สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะครับ วันนี้เราอาจจะไม่ได้มาเล่าถึงเรื่องเงินๆทองๆกันโดยตรงซะเท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่าที่จะเล่าต่อไปนี้ ก็เป็นเคล็ดลับดีดี เกร็ดเล็กๆน้อยที่เราจะนำมาฝากกันนะครับ ไม่ว่าท่านจะทำอาชีพอะไรอยู่ ทำงานประจำ รับจ้างทั่วไปหรือไม่อย่างไร ก็สามารถนำเอาทริคนี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ครับ
หลายท่านก็คงได้ศึกษาหรืออ่านหนังสือ, บทความที่เป็น How to หรือเนื้อหาที่ออกแนวสร้างแรงบันดาลใจต่างๆกันมาบ้างแล้ว อย่างเช่น ทำงานอย่างไรให้รวยเร็ว ทำธุรกิจแบบไหนที่กำลังมาแรงแซงทางโค้ง หรือถ้าอยากรวยให้ลาออก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความรู้ที่หาไม่ได้ในห้องเรียน เป็นความรู้ที่มาจากประสบการณ์ล้วนๆและสามารถนำไปใช้ได้จริง เช่นเดียวกันครับ ทุกคนก็อยากรวย อาจจะไม่ได้แบบรวยมากถึงขั้นเป็นมหาเศรษฐีหรือเจ้าของธุรกิจแบรนด์ดังได้กำไรทีละหมื่นล้าน แค่มีเงินใช้ไม่ขาดมือ มีพอเลี้ยงพ่อแม่ เลี้ยงชีวิตน้อยๆ สร้างครอบครัวที่อบอุ่นได้ กินอยู่แบบไม่อดๆยากๆ เวลาว่างได้ไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับหนึ่งชีวิต ใช่ไหมล่ะครับ
นั่นแหละครับ คนที่ชอบทะเยอทะยานอยากไปสู่จุดมุ่งหมายสูงๆ ก็ปล่อยเขาไปครับ แต่ถ้าเราไม่ต้องการอะไรมากเกินไปที่กล่าวมา การใช้ชีวิตแบบมนุษย์เงินเดือน ทำงานประจำก็รวย ก็สามารถอยู่แบบมีความสุขได้เช่นเดียวกัน โดยเริ่มจากความพอเพียงครับ พอเพียงคืออะไร พอเพียงก็คือความพอดี ไม่โลภมากและไม่สุดโต่งจนเกินงาม ทำอะไรก็มีเหตุมีผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำงานหรือการใช้เงิน สังเกตครับว่า อะไรที่เกินพอดีนั้นย่อมทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี อย่างเช่น การทำงานหนักเกินกำลังเพราะอยากมีเงินเยอะๆ
ถ้าลองมาวิเคราะห์ดูแล้ว มันก็ล้วนมีสาเหตุที่เกิดจากความไม่พอดีและมีความอยากได้มาก เมื่อต้องการมากก็ต้องหามาก ยิ่งหามามากก็เหนื่อยมาก ทำให้ร่างกายทรุดโทรมเร็วขึ้น หรือการใช้จ่ายเงินที่มากกว่ารายได้ก็แน่นอนครับอันนี้ ผลเสียคือ ไม่มีเงินใช้ เงินขาดมือ ใช้ชีวิตก็ลำบาก เดือนชนเดือน เดือนแล้วเดือนเล่า ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ การเป็นหนี้ ที่นอกจากจะต้องหามาใช้แล้วยังต้องแบ่งบางส่วนไปใช้หนี้ที่ก่อขึ้นอีก นี่ล่ะครับข้อเสียของความไม่พอดี
เมื่อเรารู้เช่นนี้แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เราจะเริ่มปรับตนเองเสียใหม่ ถ้าอยากมีการงานและการเงินที่มั่นคงลงตัวนั้น ให้เริ่มจากการสำรวจตนเองก่อนว่า มีความสามารถอะไรบ้างและเหมาะสมที่จะทำงานแบบใด เช่น คนที่มีทักษะด้านการใช้คอมพิวเตอร์ เขียนโปรแกรม ออกแบบ อาจจะทำงานประจำกับบริษัทหรือเป็นฟรีแลนซ์ก็รายได้ดี เมื่อมีงานทำที่เป็นรายได้หลักๆแล้ว เราก็ดำเนินขั้นตอนต่อไปของเราได้เลย ต่อนี้จะเป็นทริคเล็กๆที่จะเล่าสู่กันฟังนะครับ
1. อาชีพเสริมหลังทำงาน
