ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ การจะซื้อรถยนต์สักคัน คงต้องพิจารณากันให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ ว่า มีความจำเป็นมากเพียงใด ถ้าซื้อเงินสดจะสามารถซื้อได้รุ่นที่ราคาเท่าไหร่ หรือในแต่ละเดือนมีความสามารถในการผ่อนชำระเท่าไหร่ที่จะไม่เดือดร้อนกับการใช้ชีวิต วันนี้เรามีข้อมูลในการเลือก ซื้อรถยนต์มือสอง มาช่วยให้ผู้ที่ต้องการมีรถยนต์สามารถเลือก ซื้อรถยนต์มือสอง ได้อย่างประหยัด และมีคุณภาพดี
วางเป้าหมายและความต้องการที่แท้จริง
หากคุณกำลังอยากได้รถมือสองแล้วไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ลองวางเป้าหมายกันก่อน เพราะแต่ละคนมีวัตถุประสงค์ในการใช้รถต่างกัน บางคนใช้เพื่อบรรทุกของไปขาย บางคนใช้เพื่อการเดินทาง บางคนใช้เพื่อประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นต้น ดังนั้น จึงควรตั้งธงเบื้องต้น โดยมีเป้าหมายและระบุความต้องการอย่างชัดเจน เพื่อให้ไม่เกิดความสับสนในการเลือกผิดประเภท เช่น ต้องการรถประเภทใด ใช้ในวัตถุประสงค์ใด ราคาเท่าไหร่ ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน อายุการใช้งานกี่ปี ซื้อสดหรือผ่อน จากนั้นจึงเริ่มหาข้อมูลรถตามความต้องการที่ระบุไว้
หาข้อมูลตามเป้าหมาย
ปัจจุบันการหาข้อมูลรถยนต์มือสองเป็นเรื่องง่ายมาก มีเว็บไซต์จำนวนมากที่ให้คุณสามารถใส่ข้อมูลความต้องการของคุณ แล้วจะสามารถคัดเลือกรถที่คุณต้องการออกมาเป็นลำดับๆ แต่ละแห่งก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ทั้งราคา อายุการใช้งาน หรือสภาพภายนอก คุณจึงควรศึกษาเพิ่มเติมโดยการอ่านรีวิว ในเว็บไซต์ต่างๆ เกี่ยวกับรถรุ่นนั้นๆ ว่าเมื่อใช้งานแล้วเป็นอย่างที่คุณต้องการหรือไม่ หรือมีปัญหาอะไรที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถที่คุณต้องการ เช่น มีกลิ่นแอร์ในตัวรถ เสียงเครื่องดังกว่ารุ่นอื่น กระจกหน้าแคบกว่ารุ่นอื่นๆ เป็นต้น เมื่อเจอคันที่ใช่ จึงเริ่มติดต่อขอดูรถจริงต่อไป
ตรวจสอบสภาพภายนอกรถ
เดินดูรอบๆ คันว่ารอยยุบ รอยขีดข่วน หรือความเสียหายใหญ่ๆ หรือไม่ จากนั้นเริ่มเชคภายในรถว่า อุปกรณ์ต่างๆ ในรถใช้การได้ดีอยู่ใช่มั๊ย เช่น ระบบไฟฟ้า กระจก เบาะนั่ง แอร์ ประตูทั้ง 4 บาน ที่เลื่อนเบาะ อุปกรณ์ต่างๆ ที่มากับรถ ไม่ชำรุดหรือสูญหายใช่มั๊ย จากนั้น จึงเปิดฝากระโปรงหน้าและหลัง เพื่อเชคส่วนอื่นต่อไป โดยทั่วไปแล้วในการเชคตัวเครื่อง ตรวจสอบตัวถัง อาจต้องใช้ผู้ที่ชำนาญ หรือผู้ที่คุ้นเคยเกี่ยวกับรถ ให้ช่วยดูให้ ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อน ญาติ ช่างประจำ หรือถ้าหาคนรู้จักไม่ได้ ก็คงต้องเลือกผู้ขายที่มีมาตรฐานไว้ใจได้จะปลอดภัยที่สุด
