ทำไมคนเราทุกวันนี้ถึง อยากมีเงิน ทั้งๆที่มันควรจะเป็นคำตอบที่ว่าอยากจะมีความสุขมากกว่าเพราะอะไร? แต่สมการหลักการทางการคิดแล้ว นั่นก็คือการจะมีความสุขได้ในชีวิตทุกวันนี้ คุณจะต้องมีเงินจะให้มาเหมือนเมื่อก่อนนั้นมันคงไม่ได้แล้วละ..มีความสุขโดยที่ไม่ต้องมีเงินน่ะหรอ ยาก! เพราะ อะไร??
คุณลองคิดดู ทุกวันนี้ ค่าน้ำค่าไฟเราทุกบ้านต้องจ่าย เงินต้องหาซื้อข้าวซื้อปลา ไหนจะจิปาถะเรื่องเที่ยวกิเลสตัณหา การจะไปเที่ยวทั้งที อยากไปสบายๆ รถต้องมี ดีหน่อยนั่งเครื่องบินหรือรถทัวร์ เงินก็ต้องมี มันต้องใช้เงินกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้น แล้ว สรุปหลักการคิดง่ายๆ เลยคือ มีเงิน แล้วความสุขจะตามมา มีเงินแล้วก็จะมีความสุข นั่นเอง เพราะแบบนี้ไงทุกคนถึง อยากมีเงิน กันก็เพราะว่าการมีเงินนั้นมันสามารถตอบโจทย์ ทุกๆกิเลสในตัวของเราได้ ไม่ว่าจะอยากซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อเครื่องสำอางค์ชนิดเทกระจาดขายได้หรือ เอาไปขายโรงเกลือได้นี่ก็ยังได้แค่มีเงิน!!!
แน่นอนค่ะเราบอกว่า แค่มีเงิน!!! แต่มันไม่มีนี่สิ!!!! ก็เพราะมันไม่มีไง ทุกวันนี้คนถึงต้องทำงานเพื่อหาเงิน เก็บเงินจนหัวหงอกเพื่อที่จะได้มีความสุข แต่เวลานั้น่ช่างแสนสั้นไม่เอื้ออำนวยการทำงานของหญิงแกร่งชายกล้าอย่างเราๆเอาซะเลยเพราะแบบนี้แล้วเราเลยไม่ได้ใช้เงินที่เราหามา แต่ไปหาคำตอบพร้อมสตีฟจ็อบว่า “ตายแล้วจะไปไหน” นั่นแหละ! ไปเป็นเพื่อนกันเลย ไปตามหาคำตอบกันฮ่าๆ
คุณเคยคิดไหมว่า ทำไมวันวันนึง เราต้องมานั่งทานแบบนี้ด้วยว่ะเนี่ย! ตื่นเช้าทำไมกัน ยืนอยู่บนรถเมล์คนเบียดเสียดทำไมกัน และทำไมเราจะต้องมาฟังคนที่เราเรียกว่า บอสเอยละ เจ้านาย เอยละ บ่นจนหูชาไปถึงสมองซีกขวา ทำไม?? Why whyทำไม?? รู้อะไรไหม? ถ้าคุณกำลังคิดว่าเออ! หนังสือเล่มนี้มันก็พูดถูก ทำไมกัน? ทำไม ตอนนี้ถ้าคุณเพิ่งคิด คนที่คิดก่อนหน้าคุณนั้นคงมีเงินเป็นสิบสิบล้านแล้วละ! คนที่เขาคิดแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้ว ก็ลาออกจากงานกันไปตามๆกัน อ่าวเอ็ย! ลาออกจากงานงี้ ก็ไม่มีอะไรมาจุนเจือชีพสิจะดำรงชีพอย่างไร เงินไม่มี ข้าวปลาจะซื้อจะจัดแจงยังไงไหนจะค่าน้ำไฟ เผลอค่าห้องเช่า ค่าผ่อนรถผ่อนบ้านละ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งมีคำถามเยอะในหัวกะโหลกเลย จะบอกว่า คนที่เขาลาออกใช่ว่าจะออกเพราะบริษัทไล่แต่ ที่คนที่คิดแบบคุณก่อนหน้านี้เขาลงออกเพราะว่าหันไป ทาง การเป็น ธุรกิจส่วนตัวหรือ SME แทน แน่นอนค่ะว่า พวกนี้ เขาคงเบื่อกับการทนเป็นลูกจ้างหรือมนุษย์เงินเดือนแล้วหรือเราจะเรียกบุคคลพวกนี้ว่า “ผู้บรรลุ” ก็ได้…………..
