หลังจากที่คนเราทำงานมีเงินเดือนและสะสมเงินเก็บออมได้ส่วนหนึ่งแล้ว ก็เริ่มมองหาความมั่นคงในชีวิตต่อไปได้แก่การซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลและซื้อบ้านพักอาศัย ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูง การตัดสินใจเลือกซื้ออย่างใดอย่างหนึ่งก่อนจึงเป็นปัญหาให้ขบคิดและมีผู้สนใจสอบถามผ่านหน้าเว็บบอร์ดหรือสังคมออนไลน์กันไม่น้อย แนวคิดที่จะนำมาตัดสินใจนั้นมีความแตกต่างกันซึ่งจะได้ข้อสรุปที่แตกต่างกันด้วย ขึ้นอยู่กับความสำคัญและการให้คุณค่าของแต่ละบุคคลซึ่งมีเหตุผลและความจำเป็นที่ไม่เหมือนกัน
ลักษณะสามัญของบ้านพักอาศัย
บ้านพักอาศัยที่เป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ จะมีโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ในขณะที่คอนโดมิเนียมนั้นไม่มีที่ดินรองรับเหมือนบ้านเดี่ยว ทาวเฮาส์ ราคาของบ้านนั้นยากที่จะซื้อด้วยเงินสดในคราวเดียว โดยมากแล้วจะต้องมีการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากธนาคารพาณิชย์ โดยใช้โฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน หลังจากนั้นก็จะเป็นภาระของผู้กู้ที่จะต้องชำระค่างวดไปทุก ๆ เดือน เป็นระยะเวลายาวนานเช่น 20-30 ปี เมื่อจ่ายครบแล้วหรือมีเงินก้อนมาชำระให้ครบก่อนกำหนดก็จะสามารถทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์จากธนาคารมาเป็นชื่อตนเองได้ โดยมากแล้วบ้านพักอาศัยก็เป็นสิ่งที่มีมูลค่าเพิ่ม แม้ว่าจะต้องมีค่าบำรุงรักษาดูแลบ้านเป็นระยะ ๆ แต่ก็ไม่มากมายเกินความสามารถ ยิ่งเวลาผ่านไปนานราคาที่ดินและราคาประเมินอาคารก็จะสูงมากขึ้นตามธรรมชาติ ถ้าโครงสร้างบ้านแข็งแรง ถนนไม่ทรุด สิ่งแวดล้อมไม่มีมลพิษจากอุตสาหกรรมก็มักจะกลายเป็นทรัพย์สินที่สร้างผลกำไรได้มากเมื่อมีการขายต่อในอนาคตหรือให้เป็นมรดกกับลูกหลาน เพราะช่วงเวลาการผ่อนนั้นจะกินเวลาเท่า ๆ กับช่วงระยะเวลาการทำงานของคนคนหนึ่งทีเดียว แต่ถ้าเป็นการกู้ร่วมกันระหว่างสามีภรรยาก็จะทำให้จ่ายค่างวดได้จบเร็วมากขึ้น
ลักษณะสามัญของรถยนต์
รถยนต์เป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างมากในการเดินทาง โดยเฉพาะคนทำงานที่ต้องอาศัยรถยนต์ช่วยในการทำงานด้วย หรืออยู่ในสถานที่ที่ห่างไกล กลับบ้านดึกไม่ค่อยปลอดภัย กว่าจะเดินทางไปและกลับต้องนั่งรถสาธารณะหลายต่อ ถ้ามีความยากลำบากในการเดินทาง รถยนต์ส่วนบุคคลก็จะช่วยแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้อย่างคุ้มค่า การใช้รถยนต์ส่วนบุคคลทำให้มีสุขภาพจิตดีขึ้นและไม่ต้องทนกับสภาพอากาศร้อนหรือความแออัดจากการใช้บริการรถขนส่งมวลชนหรือเสี่ยงภัยจากการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้าง อย่างไรก็ตามการใช้รถยนต์นั้นมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกหลายอย่าง ทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าบำรุงรักษาและการซ่อมแซม ค่าภาษีและค่าทำประกันภัยรถยนต์ และยังมีค่าที่จอดรถและค่าทางด่วนอีก ทำให้การใช้รถยนต์ต้องเผื่อเงินสำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ด้วย เมื่อเวลาผ่านไปหลาย ๆ ปี รถยนต์ที่วิ่งอยู่ทุกวันก็จะมีการเสื่อมลงจากการใช้งานและการเคลื่อนไหว แน่นอนว่าราคาประเมินของรถยนต์จะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อขายต่อออกไปให้บุคคลอื่น ก็จะได้เงินกลับคืนมาน้อยกว่าเงินที่ใช้ซื้อรถยนต์ ต่างจากการบ้านพักอาศัยที่จะมีราคาสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปแต่ละปี
