“ทำอย่างไงได้ก็ไม่ได้เกิดมาบนกองทอง พ่อแม่พี่น้องทุกคนก็ประชาชนเดินดิน” เป็นท่อนเพลงท่อนหนึ่งที่คุ้นหูคุ้นปากและโดนใจคนจำนวนไม่น้อย ด้วยคำที่สื่อตรง ๆ ชัดทุกประเด็นว่า เราทุกคนต่างก็เกิดมาพร้อมความปรารถนาที่จะครอบครอง หรือ เป็นเจ้าของสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ต้องซื้อหาแลกมาด้วยเงินที่เราไม่ได้มีติดตัวกันมาตั้งแต่เกิด ในเมื่อใคร ๆ ก็ต้องการที่จะมีเงินเยอะ ๆ เงินหมื่นเงินล้านไว้จับจ่ายสร้างความฝันของแต่ละคนให้เป็นดั่งใจหวัง ถ้าคุณเองก็เป็นอีกหนึ่งคน ที่ อยากรวย ดิ้นรนหาทางที่จะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เรามาลองทำตามวิธีสร้างตัวให้รวยจริง ๆ กันสักหน่อยมั๊ยคะ
เรามาเริ่มจากวิธีที่ 1 นั่นก็คือ เป็นเจ้าของธุรกิจด้วยตัวเอง ซึ่งการจำทำธุรกิจให้มีรายได้มาก ๆ นั้นเราต้องอาศัยการวางแผน, การจัดการ, การบริหารและการดูแลอย่างจริงจังด้วยนะคะ ก่อนอื่น ดึงความสนใจของตัวคุณออกมาว่าคุณมีความถนัดหรือความรู้ด้านไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า จากนั้นก็ต้องเอาใจใส่ทุ่มเทต่อกิจการนั้น ๆ ค่ะ ทำให้กิจการของคุณเป็นที่รู้จักด้วยการสร้างแบรนด์ไม่ว่าจะเปิดเป็นร้านค้าออนไลน์ หรือ จะเช่าล็อตร้านค้าในยูเนี่ยนมอลล์ต่าง ๆ เมื่อใดที่คุณมีฐานลูกค้าก็จงรักษาและขยายฐานลูกค้าออกไปเพื่อความมั่นคงทางธุรกิจของคุณเองค่ะ
และวิธีที่ 2 ก็คือ เมื่อเรามีรายได้จากการทำธุรกิจแล้ว ให้นำเงินมาต่อเงิน อย่างที่เรา ๆ เคยได้ยินกันมานั่นแหละค่ะ นำเงินที่มีจากการออมแบ่งออกมาลงทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์บ้างค่ะ เพราะการลงทุนในที่ดินนั้นจะเห็นได้ว่าราคาที่ดินมีแต่ขึ้นไม่ค่อยตกลง คนรวย ๆ เขาถึงชอบซื้อเป็นที่ดินมีโฉนดเก็บไว้กันค่ะ ยิ่งถือครองมาก ๆ ก็ยิ่งมีเงินนอนรอเรามาก ๆ ค่ะ แต่อย่างที่ใคร ๆ ก็เฝ้าเตือนกันนะคะว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นหากจะซื้อที่ดินมาครอบครองก็ศึกษาให้ละเอียดด้วยนะคะ แล้วก็ต้องระวังภาวะฟองสบู่แตกด้วยนะคะ
ส่วนวิธีที่ 3 ให้แบ่งเงินไปลงทุนในหุ้น ค่ะ โดยคุณอาจจะเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการปันผลดี ๆ หานักลงทุน หรือ โบรคเกอร์เก่ง ๆ มาคอยแนะนำ หมั่นติดตามข่าวสารการวิเคราะห์ธุรกิจ และ เทรนด์ด้านต่าง ๆ ทั้งพลังงาน, ทองคำ และ เศรษฐกิจโลกเพื่อเป็นแนวทางเก็งกำไรจากหุ้นค่ะ
