็อาจจะไม่ได้รับอนุมัติได้นะคะ และการยื่นขอสินเชื่อทั่ว ๆ ไป เอกสารที่คุณ ๆ ไม่ควรลืมเตรียมไปด้วยก็คือ
ข้อที่ 1 เอกสารเกี่ยวกับรายได้ค่ะ เช่น สลิปเงินเดือน, ใบรับรองเงินเดือน, หลักฐานการเคลื่อนไหวของบัญชีเงินฝากของกิจการ หรือ บัญชีเงินฝากของคุณ แต่ควรมีแสดงอย่างน้อย 6 เดือนนะคะ หรือจะเป็นสมุดบัญชีรายรับและรายจ่ายของกิจการ, ใบคำสั่งซื้อสินค้าของลูกค้า, ใบส่งของ และ ใบแสดงการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มค่ะ
ข้อที่ 2 ก็คือ เอกสารแสดงตัวตนของคุณ นั่นก็คือ บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน หรือ หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือ ร้านค้า ค่ะ แล้วก็หลักฐานอื่น ๆ เช่น สำเนาใบแสดงภาษีเงินได้, งบการเงินของกิจการปีล่าสุดฉบับเดียวกับที่ยื่นต่อกรมสรรพากร และเอกสารแสดงหลักประกันต่าง ๆ ค่ะ ส่วนคุณ ๆ ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน หรือยังไม่มีกิจการห้างร้านอะไรกับเขา ก็อย่าเพิ่งท้อที่จะยื่นขอเงินกู้กับธนาคารนะคะ เพียงแค่คุณต้องเร่งสร้างโอกาสให้ทางธนาคารรู้จักคุณมากขึ้นสักหน่อยค่ะ เริ่มต้นด้วยบัญชีเงินฝากที่แสดงวินัยการออมของคุณอย่างสม่ำเสมอค่ะ เพียงแค่นั้นประตูแห่งโอกาสการได้รับอนุมัติสินเชื่อของคุณก็เปิดออกให้แล้วหล่ะค่ะ
ถัดมาเราก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า กฎกติกาการให้สินเชื่อของแต่ละสถาบันการเงินนั้นต่างกันออกไปค่ะ ซึ่งก็แล้วแต่ช่วงเวลา แต่โดยส่วนใหญ่ก็จะมีความคล้ายหรือต่างกันออกไปอยู่บ้าง เช่น นโยบายสินเชื่อของผู้ให้สินเชื่อ อย่างเช่น บางสถาบันการเงินอาจจะกำหนดว่าผู้กู้ต้องไม่มีประวัติการค้างชำระเลยในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง หรือ งดให้สินเชื่อกับกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมเสี่ยง ๆ หรือ งดให้สินเชื่อกับลูกค้าใหม่ ๆ ค่ะ แล้วก็บางสถาบันการเงินมักจะให้ความสำคัญหนักไปทางความสามารถในการชำระหนี้ค่ะ วิธีดูนั้นก็อาจจะพิจารณาจากปัจจัยด้านต่าง ๆ เช่น แหล่งที่มาของรายได้, โอกาสการเติบโตของธุรกิจ, จำนวนภาระหนี้สิน และ ประวัติพฤติกรรมการชำระหนี้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยภายนอกบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อการขออนุมัติสินเชื่อด้วยค่ะ เช่น สภาพเศรษฐกิจ, จำนวนคู่แข่ง และ ระดับการแข่งขันในอุตสาหกรรมนั้น ค่ะ หรือ ปัจจัยด้านอายุของผู้กู้, อาชีพ, ที่อยู่ หรือ สินทรัพย์บางอย่างที่มีผลเชิงบวกหรือผลเชิงลบต่อการอนุมัติ เช่น ถ้าคุณมีหลักประกันที่มีราคาสูงขึ้นมาสักหน่อย และสินทรัพย์นั้นสามารถแปลงเป็นเงินสดได้ค่อนข้างง่าย สะดวก หรือว่า มีบุคคลมาค้ำประกันที่น่าเชื่อถือ สถาบันการเงินก็จะดูจากสิ่งเหล่านี้และอาจจะให้วงเงินสินเชื่อสูงขึ้นกว่าที่คุณคิดไว้ก็ได้ค่ะ เพราะถ้าถึงวันที่ลูกหนี้ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ต่อไปได้ ทางสถาบันการเงินก็ยังมีความมั่นใจว่าจะสามารถนำหลักประกันดังกล่าวไปขายทอดตลาดได้คุ้มราคามาเป็นค่าชำระหนี้ หรือ ไตร่ตรองแล้วว่าสามารถเรียกผู้ค้ำประกันมาเป็นผู้ชำระหนี้ที่เหลืออยู่แทนได้ค่ะ
สุดท้ายสิ่งที่ดีที่สุดในการประกันความเสี่ยงของธนาคารและตัวคุณก็คือ ประวัติการเงินที่ดีของผู้ขอกู้นั่นแหละค่ะ เพราะทุกความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมทางการชำระหนี้ของคุณจะถูกรวบรวมและเก็บไว้ในเครดิตบูโร ถ้าคุณสามารถชำระหนี้ต่าง ๆ ได้ตรงเวลา, ชำระได้เต็มจำนวน และมีภาระหนี้ไม่มากนัก ทางสถาบันการเงินก็จะพิจารณาให้อนุมัติวงเงินกู้ให้คุณได้ไม่ยากหรอกค่ะ ในมุมตรงกันข้าม ถ้าประวัติการชำระหนี้ของคุณไม่ค่อยราบรื่นสม่ำเสมอมากนัก ทางสถาบันการเงินก็อาจจะไม่มั่นใจให้คุณกู้เงิน หรือ ร้องขอเอกสาร, ผู้ค้ำประกัน หรือ หลักทรัพย์ค้ำประกันมาช่วยลดความเสี่ยงของสถาบันการเงินไปได้บ้างค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการให้กู้เงินของแต่ละสถาบัน เพราะบางแห่งอาจจะไม่เห็นว่าการมีหนี้ค้างชำระในเครดิตบูโรเพียงหนึ่งแห่งจะเป็นปัญหาใด ๆ แต่กลับเล็งเห็นว่ารายได้ที่จะมีในอนาคตน่าจะทำให้ผู้กู้สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ ก็ให้อนุมัติวงเงินก็มีนะคะ รู้อย่างนี้แล้วก็เตรียมตัวเตรียมเอกสารให้พร้อมและไปลุยงานกันเลยค่ะ
ถ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว อยากสมัคร ขอสินเชื่อ สมัครได้ ที่นี่ เลย