มาดูกันว่าในแต่ละเดือนคุณหมดเงินฟุ่มเฟือยไปกับอะไรบ้าง และ อะไรคือตัว ดูดเงิน ออกจากกระเป๋า ลองอ่านกันดูว่าคุณเป็นอีกคนที่หมดเงินไปกับสิ่งเหล่านี้แต่ละเดือนหรือเปล่า และหมดไปมากน้อยแค่ไหน และ คุณคิดจะตัดมันออกไปจากวงจรการจ่ายเงินของคุณบ้างหรือเปล่า ลองมาดูกัน
1. สังสรรค์วันสุดสัปดาห์
แน่นอนว่าสังคมมนุษย์เงินเดือน วันศุกร์ หรือ วันเสาร์หลังเลิกงานคือเวลาแห่งความสุข เพราะหลายๆคนไปเที่ยวต่อ และ ที่เที่ยวหลังเลิกงานคงไม่พ้นนั่งฟังเพลงตามร้านอาหารบ้าง ไปร้องคาราโอเกะบ้าง หรือ ทานข้าวตามร้านอินเทรนด์ต่างๆ ซึ่งมีหลายคนที่ทำเป็นประจำ และ แต่ละครั้งเงินที่จ่ายแต่ละครั้งนั้นเฉลี่ยแล้ว 500-3000 บาทต่อคน ลองคิดดูง่ายๆ ไปทุกสัปดาห์จ่ายครั้งละ 500 เดือนหนึ่งสีครั้งก็ราวๆ 2000 บาท
2. ช้อปปิ้ง
อันนี้บอกเลยทั้งสาวๆและหนุ่มๆ ไอเทมส์ต่างๆที่มนุษย์ยุคโซเชี่ยลต้องมีแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า นาฬิกา เครื่องประดับ เครื่องสำอาง อุปกรณ์ไอที และ อื่นๆรวมถึงรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ที่มีแอคเซสเซอรี่ ออฟชั่น ตกแต่งเพิ่มเติมมากมาย ตามแต่ใครจะมีงบเท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อกันทุกเดือน เฉลี่ยแล้วก็อยู่ที่ 1,000 – 10,000 บาท
ช้อปทีไร เงินไหลทุกที เรามีคาถา ! >>> คาถากันเงินไหล สำหรับ สาวนักช้อป ! <<<
3. ท่องเที่ยว
หรือ ผ่อนคลายวันหยุด หลายๆคนนิยมเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดไปไกลบ้างหรือเดินทางใกล้ๆบ้าง บางคนไปทุกสัปดาห์ บางคนไปเดือนละครั้ง ซึ่งก็แล้วแต่งบประมาณ หรือ ไม่ได้เดินทางออกต่างจังหวัด ก็เที่ยวตามที่ต่างๆในเมืองหลวงเช่น ห้างสรรพสินค้า ดูหนังฟังเพลงเอนเตอร์เทนตัวเองและครอบครัว ซึ่งบอกเลยว่าแต่ละครั้งนั้นก็มีค่าใช้จ่ายมากน้อยแล้วแต่สถานที่และรูปแบบการพักผ่อน เฉลี่ยแล้วก็อยู่ที่ 1,000 – 10,000 บาท
4. อื่นๆจิปาถะ
แล้วแต่สภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงาน บางคนทำงานตามแหล่งชุมชนออฟฟิศอย่างสีลม แน่นอนว่ามีตลาดนัดทุกวัน มีสินค้ามากมายล่อเงินจากกระเป๋าบางคนพักกลางวันออกไปทานอาหารข้างนอกตึกออฟฟิศ เห็นอะไรน่าซื้อก็ซื้อ เห็นไรล่อตาล่อเงินก็พร้อมจ่าย รู้ตัวอีกทีเงินหมดกระเป๋าซะงั้นต้องไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม เอาไว้ติดกระเป๋าเป็นค่าใช้จ่ายรายวัน บอกเลยว่าบางคนซื้อได้ทุกวันไม่ถูกก็แพง เพราะของมันมีมาให้ซื้อได้ทุกวัน เฉลี่ยแล้วก็อยู่ที่ 50 – 500 บาท ต่อวัน
เห็นไหมว่ารายการต่างๆมันดูฟุ่มเฟือยจริงๆ แต่บางคนก็พร้อมจ่ายเพราะมีเงินมีบัตรรูด แต่บางคนไม่อยากจ่ายก็ต้องจ่ายเพราะต้องไปเพื่อเข้าสังคมเพื่อนๆที่ทำงาน หรือ บางคนซื้อของตามคนอื่นๆเพราะไปด้วยกันโดนยุให้ซื้อทั้งๆที่ไม่อยากซื้อก็มี สิ่งต่างๆเหล่านี้หลายๆคนจ่ายอย่างที่กล่าวมาในข้างต้น
ลองคำนวณดูว่าแต่ละครั้งคุณเสียเงินไปเท่าไหร่ กินได้เที่ยวได้ซื้อได้ หากทำแล้วเป็นภาระ หรือ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ลดๆกันลงดีกว่าไหม บางอย่างไม่ต้องทำเป็นประจำก็ได้เพื่อความอยู่รอดของเงินกระเป๋าคุณเชื่อว่ามันไม่ยากหากจะทำ ทำแล้วมีเงินเหลือแน่นๆ รับรองได้
หรือ คนที่พร้อมจ่ายคิดว่าอยากลดรายจ่ายบ้างจะลองลดรายการที่ยกตัวอย่างมาให้ดูนี่ก็ได้ หรือลองลิสต์ดูว่ามีอะไรนอกเหนือจากนี้ที่เป็นภาระการจ่ายเงินที่ฟุ่มเฟือยบ้าง รับรองมีเพียบและหากลดลงได้เงินเหลือ มีเงินเก็บเพิ่ม ชีวิตดีขึ้นแน่นอน ลองทำดูแล้วจะรู้ว่าการมีเงินเหลือใช้ทุกเดือนมันสบายแค่ไหนไม่ต้องมากก็มีความสุขแล้ว และยิ่งหากใครที่ไม่เคยมีเงินเหลือเลยรับรองว่าการมีเงินเหลือครั้งแรกมันจะทำให้คุณรู้สึกเลยว่าน่าจะทำมาตั้งนานแล้ว