การเลือกซื้อรถยนต์ก่อนซื้อบ้าน
เหตุผลที่คนเราอยากซื้อรถยนต์นั้นควรจะสร้างประโยชน์เป็นตัวเงินกลับมาหรือได้รับเป็นความสะดวกสบายและความปลอดภัย เช่น บ้านอยู่ไกลที่ทำงาน ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ไปต่อรถ ลงเรือ ต่อรถไฟฟ้า แต่ละวันกว่าจะไป-กลับบ้านและที่ทำงานก็หมดแรงแล้ว หรือสาว ๆ ที่ต้องกลับบ้านดึกทางเปลี่ยวไม่ปลอดภัย การใช้รถยนต์ก็สามารถช่วยให้ชีวิตมีความปลอดภัยและสวัสดิภาพมากขึ้น หรือใช้รถไปหาลูกค้าหาเงินรายได้เข้ามาได้ก็เป็นเหตุผลที่ดีกว่าการซื้อรถเพราะต้องการเสริมภาพลักษณ์หรือการไม่อยากน้อยหน้าใคร ถ้าบ้านใกล้ที่ทำงานและเดินทางได้สะดวกก็อาจจะยังไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวก็ได้ สู้เก็บเงินสะสมไว้ซื้อบ้านก่อนแล้วค่อย ๆ สะสมเงินซื้อรถยนต์ต่อไปน่าจะดีกว่า
การเลือกซื้อบ้านก่อนซื้อรถยนต์
กรณีนี้เหมาะกับผู้ที่มีบ้านใกล้ที่ทำงาน เดินได้สะดวก หรือทำงานโดยไม่ได้ต้องใช้รถยนต์เป็นตัวช่วย การเลือกซื้อบ้านก่อนจะทำให้ได้รับการอนุมัติสินเชื่อง่ายกว่าและได้วงเงินสูงกว่าเพราะว่าไม่ได้มีภาระหนี้เรื่องผ่อนรถยนต์อยู่ก่อน การซื้อบ้านเป็นโครงการระยะยาว ถ้าไม่วางแผนจริงจังก็จะมีโอกาสน้อยที่จะได้ครอบครองบ้านสักหลัง การมีบ้านเป็นของตัวเองทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้อีกหลายด้าน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า กรณีที่เช่าหอพักอยู่มาก่อน นอกจากนี้ยังทำให้มีความเป็นส่วนตัวและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างครอบครัวไปได้ด้วย มูลค่าของบ้านและที่ดินจะมีค่าสูงขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป
จะเห็นได้ว่าไม่มีคำตอบสำเร็จรูปที่แน่ชัดว่าควรซื้อบ้านหรือรถยนต์ก่อน การพิจารณาควรจะดูความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าจำเป็นต้องซื้อรถยนต์ก่อนก็ควรมีเหตุผลรองรับที่แน่ชัดหรือต้องการซื้อบ้านก่อนก็เช่นกัน ปัจจัยเรื่องการสร้างครอบครัวจะมาเป็นตัวช่วยในการพิจารณาได้ง่ายขึ้น เช่น ซื้อรถยนต์ก่อนเพื่อสร้างความสะดวกสบาย แล้วก็หาคู่ครองแต่งงานแล้วทำการกู้ซื้อบ้านร่วมกัน ก็จะเป็นการประหยัดลงได้ครึ่งหนึ่งเพราะว่าช่วยกันออกค่าผ่อนหนี้ไปด้วยกันได้ทั้งรถยนต์และบ้านในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ถ้าวางแผนจะเป็นโสดไปก่อนก็จะเหนื่อยกว่าเพราะว่าต้องรับภาระคนเดียว สำหรับคนที่วางแผนเรื่องการเงินนั้นอาจจะมองหาซื้อบ้านก่อนเพราะถือว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต อย่างที่รู้กันว่ารถยนต์นั้นมีแต่ลด ซื้อบ้านมีแต่มูลค่าเพิ่มขึ้น