ทดสอบด้วยการขับ
การจะตัดสินใจซื้อเสื้อหรือกางเกงสักตัว เพื่อให้เรามั่นใจว่าจะใส่ได้ และใส่สวย เราก็จะต้องลองจนกว่าจะพอใจ การซื้อรถก็เหมือนกัน ไม่ควรใจร้อนซื้อเพียงเพราะสภาพที่ดูสวยงามอย่างเดียว ควรจะทดลองขับและเชคสภาพให้เป็นที่พอใจก็ตัดสินใจซื้อ ในการทดลองขับ ควรสังเกตว่า เมื่อเลี้ยวซ้าย-ขวาพวงมาลัยติดขัดหรือไม่ เกียร์ใช้การได้ปกติมั๊ย มีเสียงจากอุปกรณ์ชิ้นใดหรือเครื่องรถมั๊ย ทดลองความเร็วว่าเครื่องสั่นที่ความเร็วเท่าไหร่ เบรคเสื่อมสภาพหรือไม่ ล้อยางหรือช่วงล่างปกติดีหรือเปล่า รวมทั้งดูการทำงานของหน้าปัดบอกความเร็วและระยะทางว่าผิดปกติหรือไม่
เอกสาร และการชำระเงิน
เมื่อตกลงใจ เลือกรถที่ต้องการได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การเจรจาต่อรองราคา และตรวจสอบเอกสารต่างๆ ได้แก่ คู่มือผู้ใช้รถยนต์ สมุดทะเบียน สมุดการเข้าเชคสภาพรถในศูนย์ให้บริการ(ถ้ามี) เชครหัสเครื่องยนต์ ทะเบียนรถยนต์ว่าตรงกันหรือไม่ ขอสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อผู้ขาย เพื่อทำสัญญาซื้อขายอย่างถูกต้อง เชคทุกอย่างอย่างละเอียด และแน่ใจว่าครบถ้วน จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการซื้อขาย และโอนรถต่อไป
ข้อดี-ข้อเสีย พึงศึกษาก่อนตัดสินใจ
- รถมือสองราคาถูกกว่ามาก ประหยัดเงิน สามารถเลือกรถที่ดีกว่าในราคาที่ถูกกว่ารถมือหนึ่ง
- ไม่ต้องจองสามารถซื้อและออกรถได้เลย
- มีข้อมูลจากผู้ใช้มาก่อนแล้ว ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจได้
- เมื่อต้องการขายต่อ ราคาจะไม่ตกมากเท่ารถมือหนึ่ง
- ผู้มีรายได้ไม่มาก สามารถมีรถเป็นของตนเองได้เร็วขึ้น
- ถ้าเลือกไม่เป็น อาจได้รถคุณภาพแย่ไปใช้
- อะไหล่เสื่อมตามสภาพ อาจต้องหาเปลี่ยนเร็วกว่ารถมือหนึ่ง
- ถ้ารถที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป จะต้องเริ่มมีปัญหา ต้องเตรียมค่าซ่อมเผื่อไว้ด้วย
ในการเลือกรถมือสองต้องมีข้อมูลเบื้องต้น มีผู้ช่วยที่คุ้นเคยหรือเชี่ยวชาญสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับรถ และมีเวลาในการเลือก เพราะเราไม่มีทางรู้ว่า ก่อนที่จะมาขายให้กับเรา เกิดอะไรขึ้นกับรถคันนี้บ้าง เคยเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ หรือถูกโจรกรรมมาหรือเปล่า ถ้าไม่เคยเกิดอะไรก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้ามีแล้วเราไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ การ ซื้อรถยนต์มือสอง แทนที่จะช่วยประหยัดราคา ก็อาจจะต้องเสียค่าซ่อมตลอดเวลา กลายเป็นราคาแพงกว่ารถมือหนึ่งก็เป็นได้
