บทความนี้อาจไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ โดยตรง แต่ มันก็เกี่ยวโยงกันนิดๆ เพราะปัจจุบันการทำงานมีการแข่งขันกันสูง มีเทคนิคต่างๆเพื่อหาคนทำงาน และ หางานทำต่างๆมากมาย อาชีพบางอาชีพที่หลายๆคนใฝ่ฝันก็ไม่ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ หรือ แม้แต่อาชีพพนักงานธนาคาร ที่ครั้งหนึ่งเป็นอาชีพที่หลายคนอย่างทำ อย่างเป็นสาวแบงค์ อยากเป็นหนุ่มแบงค์ แต่ปัจจุบันหลายคนเบือนหน้าหนี เพราะคำว่า ขายประกัน เพราะปัจจุบันเป็นพนักงานแบงค์ต้องขายประกันด้วย และเราก็ไม่รู้ว่าสังคมไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่ ขายประกันกลายเป็นอาชีพน่ารังเกียจตั้งแต่เมื่อไหร่
ย้อนไปสัก 20-30 ปีที่แล้ว อาชีพขายประกันเป็นอาชีพที่มีคนสนใจน้อย คนขายประกัน ส่วนใหญ่มักมีหน้าที่การงานดี มีคอนเนคชั่นเยอะ การหาลูกค้าก็เริ่มจากคนใกล้ตัว คนรู้จัก เป็นการแนะนำบอกต่อกันไป คนที่ทำอาชีพขายประกัน จะมีเซอร์วิสหลังการขายที่ดีกว่าสมัยนี้มาก มีการพบปะพูดคุยกับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ลูกค้ามีปัญหาจะช่วยแก้ไข และ ติดตามการเคลมประกันต่างๆ และ ที่สำคัญที่ต่างจากสมัยนี้คือ ประกันในยุคนั้นจะเน้นที่ประกันชีวิต ประกันสุขภาพแบบระยะยาวเบี้ยต่อปีสูง ดังนั้นคนที่ซื้อประกันได้จึงเป็นคนมีฐานะ มีรายได้ดี ทำให้คนที่ขายประกันได้ค่าคอมมิชชั่นสูง ในยุคนั้นจึงเน้นขายประกันกับคนมีเงินเท่านั้น อาชีพขายประกันจึงดูไม่เป็นที่นิยมแต่ก็ไม่มีคนรังเกียจ
แต่ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีเริ่มพัฒนามากขึ้น บริษัทประกันปรับเปลี่ยนรูปแบบการขาย มีแคมเปญใหม่ๆออกมามากมาย แข่งขันกันที่ราคาเบี้ยประกัน รายได้น้อยก็ทำได้ รายได้เยอะก็ทำได้ อาชีพขายประกันจึงมีรูปแบบการขายที่เปลี่ยนไป เข้าถึงกลุ่มคนมากยิ่งขึ้น ซื้อขายประกันแม้กระทั้งตามซุปเปอร์มาเก็ต หรือ เปิดบูธขายตามงานต่างๆ หรือ ตามออฟฟิศสำนักงาน และ ไม่ใช่มีแต่บริษัทประกันเท่านั้นที่ทำการขาย ปัจจุบันยังลามมาถึงธนาคาร ซึ่งเอาจริงๆก็สัก 10 กว่าปีเห็นจะได้ที่ธนาคารเริ่มขายประกัน แต่ก็ไม่หนักเหมือนปัจจุบัน ทำให้ตอนนี้อาชีพขายประกันกลายเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจ และ ไม่มีใครอยากทำ เพราะส่วนใหญ่เน้นที่การขาย ต้องหายอดคนทำประกันให้ได้ตามเป้าถึงได้รับเงินค่าคอมมิชชั่น หรือ เงินเดือน หรือ แม้แต่การเลื่อนตำแหน่งงาน การเพิ่มเงินเดือน ต้องได้ตามเป้าหมายที่บริษัทกำหนด ทำให้พนักงานขายประกันงัดกลวิธีการขายทุกรูปแบบมาใช้เพื่อให้ได้ตามเป้า
บางคนไม่ได้อยากทำอาชีพนี้แต่ตกงานหางานไม่ได้มีภาระรายจ่ายก็ต้องทนทำไปก่อนจนกว่าจะหางานได้ หรือ โดนหลอกให้ไปขายประกัน จาการรับสมัครงานโดยไม่แจ้งว่าจริงๆแล้วเป็นการขายประกัน อย่างเช่น พนักงานธนาคาร ที่จะมีการบังคับยอดในบางแห่ง สาขาต้องแบกรับยอดประกันต่อเดือนให้ได้เท่านี้ หรือ ต่อปีต้องได้เท่านี้ ทั้งจากการบังคับทำบัตรเอทีเอ็ม หรือ จากการเปิดบัญชี หรือ ขอความร่วมมือจากลูกค้าให้ช่วยซื้อ
จึงกลายเป็นว่าทุกหนแห่งแฝงไปด้วยการขายประกัน คนขายประกัน บางคนมีจริยธรรม มีมารยาท รู้จักวิธีขาย รู้จักวิธีดูแลลูกค้า ก็ทำให้สามารถขายได้ และ คนไม่ค่อยรังเกียจเท่าไหร่ แต่บางคนใช้วิธีตื้อขายเอากับคนรู้จัก คนใกล้ตัว ขายแล้วหายหน้าไปเลย หรือ หลอกขายกับคนที่ไม่รู้เรื่องประกัน ทำให้กลายเป็นจุดด่างของอาชีพขายประกัน และ เป็นที่มาที่ทำให้ อาชีพขายประกันกลายเป็นอาชีพน่ารังเกียจ
ทั้งๆที่จริงการทำประกันชีวิต , ประกันอุบัติเหตุ , ประกันสุขภาพ เป็นเรื่องที่ดี หากมีการขายที่โปร่งใส มีบริการที่ดี และ บริษัทประกันรับผิดชอบกับการประกันของลูกค้า ไม่ตุกติก ไม่หาช่องโหว่มาเป็นข้ออ้างไม่จ่ายเงินกรรมธรรม์
เชื่อแน่ว่าหากวงการประกันไม่มีการพัฒนา อีก 10-20 ปีข้างหน้าคงไม่มีใครอยากเป็น คนขายประกัน แน่นอน หรือ ไม่แน่บริษัทประกันอาจเปลี่ยนรูปแบบการขายโดยไม่ต้องมีพนักงานขาย ใครสนใจซื้อกรรมธรรม์ออนไลน์ได้เอง ติดต่อบริษัทได้เอง ในอนาคตมันก็ไม่แน่จริงไหมล่ะ แต่ตอนนี้ใครทำอาชีพขายประกันหาลูกค้าแต่ละครั้งลำบากยากเย็น คู่แข่งก็เยอะ คนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากทำประกัน แถมกลายเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจไปแล้วในตอนนี้ แม้แต่เด็กจบใหม่ หรือ คนตกงานยังไม่อยากทำกันเลยอาชีพนี้