ผู้บรรลุเหล่านี้ จะใช้เวลาส่วนใหญ่กับการขุกอยู่กับโปรเจคการลงทุนลงแรงลงระยะเวลา แน่นอนคุณก็ทำ ไม่ลงทุน ลงแรง ลงระยะเวลา แต่ทำไม?? ผลที่ได้คุณถึงได้ ต่อเดือนเต็มที่แค่ 2 – 3 หมื่น / เดือน ทั้งๆที่พวกนี้ เขาได้ต่อเดือนหลักแสนหลักล้านทำไม?? เขาว่ากันว่าบุคคลที่ มีคำถามมากๆ ในสมองคือผู้ที่ ใฝ่ใคร่อยากจะรู้ และ สุดท้ายแล้วผลของการอยากรู้ ก็ทำให้เขาเป็นผู้รู้เหมือนที่เขาอยากจะรู้ มันเป็นสิ่งที่ดีที่จะอยากรู้ แต่บางทีการอยากรู้อาจจะทำให้ คุณนั้นไม่มีคำตอบ จนเครียดแล้วถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตกตายได้ เพราะฉะนั้นอะไรที่ มีประโยชน์ค่อยอยากรู้ ถ้าอะไรที่ไม่ทำให้เรารวย อย่าไปรู้มันเลย เสียเวลาเปล่า…
**รู้จักคำว่า ลงทุนสูงกำไรสูง ลงทุนต่ำกำไรต่ำไหม??** แน่นอนค่ะ สิ่งที่พวกคุณกำลังสงสัยอยู่ว่าทำไม เราไม่ได้เงินเดือนแบบเขาหรือไม่มีเงินต่อเดือนได้สูงๆ หลักแสนหลักล้านนั่นก็เพราะคุณ อยู่ในระดับของผู้ “กำลังบรรลุ” ดีเลย์ ขอแทน ผู้ที่บรรลุ คือพวกที่เปิดธุรกิจ มีบริษัท ประสบความสำเร็จ ส่วนผู้ที่กำลังบรรลุนั้นคือ พนักงานเงินเดือน หาเช้ากินค่ำ ทำงานไปวันๆ ไม่มีจุดยืนบั้นปลายชีวิต ไม่มีแนวทางความคิดที่อยากจะ ทำอะไร………. นี่แหละ “ผู้กำลังบรรลุ” เปรียบเทียบไม่ยากเพราะคุณ ไม่ได้ลงทุน ถึงแม้จะบอกว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ต่ถามหน่อยค่ะว่า?? เสี่ยงที่จะอยู่ที่เดิมจนวันตาย กับเสี่ยงที่จะตาย แต่ได้เรียนรู้ รู้จักที่จะทำอะไร รู้จักกับผลลัพธ์ จนเข้าสู่คำว่าความสำเร็จ คุณจะเลือกอะไร?
การเป็นพนักงานเงินเดือนไมใช่ว่าแย่ แต่เราถามก่อนว่า คุณพอใจกับเงินที่คุณได้รับแล้วรึยัง? ถ้ายังเรามาเปลี่ยนแนวคิดใหม่ๆกัน! การเป็นมนุษย์เงินเดือนจริงอยู่ไม่ต้องลงทุน และไม่ต้องลงแรงมากมาย มีงานตั้งแต่แรก ที่สมัครงาน มีเงินตั้งแต่เดือนแรก แต่ผลตอบรับที่ได้มันต่าง เป็นนักธุรกิจ ลงทุน ลงแรงมาก ใช้เวลาเยอะในการตั้งต้นตัวเอง สามเดือนแรก หรือห้าเดือนแรก เผลอๆขาดทุน แต่ผลลัพธ์ที่ผู้บรรลุได้ คือความสำเร็จ และเป็นเสือนอนกิน อยู่บ้านสบายๆไม่ต้องทำอะไรก็ มีเงินใช้ ระหว่างที่ เรามนุษย์เงินเดือนต่อให้มีเงินเก็บ ก็ยังต้องทำงานเพื่อ ขวนขวายคำว่าสบาย หรือคำว่า มีเงินใช้แบบไม่ต้องทำอะไรอยู่ดี ไม่มีใครอยากมานั่งเหนื่อยทำงานหรือมาตากแดดตากลม มาหลังขดหลังแข็ง ทำงานหรอกคุณ! แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก พวกเราก็เช่นกันไม่มี ไม่มีทางเลือกที่จะทำยังไงให้มีเงินพอ เลี้ยงชีวิต ทั้งชีวิต หรือยันชั่วโคตรลูกโคตรหลานต่างหาก กลัว….
……..มันกลัวที่จะไม่มีที่ยืนอยู่บนพื้นดิน กลัวจะได้ไปนอนอยู่บนดินต่างหาก……..