มาถึงวิธีที่ 4 ก็คือ ให้จดลิขสิทธิ์ของตนเอง หากคุณเป็นคนมีความคิดสร้างสรร หรือ แม้แต่กิจการของคุณมีสินค้าตัวใหม่ ๆ ออกมาสู่ตลาด แนะนำให้คุณจดทะเบียนลิขสิทธิ์นวัตกรรมนั้น ๆ ไว้ก่อนเลยค่ะ เพราะนอกจากสินค้าของคุณจะทำให้คุณมีรายได้แล้ว การขาย “สิทธิ์” ในสิ่งที่คุณมี ที่คุณคิดค้นขึ้นมาก็เป็นการปั่นรายได้ให้คุณอีกทางหนึ่งค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ซอฟท์แวร์, แอพพริเคชั่น หรือ สติกเกอร์สำหรับโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เงินทั้งนั้นเลยค่ะ คุณขา
วิธีที่ 5 ให้ทรัพย์สินทำงานแทนคุณ ก็หมายถึง หากคุณมีทรัพย์สินบ้านอาคาร หรือ รถยนต์ ก็สามารถนำออกมาให้ผู้อื่นเช่าได้ค่ะ ทรัพย์สินก็ทำงานได้เป็นค่าเช่ามาให้คุณ ในขณะที่คุณก็นั่งทำงานกันต่อไป ชิวล์ ๆ เงินเข้ากระเป๋าสบาย ๆ ค่ะ และวิธีต่อมา
วิธีที่ 6 นั้น ใช้โซเชียลมีเดียโกยเงิน เป็นที่รู้กันดีว่าโทรศัพท์มือถือของเราทุกคน ต่างก็เชื่อมต่อกับอินเตอร์เนตง่าย ๆ และตลอดเวลา แล้วถ้าคุณเองมีอะไรดี ๆ มีอะไรโดน ๆ เด่น ๆ ก็สามารถนำไปอัพโหลดลง youtube ได้เลยนะคะ เพราะทุก ๆ 1,000 views ที่เปิดเข้าไปชมคุณก็จะได้รับเงิน 2 เหรียญสหรัฐ ค่ะ เห็นด้วยหรือยังว่าการแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ นั้นมีแต่ได้กับได้ ค่ะ
ส่วนวิธีที่ 7 ก็คือ ให้คุณกล้าเผชิญหน้ารับคำท้ากับโจทย์ยาก ๆ หิน ๆ ค่ะ เราต้องยอมรับค่ะว่า งานที่ท้าทายต่าง ๆ ต้องแลกมากับผลตอบแทนที่คุ้มค่าเสมอ หากมีใครหยิบยื่นงานหิน ๆ มาให้คุณ จงรับไว้และทำให้เต็มที่ จากนั้นก็เตรียมรอรับผลตอบแทนจำนวนมากได้เลยค่ะ
และแล้วก็มาถึงวิธีที่ 8 เมื่อคุณ ๆ มีรายได้เพิ่มขึ้น ภาษีที่จะต้องจ่ายก็จะวิ่งตีคู่มาเป็นเงาตามตัว ถ้าเป็นอย่างนั้น การลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ หรือ กองทุนปลอดภาษีต่าง ๆ จัดว่าเป็นทางออกที่ดีไม่ใช่น้อย ๆ และเหมาะมาก ๆ กับผู้ที่ไม่ชอบการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง และ เร้าใจปวดหัวใจเกินไปเหมือนลงทุนกับหุ้น ก็ให้เลือกเป็นการลงทุนในกองทุนรวมระยะสั้น RMF หรือ ระยะยาว LTF ก็ได้นะคะ เพราะนอกจากจะเป็นการออมเงิน และสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ แล้วยังได้ผลตอบแทนอีกด้วย แนะนำเลยค่ะ
วิธีที่ 9 เขียนหนังสือสักเล่ม เพราะการเขียนหนังสืออย่าง self-publish นั้น คุณคือเจ้าของผลงานอย่างแท้จริง ต้นทุนคือมันสมอง แล้วถ้าคุณทำขายเอง ก็รับทรัพย์เองตรง ๆ แล้วเมื่อคุณมีแฟนคลับที่คอยติดตามผลงานด้วยแล้ว เงินตรึมค่ะ พูดเลย
สุดท้ายวิธีที่ 10 จัดบ้านให้สวยโดดเด่น เพราะปัจจุบันไม่ว่าจะกองละคร หรือ กองหนัง ต่างก็ต้องหาสถานที่ถ่ายทำกันทั้งนั้น ถ้าบ้านคุณแต่งสวย ๆ เขาก็จะมาเช่าบ้านของคุณ งานนี้ก็นั่งเพลิน ๆ เงินกรูกันเข้ากระเป๋าค่ะ เริ่ดจริง เรื่องกล้วย ๆ ถ้าคุณก็ อยากรวย นะคะ