มีงานหลัก ถ้าอยากมั่นคงก็หาอาชีพเสริมทำไปด้วย ใช่แล้วล่ะ อาชีพเสริมหลังจากทำงาน(แต่ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องเวลาด้วยนะครับ) ตอนแรกอาจจะไม่ได้ราบรื่นแบบที่หวังไว้ แต่อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานให้กับอนาคตครับ อย่างเช่น ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ อาจจะทำงานฟรีแลนซ์ ,ขายของที่ตลาด,นั่งเขียนนิยายอยู่บ้าน,รับเป็นวิทยากรให้ความรู้,สอนพิเศษ หรือถ้าพอมีทุนสักหน่อยก็ลงเล่นหุ้น ลงทุนในกองทุนรวม จะเป็นวิธีที่ช่วยให้มีเงินงอกเงยขึ้นมาได้บ้าง
2. อดทนไม่อดตาย
แต่มีเวลาน้อย แนะนำว่าต้องขยัน ประหยัดและอดทนครับ สืบเนื่องจากข้อแรก ถ้าที่บ้านไม่ได้รวยมาก่อน ไม่มีเงินทุน เราก็ต้องมีวิธีในการรักษาเงินควบคู่ไปกับการหาเงินด้วยอย่างเช่น การทำงานเก็บเงินทีละเล็กทีละน้อย เงินส่วนนั้นจะต้องไม่นำมาใช้จ่ายและต้องมีวินัยในการออมมากๆ พอผ่านวันเวลายาวนานไป คุณก็จะพบว่า คุณมีเงินจำนวนหนึ่งพอที่จะสามารถนำไปลงทุนต่อไปได้ และนั่นก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่นคงทางการเงินที่ดี
3. ลงทุนมากเสี่ยงมาก
งานประจำเป็นรายได้หลัก การลงทุนเป็นรายได้เสริม(ที่สามารถสร้างรายได้ที่มากกว่างานหลัก) เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ครับ อาจจะไม่ต้องลงทุนเพื่อหวังกำไรมาก ทำแค่พอประมาณก็ได้เช่นเดียวกัน ไม่ใช่แค่เพียงลงทุนกับหุ้นได้เพียงอย่างเดียว ถ้าใครชอบแบบที่ความเสี่ยงน้อยและอยากมีเงินไว้ใช้ในอนาคตก็สามารถลงทุนกับการฝากเงินแบบประจำกับธนาคาร ก็จะได้รับผลตอบแทนที่เป็นดอกเบี้ยในระยะยาว เป็นต้น
4. ทำประกัน
นอกจากการฝากประจำแล้ว การสร้างความมั่นคงสามารถทำได้ด้วยการทำประกันชีวิต ทั้งแบบระยะสั้น 10 ปี หรือระยะยาว เป็นต้น เมื่อถึงวัยเกษียณก็สามารถถอนเอาเงินประกันคืนและได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สัญญากรมธรรม์ระบุไว้ อย่างน้อยก็เป็นเงินสำรองเลี้ยงชีพในยามแก่เฒ่า เมื่อหาตอนแก่ไม่ได้ก็ต้องรีบเก็บตั้งแต่ตอนหนุ่มมีกำลังมีเรี่ยวมีแรง จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลานในอนาคต เพราะลูกๆของเราก็ต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัวของเขาในรุ่นต่อๆไปเหมือนกัน
5. ออมเงินวันนี้
การออมเป็นวิธีที่คลาสสิคที่สุด ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ถ้ายังมีวินัยกับการออมไม่ได้ อย่างอื่นก็อย่าหวังว่าจะไปได้สวยครับ เพราะการออมทำให้เรารู้คุณค่าของเงิน และการออมเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย โดยเริ่มจาก 5 บาท 10 บาทเล็กๆที่มีในกระเป๋า ไปจนถึงการกำหนดจำนวนเงินในการออมในแต่ละเดือน เงินจำนวนเหล่านี้ล่ะครับที่จะช่วยสร้างความมั่นคง อย่าดูความรวยแต่เพียงรายได้ที่รับเข้ามาเท่านั้น แต่ให้ดูจำนวนเงินที่เหลืออยู่ด้วยว่าเก็บออมได้เท่าไหร่ และอย่าดูถูกเงินจำนวนน้อย เพราะเงินน้อยนี่ล่ะครับ เมื่อนำมารวมกันก็จะได้เงินในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นเอง
และนี่ก็เป็นวิธีการที่ไม่ว่าใครกำลังประกอบอาชีพใดอยู่ก็สามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องไปเดือดร้อนใคร สิ่งสำคัญที่สุดก็คืออย่าลืมตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แล้ววิธีการมันจะตามมาเองในที่สุดครับ